วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559



햇살이 참 좋은날
  แฮท ซา รี ชัม โช อึน นัล
기분 좋은 바람처럼
 คี บุน โช อึน บา รัม ชอ รอม
그댄 내게 다가와
 คือ แตน แน เก ดา กา วา
날 어루만졌죠
 นัล ออ รุ มัน จยอท จโย
그댄 언제나
 คือ แตน ออน เจ นา
날 설레이게 해
 นัล ซอล เร อี เก แฮ

เนื้อเพลง 그대라면 : Yeo Eun (Melody Day) เนื้อเพลงประกอบซีรี่ส์ OST. Beautiful Gong Shim

햇살이 참 좋은날   แฮท ซา รี ชัม โช อึน นัล 기분 좋은 바람처럼  คี บุน โช อึน บา รัม ชอ รอม 그댄 내게 다가와  คือ แตน แน เก ดา กา วา 날 어루만졌죠  นัล ออ ร...

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

The secret of memory : ตอนที่ 5 คำอธิฐาน
ภาพประกอบ : http://meefreephoto.blogspot.com


ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สายตาของคนในโรงเรียนดูเหมือนจะเปลี่ยนไป แม้ว่าฉันกับรุ่นพี่จะไม่ได้ใกล้ชิดหรือคุยกันแม้แต่น้อย พวกเขาก็ยังคงจับตาดูฉันตลอดเวลา

และจากวันนั้นฮีโระก็อาสาจะเป็นเพื่อนเดินไปโรงเรียนและกลับบ้านด้วยกันทุกวัน จนตอนนี้ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว ฉันรู้สึกว่าเราคงจะเริ่มสนิมกันและมันก็ดีไม่น้อยที่มีเพื่อนเดินไปด้วยกันและคุยกันระหว่างทาง

แต่ทว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่วันเสาร์อาทิตย์มาถึงฉันก็มักจะรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที แม้ว่าระหว่างฉันกับรุ่นพี่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นและฉันก็ยังคงทำได้เพียงแอบมองเขาจากไกลๆ แต่ฉันก็ยังชอบและมีความสุขที่ได้ทำแบบนั้น แม้ว่าบางครั้งในจอภาพที่ฉันเห็นจะมีผู้หญิงคนอื่นด้วยก็ตาม

เย็นของวันศุกร์ หลังจากที่เข้าบ้าน จู่ๆฉันนึกถึงเรื่องที่ฮีโระพูดขึ้นตอนที่เราเดินกลับบ้านด้วยกันขึ้นมา

“แปลกนะ ทั้งๆที่ฮารุแอบชอบรุ่นพี่ แต่ผมก็ไม่เห็นฮารุจะทำอะไรให้เขารู้บ้างเลย”

“จริงๆแล้วฉันแค่อยากจะมองเห็นรอยยิ้มของรุ่นพี่ แค่ได้มองรุ่นพี่ฉันก็มีความสุขมากแล้วล่ะ” ^^ ฉันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ถ้าเราชอบใครสักคนเราก็ต้องอยากให้เขารู้ว่าเรารู้สึกยังไงไม่ใช่เหรอ”

ฮีโระยังคงถามต่อ ดูเหมือนเขาจะสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก

“มันก็อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันคงทำไม่ได้หรอก” เพราะฉันไม่มีความกล้ามากพอนี่นา ฮีโระ นายเองก็คงไม่รู้หรอกว่าถึงแม้ว่าฉันจะชอบรุ่นพี่มากเท่าไหร่ รุ่นพี่ก็คงไม่ชอบฉันหรอก ฉันเข้าใกล้รุ่นพี่ไม่ได้ เพราะฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้รอยยิ้มของรุ่นพี่หายไป มันเป็นแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่ที่ฉันย้ายมาเรียนที่นี่ เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าแค่ได้มองรุ่นพี่ห่างๆก็ดีมากพอแล้ว

“การที่เราชอบใครสักคน โดยที่เขาไม่เคยรู้ ผมว่ามันเจ็บปวดมากนะ”

ฮีโระพูดเสียงเศร้าๆ ฉันสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่น้ำเสียงของเขาเบาลง เขามักจะก้มหน้าต่ำลงไปด้วย

“นายก็กำลังแอบชอบใครบางคนอยู่เหรอ”

“มันก็นานมาแล้วล่ะ” รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าของเขา ฉันไม่รู้ว่าควรบอกเขาดีหรือเปล่า แต่อย่างน้อยๆเขาน่าจะได้รู้ไว้ว่ามุนอาชอบเขา

“มุนอาเป็นคนดีนะ เธอเป็นคนตรงไปตรงมา และซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเสมอ และฉันคิดว่ามุนอาชอบนายนะ”

เขาฟังเงียบๆและไม่ตอบอะไร ฉันได้ยินเพียงเสียงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆของเขาเท่านั้น

“พรุ่งนี้วันหยุดแล้ว ไหนๆเธอก็ไม่ได้เจอหน้ารุ่นพี่อยู่ดี เราไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีไหม” ^^

เขาเงยหน้าขึ้นและเปลี่ยนเรื่องพูด แล้วก็...ฝืนยิ้มออกมาอีกครั้ง รอยยิ้มของเขาทำให้ฉันไม่สามารถปฏิเสธคำชวนของเขาได้ เพราะเวลาที่เขาเศร้ามันดูไม่เหมาะกับเขาเอาเสียเลย และถ้าหากฉันต้องปฏิเสธเขาฉันก็คงจะรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ฉันล้มตัวลงบนที่นอนและถอนหายใจเบาๆ

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้วล่ะ”

ฉันหลับตาลงและเผลอหลับไป จนสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อแม่เรียกให้ไปทานข้าว ค่ำคืนของวันหยุดของฉันนั้นผ่านไปอย่างช้าๆ

รุ่งเช้า...

“สวัสดีครับคุณป้า ผมชื่อฮีโระ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับฮารุครับ”

“นี่เธอ...”

“ชู่วว์ เอ่อ ผมมาหาฮารุครับ วันนี้เรานัดกันไว้” ^^

เสียงใครบางคนกำลังคุยกับแม่ของฉัน และแน่นอนว่าต้องเป็นฮีโระอย่างแน่นอน แม่เข้ามาเรียกฉันที่ห้อง และบอกว่าเขารอฉันอยู่สักพักแล้ว แม่เข้ามาถามฉันเบาๆ...

“ลูกกับเด็กผู้ชายที่ชื่อฮีโระเป็นแฟนกันเหรอ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าลูกสาวคนเดียวของเราจะมีแฟนที่หล่อและน่ารักขนาดนี้” ><

“ไม่ใช่นะคะแม่ เราเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ” -O-

แม่ดูจะมีความสุขที่คิดว่าลูกสาวคนเดียวกำลังจะมีแฟนจึงพยายามแซวฉันเรื่องฮีโระ แต่ฉันก็ไม่ได้เขินอะไร แม่คะเราเพิ่งเจอกันได้แค่อาทิตย์เดียวเอง แล้วหนูก็มีคนที่ชอบแล้วด้วยค่ะแม่

“ขอโทษนะ ฉันช้าไปหน่อย”

เมื่อฉันเปิดประตูห้องออกมา ก็เจอฮีโระนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร วันนี้เขาดูแปลกตามากกว่าทุกวันกับชุดที่ดูเท่ห์มากๆในสายตาฉันและนั่นก็ทำให้ฉันแอบอึ้งอยู่เหมือนกัน แม้ว่าเขาจะอยู่ในชุดลำลองที่มีเสื้อเชิร์ตสีขาวกับกางเกงยีนขายาวสีน้ำเงินเข้มที่มีรอยขาดเล็กน้อยและรองเท้าผ้าใบธรรมดาๆ หูฟังสีฟ้ากับกระเป๋าเป้สะพายหลัง แต่มันไม่ธรรมดาสำหรับฉันเอาซะเลย นี่เขาสามารถไปถ่ายแบบได้เลยนะเนี่ย *-*

“โอ๊ะ” o.O เมื่อเขาเจอหน้าฉัน

“มะ มีอะไรเหรอ” ฉันถามด้วยความตกใจ เพราะเขาดูจะช็อคเล็กน้อย หรือว่าฉันจ้องเขามากเกินไปหรือเปล่านะ

“แต่งตัวแบบนี้แล้ว ดูเธอ....ตลกจังเลยนะ ฮ่า” >O<

“เอ๋.....” =[]=

จู่ๆ ฮีโระก็ระเบิดเสียงหัวเราะของเขาออกมา นี่ฉันตลกจริงๆเหรอเนี่ย แค่เสื้อยืดแขนยาวลายชมพูสลับขาวกับกระโปรงสีน้ำตาลเองนะ T.T

“ล้อเล่นน่ะ ล้อเล่น ที่จริงมันก็ดูโอเคดีนะ” ^_^

เขากลับมาพูดปลอบใจฉันด้วยท่าทางเขินอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าฮีโระจะพาฉันไปไหน แต่เขาบอกกับฉันว่า “มันอาจจะช่วยให้ความรักของฮารุสมหวังก็ได้นะ” เขาพาฉันขึ้นรถบัสและในระหว่างที่เรานั่งอยู่บนรถ ฉันเลือกที่นั่งด้านในชิดหน้าต่าง ฮีโระนั่งอยู่ที่นั่งติดกับฉัน

ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง เพราะแม้ว่าเราจะสนิทกัน แต่มันจะไม่รู้สึกแปลกหน่อยเหรอที่เราต้องมานั่งอยู่ข้างๆกันและใกล้กันแบบนี้ ถึงเราจะเป็นแค่เพื่อนกันก็เถอะ แต่ว่าคนอื่นก็อาจจะคิดว่าเรา เอ่อ... เป็นอย่างอื่นก็ได้นะ

“เธอเห็นคนนั้นไหม ด้านหลังเรานะ”

“เห็นสิ ฉันจะบ้าตาย เธอว่าเขาเป็นนายแบบหรือดาราหรือเปล่า”

“ไม่รู้สิ ตอนนี้ฉันอยากจะรู้ว่าผู้หญิงข้างๆน่ะ แฟนเขาหรือเปล่า”

“บ้าน่า ฉันว่าไม่น่าจะใช่หรอก ไม่เห็นจะเหมาะสมกันสักนิด”

แม้ว่าพวกเธอจะพูดกับเบาๆ แต่ฉันก็ได้ยินนะ = = สองสาวที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าของฉันกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พวกเธอหันมามองด้านหลังเป็นพักๆ ฮีโระส่งยิ้มให้กับพวกเธอเมื่อพวกเธอหันมา นั่นยิ่งทำให้พวกเธอยิ่งคลั่งมากยิ่งขึ้น

“เธอมักจะไม่ค่อยพูด ไม่ปฏิเสธ และยอมคนง่ายๆแบบนี้เสมอเลยเหรอ”

“อย่าเพิ่งคุยกับฉันได้ไหมฮีโระ” ฉันกัดฟันพูดให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากให้สองคนนั้นได้ยิน ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องไปแคร์คำพูดของพวกเธอด้วยนะ มันน่าอายตรงไหนถ้าฮีโระจะเป็นแฟนกับฉัน เอ่อ.. ฉันหมายถึงสมมุติอ่ะนะ เฮ้อ แต่ว่าฉันก็เสียความมั่นใจเป็นเหมือนกันนะ T.T เขาดูเด่นเกินกว่าที่จะมานั่งอยู่ข้างฉันจริงๆ ชุดธรรมดาไม่ได้ทำให้เขาดูเหมือนคนธรรมดาได้เลย

ฉันแกล้งเปิดหน้าต่างเพื่อให้สายลมผัดมาโดนหน้า และฉันก็จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงที่เขาคุยกับฉันด้วย ณ ตอนนั้นทำเป็นซะว่าเราไม่รู้จักและไม่ได้มาด้วยกันซะจะดีกว่า แต่แล้วสายลมก็ดันมาทำให้เสียเรื่องซะได้ เพราะมันดันพัดเอาผมยาวๆของฉันไปโดนหน้าของฮีโระซะได้

“เอ่อ ขอโทษ เอ่อ หมายถึง ขอโทษค่ะ”

ฉันพยายามพูดสุภาพกับเขา สมมุติเอาว่าเราไม่รู้จักกัน ฮีโระยังคงยิ้มสดใสและตอบกลับฉันเหมือนกับว่าเขาต้องการเล่นละครตามฉันยังไงอย่างงั้น

“พูดอะไรแปลกๆ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ”

เสียงซุบซิบนินทาเล็กๆน้อยๆได้เข้ามาในหูฉันอีกครั้ง พวกเธอคุยกันว่าฮีโระกับฉันไม่ใช่แฟนกัน และดูเหมือนทั้งสองคนต่างก็อยากจะรู้จักฮีโระซะด้วย แล้วพวกเธอก็รวบรวมความกล้าแล้วหันมาคุยกับฮีโระ

“เอ่อ คือ...สวัสดีค่ะ ถ้าไม่ว่าอะไรพวกเราอยากรู้จักคุณได้ไหมคะ” ^^-

^^ ฮีโระยิ้มกลับไปอย่างใจดี เมื่อไหร่จะถึงป้ายที่พวกเธอจะลงหรือไม่ก็ป้ายที่ฮีโระจะลงสักทีนะ = = แล้วฉันทำไมต้องรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ในตอนนี้ด้วยเนี่ย

“อ่อ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อฮีโระ แล้วพวกคุณล่ะ”

“อ่า ฉันชื่อ เฮมีค่ะ”

“ฉัน ฉัน ฉันชื่อ เซรินค่ะ คือเดี๋ยวพวกเราก็ต้องลงแล้วพวกเราขอ...เอ่อ.. เบอร์คุณด้วยได้ไหมคะ”

พวกเธอเป็นผู้หญิงนะทำไมถึงได้กล้ามากขนาดนี้ ฉันยังไม่กล้าสบตารุ่นพี่เลยด้วยซ้ำ T^T

“เอ่อ ต้องขอโทษด้วยนะ คือผมไม่มีโทรศัพท์หรอกครับ”

“อ่า แย่จัง” T_T

ในที่สุดพวกเธอก็คงจะละทิ้งความพยายามสักทีสินะ หันกลับไปเถอะ ฉันทำตัวไม่ถูกจริงๆ เฮ้อ = = ฉันนั่งอย่างเงียบๆ

“ถ้ายังงั้นฮีโระ ฉันขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหมคะ คุณเป็นดาราหรือนายแบบอะไรทำนองนี้หรือปล่าว”

“ฮะๆ ไม่หรอกครับ ผมเป็นนักเรียน ม.ปลาย ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น” ^O^

ฮีโระหัวเราะออกมา และเขินกับคำชมของพวกเธอ เขาสนุกมากหรือไงนะกับการต้องคุยกับคนแปลกหน้าแบบนี้น่ะ

“อุ๊ย งั้นก็คงอายุพอๆกับพวกเราน่ะสิ อยู่โรงเรียนไหนเหรอคะ เผื่อพวกเราได้ผ่านไปแถวนั้น”

“โรงเรียนซองอึนครับ ถ้าผ่านไปแถวนั้นก็แวะไปเที่ยวบ้างก็ได้นะ” ^^

พวกเขาสนทนากันอย่างไม่ต้องคิดอะไรกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นเขาก็ถ่ายรูปคู่กับทั้งสองสาว โดยให้ฉันเป็นคนถ่ายให้ =..= ดูพวกเธอจะดีใจอย่างแรง ฮีโระหันมาคุยกับฉันหลังจากที่เห็นฉันนิ่งอยู่นาน

“แล้วคุณละ อยากถ่ายรูปกับผมสักรูปไหม”

เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆฉันและแหย่ให้ฉันตกใจเล่น ฉันยังคงไม่หันกลับไปและทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่สองสาวแถวหน้ายังคงหันมาดูฮีโระอยู่เป็นพักๆ และคำถามที่ฉันไม่อยากได้ยินที่สุดก็มาถึง

“ฮีโระ คุณมีแฟนหรือยังคะ คือพวกเราข้องใจนิดหน่อยน่ะค่ะ”

ไม่ใช่ว่าพวกเธออยากจะเป็นแฟนกับเขาหรอกเหรอ หันหลังมาบ่อยๆแบบนี้พวกเธอไม่เวียนหัวอยากอ๊วกบ้างหรือไง ฉันได้แต่คิดในใจ และนับหนึ่งถึงสิบไปจนจะครบร้อยรอบได้แล้ว

“อืม แฟนผมก็นั่งอยู่ข้างๆนี่ไง น่ารักไหม”

“เอ๋!!!!” เราอาจจะสร้างวงประสานเสียงได้ดี ถ้าหากฉันชวนสองสาวเข้าวง เพราะเราสามคนต่างพูดออกมาด้วยความตกใจและมันไม่น่าจะเชื่อ

เฮมี เซริน

( O.O )( O.O )

( O.O )( ^O^ )

ฉัน ฮีโระ

“ไม่น่าแปลกหรอกครับ ผมว่าเธอน่ารักและก็นิสัยดีมากๆ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า ฮารุอย่างอลผมเลยนะ”

เขาหันกลับมาคุยกับฉัน แล้วเอามือมาหยิกแก้มของฉัน เขาทำหน้าเหมือนกับว่าเขาทำผิดมากๆที่ไปคุยกับสองสาวพวกนั้น นี่ๆเราไม่ได้เป็นแฟนกันนะ

“เอ่อ... ฮีโระ พวกเราต้องลงป้ายหน้านี้แล้ว งั้นเอ่อไว้เจอกันนะคะ แล้วก็ไว้เจอกันนะคะคุณแฟน” ^^”

“ดะ เดี๋ยว!!!!!”

ฉันเอื้อมมือหมายจะห้ามพวกเธอและขอให้เธอฟังฉันก่อน แต่เฮมีและเซรินก็ยิ้มอย่างแหยๆแล้วลงจากรถไป เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ทันได้บอกเธอเลย ฉันยังไม่มีแฟน T.T

“ฮีโระ นี่ นาย...”

“ผมว่าเธอน่าจะแสดงอารมณ์ที่รู้สึกออกมาบ้างนะ อย่างเช่นเวลาที่ดีใจก็หัวเราะออกมาดังๆ ยิ้มให้กว้างๆ แบบนี้ ^O^ เวลาที่เสียใจก็ร้องไห้โฮ TOT หรือเวลาที่โกรธก็น่าจะใส่อารมณ์ให้มันเต็มที่ไปเลย .\/.”

ยังจะมีหน้ามาบอกกันได้

.\/. ฉันหันหน้าไปหาเขา

“ฮารุทำได้แล้ว แสดงว่าเริ่มจะพัฒนาแล้วนะ” ^O^ เขายิ้มกว้างอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะดีใจมากที่เห็นว่าฉันสามารถแสดงอารมณ์ที่ฉันรู้สึกออกไปได้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกอยากจะแสดงมันออกไป

“ผมแค่ไม่อยากให้ใครมาว่าฮารุ เพราะไม่ว่าคนที่โชคดีคนนั้นจะเป็นใคร แต่ผมก็คิดว่าฮารุเป็นคนที่ดีและเหมาะสมกับเขาแน่นอน” ^^

ฮีโระยิ้มออกมาอย่างใจดี ฉันคิดว่าเขาคงไม่ได้โกหกฉันหรอก และฉันก็คงจะโกรธเขาไม่ลงด้วย

“เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราจะรู้สึกอะไรก็ควรจะแสดงมันออกไปเพื่อให้คนอื่นได้รับรู้บ้างนะ”

“เฮ้อ อื้ม” ^^ สุดท้ายแล้วฉันก็โกรธเขาไม่ลงจริงๆ ฉันพยายามแบะยิ้มออกมาให้กับฮีโระและเขาก็ยิ้มกลับมาให้ฉัน ผู้โดยสารขึ้นมาเรื่อยๆ ฉันได้ยินพวกเขาคุยกันเมื่อเห็นฮีโระอีกครั้ง

“ฮีโระน่าจะไปเป็นดารา นายต้องดังมากแน่ๆ”

ฉันแซวฮีโระไปแบบนั้น เขาหัวเราะออกมาเบาๆ

หลังจากที่เรานั่งรถมาได้เกือบสองชั่วโมง...

“ถึงแล้วครับ กำแพงแห่งความหวัง”


คนขับรถตะโกนบอก ฮีโระลุกขึ้นและบอกฉันว่าเรามาถึงแล้ว หลังจากที่ลงรถ ฉันรับรู้ได้ถึงกลิ่นไอของธรรมชาติและผู้คนที่มากมาย เราเดินเข้าไปในซอยถัดจากถนนสายหลักที่เราเดินลงจากรถ ทางแยกด้านหน้ามีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปกันอย่างเนืองแน่น

สถานที่นั้นคือกำแพงแห่งความหวังที่ทั้งสองฝั่งถูกสร้างเป็นกำแพงทอดยาวคู่ขนานกันออกไป เป็นกำแพงสำหรับคนที่มีความหวังหรือความต้องการสิ่งใดจะพากันมาเขียนความหวังของตัวเองลงบนกำแพงนี้ แนวคิดของการสร้างกำแพงแห่งความหวัง ฉันว่ามันต้องมาจากกลุ่มวัยุร่นที่ชอบแอบมาพ่นสีเล่นที่กำแพงแน่เลย =..= ฉันเคยเห็นแต่ในทีวี และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินอยู่บนถนนสายนี้

“ว้าว นี่ดูยิ่งใหญ่กว่าที่เห็นในทีวีซะอีกนะเนี่ย ฮารุเคยมาหรือเปล่า”

“นี่เป็นครั้งแรกเลยล่ะ”

ฮีโระทำท่าตื่นเต้น เขามองดูรอบๆอย่างอัศจรรย์ใจดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้มาที่นี่เหมือนกัน เราสองคนเดินไปตามถนนที่อาจจะเบียดเสียดกับผู้คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่มีความหวังลดละความพยายามที่จะมาเที่ยวที่นี่ ถนนนี้แห่งนี้ถูกปิดการจราจรเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้คนเดินเท่านั้น

สองข้างกำแพงมีแต่คนยืนประจำจุดที่พวกเขาอยากจะเขียนความหวังของพวกเขาลงไป มีร้านขายของตั้งอยู่ริมทางหลายร้าน ทั้งร้านอาหาร ร้านน้ำดื่ม ร้านขายของที่ระลึก ราวกับว่าที่นี่มีเทศกาลยังไงยังงั้น ฮีโระบอกให้ฉันยืนรอ ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับสีช็อค

“สีชมพูเหรอ” สีที่เขายืนให้ฉันและในมือของเขาเป็นสีฟ้า

“ไปหาที่เขียนกัน” ฮีโระรีบคว้ามือของฉัน แล้วก็เดินหาพื้นที่ว่างบนกำแพง

“เขียนมันตรงนี้สิ ผมจะไปตรงนู้น” เขาชี้ไปยังกำแพงที่ห่างออกไปอีกช่วงหนึ่ง

“เขียนในสิ่งที่เธอหวังนะ” ^^

เขาบอกฉันและรีบไปเขียนความหวังของเขาที่กำแพงอีกช่วงหนึ่ง ฉันยืนอยู่หน้าพื้นที่ว่างที่พอมีนิดหน่อยนั้น “H&CH” ฉันเขียนเพียงประโยคสั้นๆ ก่อนที่จะหลับตาภาวนาบางอย่าง มันเป็นตัวอักษรย่อจากชื่อของฉันและรุ่นพี่ หลังจากนั้นฉันจึงรีบเดินไปหาฮีโระ แต่ดูเหมือนเขาไม่อยากจะให้ฉันเห็นความลับของเขาเท่าไหร่

ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฉันน่าจะเขียนอะไรถึงเขาบ้าง ฉันเดินกลับไปที่เดิม ด้านล่างของชื่อรุ่นพี่ชินฉันได้เขียนอีกชื่อหนึ่งลงไป “Hero เพื่อนที่ดีของฉัน” ฉันหลับตาอธิฐานอีกครั้งและหวังว่าฮีโระจะสมหวังกับสิ่งที่เขาต้องการ หลังจากที่เขียนเสร็จฉันก็เดินไปหาเขา แต่เขาก็ไม่ยอมให้ฉันได้เห็นแม้แต่น้อยแถมยังพยายามเอามือของเขามาปิดตาฉันไว้อีก มันทำให้ฉันมองไม่เห็นทางและเดินไปชนผู้คนที่ผ่านไปมา จนฉันต้องดุเขา

“นี่ อย่าทำยังนี้สิ ฉันมองไม่เห็นทางเลย” .\/. ฉันทำเสียงดุใส่เขาและดูเหมือนเขาจะพอใจอย่างมาก และยังคงเล่นปิดตาฉันต่อ ฉันจึงพยายามแกะมือของเขาออก หลังจากที่แกะมือของเขาได้ฉันก็วิ่งไล่ตีเขายกใหญ่ ระหว่างที่วิ่งกันอยู่นั้นฉันรู้สึกได้ถึงรัศมีที่เปล่งประกายของฮีโระ เขาโดดเด่นแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย คนเหล่านั้นต่างก็คิดว่าเขาเป็นดารา บางคนก็ยกโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปของเขาด้วย

“เห็นไหมฮารุโกรธจริงๆด้วย ฮะ ฮะ”

เขาวิ่งและหัวเราะไปด้วยโดยที่ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่าจะมีใครจ้องมองเขาบ้าง ส่วนฉันเองก็อดขำตัวเองไม่ได้ที่ยังคงวิ่งไล่ตีเขาอยู่อย่างนั้น

“ฮ๊า เหนื่อยจังเลยแฮะ ฮารุวิ่งเร็วไม่เบาเลยนะ แถมมือก็หนักด้วย ไปเก็บกดที่ไหนมาเนี่ย” -O-

เขาล้อฉันพลางทำให้ฉันรู้สึกโมโหเขาขึ้นมาอีกครั้ง

“บางทีก็รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ การที่ได้แสดงอารมณ์บางอย่างที่เรารู้สึกออกไปน่ะ”

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอีกครั้ง สายลมอ่อนๆพัดโดนใบหน้าของพวกเรา ตอนนี้เรานั่งอยู่ที่ม้านั่งริมทางบนถนนสายกำแพงแห่งความหวัง ฮีโระนั่งพักได้เดี๋ยวเดียวเขาก็วิ่งออกไปไหนสักแห่งโดยไม่บอกฉัน

ในระหว่างที่ฉันนั่งรอฮีโระก็เพิ่งจะได้สังเกตเห็นว่า ในที่ที่มีคนเยอะแยะแบบนี้ จะมีคนที่รู้จักเราอยู่ในนี้หรือปล่าวนะ พลันในใจก็นึกสนุกว่ามันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญมากๆหากมาเจอคนที่รู้จักในที่แบบนี้ นั่งคิดอะไรเพลินๆได้ไม่นานนักฮีโระก็กลับมาพร้อมอะไรบางอย่างในมือ

“หลังจากที่เด็กๆวิ่งเล่นเสร็จพวกเขามักจะอยากทานของเย็นๆเหมือนอย่างพวกนี้ใช่ไหม”

เขายื่นไอศกรีมโคนมาให้ และนั่งลงข้างๆฉัน ใช่แล้วล่ะ ถ้าหากว่าฉันยังเป็นเด็กฉันก็คงอยากจะได้ไอศกรีมแบบนี้เหมือนกัน หลังจากที่เราหายเหนื่อยแล้ว ฮีโระพาฉันไปเดินเล่นตลาดที่อยู่ห่างออกไปเกือบกิโล เขาบอกฉันว่าเขาดูในทีวีและว่ากันว่าถ้าหากใครมาถึงที่นี่แล้วไม่ได้มาเดินตลาดแห่งนี้ก็เหมือนมาเสียเที่ยว

พวกเราจึงค่อยๆเดินไปจนถึงตลาด ซึ่งตลาดแห่งนี้จะขายของสำหรับคนที่มีความหวังและความรัก ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นความรักแบบคู่รักเท่านั้น มีของที่ขายสำหรับเป็นของขวัญให้เพื่อน ให้คนรัก และให้คนในครอบครัว

“มีแต่ของที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยนะ นั่นเสื้อคู่ กระเป๋าคู่ รองเท้าคู่ แก้วน้ำคู่ มีอะไรที่ผมจะซื้อได้บ้างน้า”

ฮีโระบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว ดูเหมือนเขาจะอยากซื้ออะไรบางอย่าง แต่เพราะมันเป็นของที่ต้องใช้คู่กัน เขาเลยไม่กล้าซื้อ

“ฉันซื้อคู่กับฮีโระก็ได้นะ ถ้ามีของที่อย่างได้น่ะ” ฉันบอกกับเขา

“ไม่เป็นไร ดูเหมือนจะยังไม่เจอของที่อยากได้” *-* เขาทำหน้าเหรอหรา แต่ฉันว่าเขามีบางอย่างที่อยากได้แน่นอน เมื่อเดินไปได้สักพัก ฉันก็เจอกับร้านที่ขายพวงกุญแจเล็กๆเป็นของกระจุ๋มกระจิ๋ม ในระหว่างที่ฉันกำลังเลือกอยู่นั้น

“ฮีโระว่าอันนี้น่ารักไหม” ฉันพูดและยื่นพวงกุญแจอันหนึ่งหมายจะให้ฮีโระดู แต่ปรากฏว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันว่าเขาต้องแอบไปซื้อของบางอย่างที่อยากได้และไม่อยากให้ฉันรู้แน่นอน

“เอาสามอันนี้ค่ะ” ^^


ฉันยื่นพวงกุญแจที่เลือกเสร็จให้กับคนขายและบอกให้เขาแยกใส่ถุงกระดาษใบเล็กๆให้ พวงกุญแจสามอันที่ฉันซื้อฉันตั้งใจที่จะให้ รุ่นพี่ (ซื้อไปก่อน หวังว่าสักวันนึงจะมีความกล้าพอที่จะยื่นให้ด้วยตัวเอง) ฮีโระ และมากิ พวกเขาทั้งสามต่างก็เป็นคนที่ฉันนึกถึงเสมอ

พวงกุญแจของรุ่นพี่เป็นรูปร่มอันเล็กๆ ของมากิเป็นรูปหน้าผู้หญิงหน้าตาร่าเริง ส่วนของฮีโระเป็นรูปหูฟังที่บังเอิญมีสีฟ้าเหมือนกับของเขาพอดี ฉันเก็บพวงกุญแจทั้งสามอันไว้ในกระเป๋าก่อนที่ฮีโระจะกลับมาทัน

“ไปไหนมาเหรอ ฮีโระ” *O*

“หลงทางน่ะ อยู่ดีๆฮารุก็เดินเร็วขึ้นจนผมเดินตามแทบไม่ทัน” - -“

“แน่ใจนะ ว่าไม่ได้ไปแอบซื้ออะไรคนเดียว”

“ไม่มีเลย ฮะๆ”

ดูท่าจะจริง เขายกมือทั้งสองให้ฉันดูว่าเขาไม่ได้ของอะไรมาเลยสักอย่าง หลังจากที่พวกเราแวะทานบะหมี่เสร็จก็ขึ้นรถกลับทันที ฉันไม่รู้ว่าเพราะบะหมี่สองถ้วยกำลังอืดอยู่ในท้องของฮีโระหรือว่าเพราะสายตาของวัยรุ่นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งด้านหลังสุดที่เอาแต่จ้องฮีโระที่นั่งอยู่แถวหน้ากันแน่ เขาถึงได้บ่นว่าง่วงหลังจากขึ้นรถได้ไม่ถึง 5 นาทีแบบนี้ ฉันมองฮีโระที่นอนหลับในขณะยังใส่หูฟังอยู่

“ฟังเพลงอะไรอยู่นะ” ฉันเริ่มสงสัยขึ้นมาว่าเพลงที่เขาฟังจะเป็นเพลงนี้แบบไหนกันนะ ฉันค่อยๆแอบเอาหูฟังออกจากหูของเขา แต่ก่อนที่ฉันจะได้ฟัง

หมับ... มือของเขาจับมือของฉันไว้

“เพลงนี้มันไม่น่าฟังหรอก อย่าฟังเลย”

ว่าแล้วเขาก็แย่งหูฟังไปจากมือของฉันและใส่กลับไปที่หูของตัวเองเหมือนเดิม

“คนใจร้าย”

ฉันบ่นเขาในขณะที่ทำหน้าโกรธ ฮีโระขำออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะหลับตาลง




The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



ติดตามอ่านตอนล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Dek-d.Com The secret of memory
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 5 คำอธิฐาน

ภาพประกอบ : http://meefreephoto.blogspot.com ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สายตาของคนในโรงเรียนดูเหมือนจะเปลี่ยนไป แม้ว่าฉันกับรุ่นพี่จะไม่...

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

The secret of memory : ตอนที่ 4 คนที่รู้ความลับ
ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto

ฉันกลับเข้าห้องเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ พลันสายตาก็เหลือบไปเจอกับเจ้าคุกกี้น้องหมียิ้มเข้าพอดี ทำให้ฉันเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่าคนที่ยิ้มได้ตลอดทั้งวันอย่างเขาจะทำอะไรอยู่นะ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันจึงลองเปิดผ้าม่านดู

จากหน้าต่างกระจกห้องของฮีโระที่เปิดผ้าม่านทิ้งไว้ ทำให้ฉันเห็นได้ชัดเลยว่า เขากำลังเดินมาที่ริมหน้าและนั่งลงที่เก้าอี้ หลังจากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปหยิบหูฟังสีฟ้าขึ้นมาใส่หู

ฉันยังคงเฝ้ามองเค้าจากหน้าต่างห้องตัวเองราวกับว่าถูกสะกดจิตให้ละสายตาจากเขาไม่ได้ ตอนนี้ใบหน้าที่ฉันไม่คุ้นเคยก็เกิดขึ้น ใบหน้าและสีหน้าตอนที่เขาหลับกลับเป็นใบหน้าที่ดูเงียบขรึมและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ว่าแต่...นี่ฉันเผลอมองเขาไปขนาดแค่ไหนกันนะ ฉันหันไปคุยกับคุกกี้หมีน้อยในชวดโหล ฉันคิดว่าฉันควรขอบคุณเขาอีกครั้งสำหรับคุกกี้นี้

“ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับคุกกี้หมีที่น่ารัก”


ฉันใช้ปากกาเคมีเขียนมันลงไปในกระดาษสีฟ้าที่เหลือจากการทำรายงาน และแปะมันไว้ที่หน้าต่างกระจกของฉัน ฉันหวังว่านายคงจะเห็นมันนะ


“ฮีโระ”

.....................................................................................................................................................................................................................

รุ่งเช้าของอีกวัน ยังคงเป็นเหมือนทุกๆวันที่ฉันได้ไปโรงเรียน ฉันจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นทุกครั้ง แค่ได้เจอหน้ารุ่นพี่ก็มีความสุขมากๆแล้วล่ะ หลังจากที่ฉันเตรียมตัวเสร็จก็รีบออกจากบ้านจนลืมดูไปว่าอากาศวันนี้เป็นยังไง

และเมื่อออกมาถึงหน้าบ้าน ฉันก็เพิ่งสัมผัสได้ถึงสายฝนเม็ดเล็กๆจำนวนมากตกลงมากระทบตัวของฉัน และก่อนที่เสื้อผ้าของฉันจะเปียกไปมากกว่านี้ ฉันคิดว่าฉันต้องการร่มนะ ร่ม ร่ม และร่มก็มาจริงๆ ร่วมคันหนึ่งถูกกางอยู่บนหัวของฉัน O.O มันทำให้ฉันแอบคิดถึงตอนที่ฉันได้เจอรุ่นพี่ครั้งแรก ฉันแอบหวังว่าหากฉันหันไปจะพบใบหน้าของคนๆนั้น แต่ว่า..

“ยืนตากฝนแบบนี้ ระวังนะจะไม่สบาย แล้วก็จะไม่ได้ไปโรงเรียน สำคัญที่สุดคือ ฮารุจะไม่ได้เจอหน้ารุ่นพี่ด้วย” *O*

กลายเป็นฮีโระที่ยิ้มแป้นออกมาในขณะที่มือกางร่มให้ฉัน เอ่อ มันก็น่าตกใจอยู่หรอกนะที่เขาจะพลุบๆโผล่ๆมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว

“ขะ ขอบคุณ” o///o ฉันเอ่ยออกไปด้วยความเขินเล็กน้อย เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่าฉันชอบรุ่นพี่ ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวแต่เขากลับรู้ความในใจของฉัน และก็แปลกที่ฉันไม่ได้ปฏิเสธเขาแม้แต่น้อย ความรู้สึกที่เหมือนคนคุ้นเคยกันมานานเริ่มเกิดขึ้น ฉันเริ่มชินกับการที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ(นิดนึง) ลองกลับมาคิดใหม่ ดูๆไปแล้วเขาก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนี่นะ ฉันหันไปมองเขาอีกครั้ง แต่ว่าเราจะอยู่ใกล้กันเกินไปไหม ใต้ร่มคันเดียวกันเนี่ย

“เอ่อ ฉัน...กลับไปเอาร่มที่บ้านดีกว่า” -///-


การที่ต้องใช้ร่มเดียวกันแบบนี้ บางทีมันก็รู้สึกแปลกๆอยู่หรอกนะ ฉันเดินออกมาจากร่มของฮีโระ แต่แล้วเขาก็คว้าแขนของฉันไว้

“ไม่ต้องหรอก ไปเถอะเดี๋ยวจะสายเอา” ^^+

เขายิ้มร่าเริงเหมือนกับไม่มีอะไร ก่อนที่ฉันจะทันปฏิเสธเขาก็ดันกระเป๋าของฉันและเราก็ต้องเดินไปโรงเรียนด้วยกัน แถมร่มคันเดียวกันด้วย = = นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันคิดเอาไว้เลยนะเนี่ย

“เมื่อวานน่ะ ผมเห็นc]h;นะ ไอ้ข้อความที่ติดอยู่ที่หน้าต่างน่ะ” ^-^


“อ่อ เหรอ”


“น่ารักจังเลยนะ ฮารุน่ะ” ^o^


"...." =///=


นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชมว่าฉันน่ารัก และมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสายตาของฮีโระหันมาจ้องหน้าฉัน และเอาแต่ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่

และแล้วฉันกับฮีโระก็เดินมาจนถึงหน้าโรงเรียน สายฝนที่โปรยปรายลงมาเริ่มซาลง เหลือเพียงละอองฝนเล็กๆเท่านั้น รุ่นพี่ยังคงอยู่ที่หน้าโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน ฉันได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินผ่านประตูเข้าไปในโรงเรียน

แต่ทว่าเมื่อฉันรู้สึกตัวอีกทีก็ปรากฏว่า ตัวฉันเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ละลองฝนกำลังตกลงมากระทบกับหัวของฉันดังเปาะแปะ ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากพื้นและมองเห็นฮีโระวิ่งเข้าไปในโรงเรียน เอ่อ... เขาทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก นี่เขาเล่นอะไรของเขากันเนี่ย ฉันเริ่มจะโมโหเขาขึ้นมาจริงๆจังๆ ฉันขอกลับคำที่บอกว่าเขาเหมือนจะเป็นคนดี

“เอ่อ....” O.O

ฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ละอองฝนกำลังตกกระทบลงมาที่หน้าของฉันจนฉันต้องหลับตาอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง

“ฮีโระ รอฉันด้วย” *O*

ฉันตะโกนออกไปอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ได้หันกลับมาหรอก และเมื่อฉันหันกลับไปมองรุ่นพี่ซึ่งอยู่ที่หน้าโรงเรียน รุ่นพี่เองก็หันมามองฉัน แต่ดูท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เขาเดินมาหาฉัน แต่ทว่าฉันเองก็รีบเดินจ้ำอ้าวให้ไปถึงตึกเร็วๆด้วยเหมือนกัน แต่ก่อนที่ฉันจะทันวิ่งไปถึงตึก ร่มสีชมพูหวานๆของผู้หญิงคนหนึ่งก็มาอยู่เหนือหัวของฉัน พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ซอลฟายิ้มหวานให้ฉันในขณะที่กางร่มให้ ข้างหลังของเธอยังคงสะพายกีต้าร์คู่ใจของเธอมาด้วยเช่นเดิม

“ขอโทษด้วยนะคะ งานนี้ฉันคงต้องขอตัดหน้าพี่ไปก่อนก็แล้วล่ะ” ^^+


ซอลฟาตะโกนบอกกับรุ่นพี่ราวกับว่าเธอเป็นฝ่ายชนะที่สามารถตรงเข้ามาหาฉันได้ก่อน

“นี่ เธอ...”


“เมื่อวานไม่ได้แนะนำตัวอย่างถูกต้อง แต่ฉันคิดว่ารุ่นพี่คงรู้จักฉันแล้ว ฉันชื่อซอลฟาค่ะ แล้วฉันก็รู้ด้วยว่ารุ่นพี่ชื่อฮารุ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะคะ” ^-^

เธอยิ้มออกมาอย่างน่ารักพร้อมกับก้มหัวให้ฉัน ดูเธอจะเป็นคนที่น่ารักและเป็นมิตรมากๆ

“เอ่อ... ยินดีที่ได้รู้จัก แต่... ทำไมเธอถึงรู้จักฉันได้ล่ะ”

“นั่นเป็นความลับค่ะ เราอาจจะได้เจอกันบ่อยกว่านี้ ฉันหวังว่าเราสนิทกันมากขึ้นนะคะ” ^^-


ซอลฟาและฉันเดินมาจนถึงตึก เธอหุบร่มของเธอและโบกมือให้กับฉันก่อนที่จะวิ่งไปยังอีกตึกหนึ่ง ฉันคิดว่ามันแปลกเล็กน้อยที่อยู่ดีๆก็ได้มารู้จักกับรุ่นน้องที่โรงเรียนแบบนี้ ไม่ค่อยชินเลยแฮะ แถมท่าทางของซอลฟาเธอยังดูเหมือนคุณหนูที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะอยากรู้จักกับคนบ้านๆอย่างฉัน

แต่ถึงอย่างนั้น จากที่เธอมาช่วยฉัน ทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอก็ดูเป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ฉันเดินเข้าไปในตึกเพื่อที่จะเข้าห้องเรียนและแน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนกำลังมองฉันด้วยสายตาที่ดูเหมือนฉันเป็นคนแปลกประหลาดที่สุด คงเพราะชุดของฉันที่ดูเหมือนจะเปียกไปแทบจะครึ่งตัว ฉันพยายามรีบเดินอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะพ้นเหล่าสายตานั้น แต่ทว่า...มีคนกลุ่มหนึ่งขวางทางฉันไว้

“นี่เธอตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองเด่น แล้วก็ให้รุ่นพี่เข้ามากางร่มให้สินะ” .\/.


แชวอนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ มีเพื่อนอีกสองคนอยู่ข้างๆเธอ ตอนนี้พวกเขากำลังยืนขวางทางฉัน จริงๆแล้วฉันกับแชวอน พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ที่ฉันรู้จักชื่อของเธอนั้นก็เพราะว่าเธอได้รับเลือกตั้งให้เดือนของปีสอง แถมเธอยังเป็นหัวหน้าของชินกิแฟนคลับ (หมายถึงแฟนคลับของรุ่นพี่ชิน พวกเขามักจะไปซ้อมเชียร์เพื่อเชียร์ทีมบาสของโรงเรียนที่รุ่นพี่ลงแข่ง)

“แต่น่าเสียดายที่เด็กผู้หญิงคนนั้นมาขวางทางไว้ซะก่อน เธอก็เลยพลาดโอกาส ฉันละอยากจะสมน้ำหน้าเธอจริงๆ”


แชวอนยังคงพูดต่อไปพร้อมกับใบหน้าที่ยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เพื่อนอีกสองคนของเธอทำท่าเหมือนยักษ์ที่อยากจะกินฉันเต็มทน

“ฉันรีบน่ะ ขอตัวก่อนนะ”

ฉันรีบพูดตัดบทและเดินฝ่าพวกเขาทั้งสามมา แต่แชวอนกลับจับแขนของฉันไว้ เธอเข้ามาใกล้และกระซิบบางอย่างที่หูของฉัน

“เลิกทำตัวเด่นและหน้าหมั่นไส้แบบนี้ซะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันต้องมาจับตาดูผู้หญิงจืดๆธรรมดาๆอย่างเธอ และมันเสียเวลามาก หวังว่านี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย และฉันจะบอกเธออีกครั้งนะว่าอย่าได้คิดมายุ่งหรือพยายามเรียกร้องความสนใจจากรุ่นพี่อีก”


ใบหน้าของแชวอนขณะที่พูดมันดูเลวร้ายราวกับเธอเป็นเสือที่พร้อมกับขย้ำฉันทุกเมื่อ หลังจากที่เธอบอกฉันเสร็จก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แชวอนและเพื่อนของเธออีกสองคนเดินจากไป ตอนนี้ที่ห้องเรียนของฉันมีเพื่อนบางคนที่เห็นเหตุการณ์กำลังคุยกันถึงเรื่องของฉัน มุนอาซึ่งกำลังนั่งอยู่กับฮีโระรีบลุกขึ้นมาหาฉัน

“มันเป็นความจริงเหรอที่ว่ารุ่นพี่กางร่มให้เธอน่ะ”

คงเพราะเธอมัวคุยกับฮีโระจนเพลิน เธอจึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตอนนี้เธอจึงต้องการคำตอบอย่างกระตือรือร้น

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก เข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว มันก็แค่เกือบ...” ตอนนี้ใบหน้าของฉันเต็มไปด้วยความกังวล ฉันควรจะทำยังไงในสถานการณ์นี้ดีล่ะ

“เกือบเหรอ แล้วสรุปมันเป็นยังไงกันแน่ล่ะ”

“อ่อ พอดีซอลฟามาช่วยไว้ได้ทันพอดีน่ะ”

“ซอลฟาเหรอ ฉันว่ายัยนั่นไม่ได้จะช่วยเธอหรอก ดูเหมือนเธอจะเป็นมารหมายเลข 2 มากกว่า แค่ได้ยินชื่อฉันก็เกลียดละ”

มุนอาทำท่าหงุดหงิด ฉันเข้าใจว่าเธอคงมีเรื่องที่ทำให้ไม่ชอบซอลฟามากนัก และฉันก็รู้ว่าเธอเป็นห่วงฉันมาก แต่ว่าเรื่องของเรื่อง มันไม่ได้เกิดจากฉันหรอก แต่มันเพราะนายนั่นแหละฮีโระ ฉันส่งสายตาฉุนๆไปที่ฮีโระ และคิดว่ารัศมีมันรุนแรงพอที่เขาจะรับรู้ได้

“คือ... พอดีเมื่อกี้ผมปวดท้องก็เลยรีบไปหน่อย โทษทีนะ ฮะ ฮะ” ^^*


เขาตอบด้วยน้ำเสียงปกติปนกับหัวเราะนิดๆ ฉันก็อยากจะโกรธเขาอยู่หรอกนะ แต่ว่าถ้าไม่เพราะเขาฉันก็คงไม่ได้สบตากับรุ่นพี่ เฮ้อ เพราะยังงั้นฉันถึงได้โกรธเขาไม่ลง

“พวกเธอสองคนมีอะไรที่แปลกๆกันอยู่นะเนี่ย” -[]-


มุนอามองฉันสลับกับมองฮีโระ เธอยังไม่รู้ว่าบ้านของฉันกับฮีโระอยู่ใกล้กันและตั้งแต่ฮีโระย้ายมาที่นี่ เราก็เดินไปกลับพร้อมกัน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่คิดอะไร แต่ฉันก็ไม่อยากทำให้มุนอาคิดเป็นอย่างอื่นเลยไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเธอ

“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก” (- _-* )


ขอโทษนะที่ฉันต้องโกหก แต่ว่าฉันก็ทำเพื่อเธอนะ ยกโทษให้ฉันด้วย

“ถ้ายังงั้นเธอต้องตอบฉันมาตรงๆนะ”

มุนอาทำท่าทางจริงจังเหมือนอยากรู้ความจริงอะไรบางอย่าง

“เธอชอบรุ่นพี่ชินหรือเปล่า”

เธอถามเบาๆ ฮีโระเองก็เหมือนจะได้ยินที่มุนอาถามฉัน ฉันคิดว่าฉันไม่ควรที่จะโกหกเธออีกต่อไป เพราะเธอมักจะไม่มีความลับกับฉัน และฉันคิดว่าควรจะบอกความจริงกับเธอไปนะ

“ฉันคิดว่า ฉันชอบรุ่นพี่นะ” >///<


ฉันตอบไปอย่างอายๆเพราะฉันไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครมาก่อน และมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานที่ฉันได้บอกกับฮีโระ แต่วันนี้มุนอาก็เป็นคนที่ 2 ที่รู้เรื่องนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้เปิดเผยออกไป แม้จะเป็นแค่การแอบชอบก็ตาม

“ตายละ แล้วแบบนี้ยัยพวกนั้นจะปล่อยเธอไปเหรอ เธอไม่กลัวรึไง” O[]O


นี่เป็นประโยคคำถามแรก

“แล้วมันเริ่มต้นเมื่อไหร่ที่เธอชอบรุ่นพี่ ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้” OoO


“แล้วเธอจำยังไงต่อไป จะแอบชอบแบบนี้ หรือจะเดินหน้าเข้าจีบรุ่นพี่ดีละ”


“อยากให้ฉันช่วยอะไรหรือปล่าว ถ้าชอบรุ่นพี่อ่ะ ต้องรีบแล้วนะ” *O*


และตลอดทั้งเช้าเธอก็พยายามซักถามเรื่องที่ว่าฉันชอบรุ่นพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และฉันจะทำยังไง ด้วยความเป็นห่วงฉันเธอจึงอาสาอยากจะไปกับฉันทุกๆที่เพื่อที่จะไม่ให้ใครมารังแกฉันได้ อาจเพราะบุคลิกที่เหมือนคนที่ไม่ค่อยพูดและดูเหมือนไม่ค่อยสู้คน เธอจึงกังวลว่าฉันอาจจะโดนเล่นงานเอาได้ง่ายๆ

“จริงๆแล้ว ฉันน่ะ ไม่อยากให้ฮารุชอบรุ่นพี่นักหรอก เพราะรู้สึกเหมือนมีกลิ่นไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้สิ”


มุนอาพูดด้วยหน้าตาขึงขังกว่าปกติ นั่นทำให้ฉันรู้สึกใจไม่ค่อยดีขึ้นมาบ้างแล้วสิ




The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ


นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

ติดตามอ่านตอนล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Dek-d.Com The secret of memory

The secret of memory : ตอนที่ 4 คนที่รู้ความลับ

ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto ฉันกลับเข้าห้องเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ พลันสายตาก็เหลือบไปเจอกับเจ้าคุกกี้น้องหมียิ้มเข้าพอดี ทำให้ฉันเกิดอ...

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559



넌 모를거야 아직 이런 내 마음 몰라
 นอน โม รึล กอ ยา อา จิก อี รอน แน มา อึม โมล รา
다 보여줄까 이젠 사랑이란 걸 말야
 ทา โพ ยอ จุล กา อี เจน ซา รัง งี รัน กอล มา รยา

난 말없이 널 보고 있다
 นัน มา รอบ ชี นอล โพ โก อิท ตา
널 보면 내 숨이 멎는다고
 นอล โพ มยอน แน ซู มี มอท นึน ตา โก
헤매고 찾던 넌 바로 나의 곁에
 เฮ แม โก ชัท ตอน นอน พา โร นา เอ กยอ เท

เนื้อเพลง I Miss You (보고싶어) : Hyolyn (효린) Sistar เพลงประกอบซีรี่ส์ Uncontrollably Fond

넌 모를거야 아직 이런 내 마음 몰라  นอน โม รึล กอ ยา อา จิก อี รอน แน มา อึม โมล รา 다 보여줄까 이젠 사랑이란 걸 말야  ทา โพ ยอ จุล กา อี เจน ซา รัง งี รัน กอล มา...


Get it lifted
Wha-wha-wha-wha-what? Fire truck!

어딜 봐 Mr. Fireman on the floor
ออ ดิล บวา Mr. Fireman on the floor
불 지펴봐 이 열기를 식혀줄게
พุล จี พยอ บวา อี ยอล กี รึล ชิ คยอ จุล เก
불만이 가득찬 것 더 화끈해줘
 พุล มา นี กา ดึก ชัน กอท ดอ ฮวา กึน แฮ จวอ
저 사이렌소리에 끼는 내 기분은 Um
 ชอ ซา อี เรน โซ รี เอ กี นึน แน กี บุ นึน Um
애써빼는 척은 곤란해
 แฮ ซอ แป นึน ชอ กึน โกน รา แน

เนื้อเพลง Fire Truck - NCT 127

Get it lifted Wha-wha-wha-wha-what? Fire truck! 어딜 봐 Mr. Fireman on the floor ออ ดิล บวา Mr. Fireman on the floor 불 지펴봐 이 열기를 식혀줄게...



You make me so mad

You make me so mad

남 다른걸 넌 나를 마치게 만들고 있는 걸
 นัม ดา รึน กอล นอน นา รึล มา ชี เก มัน ดึล โก อิท นึน กอล

I’m gonna be so mad

화려한 이 fancy place
 ฮวา รยอ ฮัน อี fancy place
Baby Look at us 우릴 봐봐
 Baby Look at us อู ริล บวา บวา

เนื้อเพลง Mad City - NCT 127

Y ou make me so mad You make me so mad 남 다른걸 넌 나를 마치게 만들고 있는 걸  นัม ดา รึน กอล นอน นา รึล มา ชี เก มัน ดึล โก อิท นึน กอล I’m go...


난 하루 종일 그대만 생각해요
 นัน ฮา รุ โจ งิล กือ แด มัน แซง กา แค โย
넌 바쁘다고 대충 빵이야
 นอน บา ปือ ตา โก แด ชุง ปา-งี-ยา
빵이야 빵이야 또
ปา-งี-ยา ปา-งี-ยา โต
바쁘다며 일이 많다며
  พา ปือ ตา มยอ อี รี มัน-ทา-มยอ
점점 야위어가
 ชอม จอม ยา-วี-ออ-กา
맨날 커피 아니면 공복이야
 แมน นัล คอ พี อา นี มยอน คง โบ-กี-ยา
포기야 포기야 또
 โพ-กี-ยา โพ-กี-ยา โต

เนื้อเพลง Are You Hungry? (냠냠쩝쩝) : EXID (Jung Hwa & Hyerin)

난 하루 종일 그대만 생각해요  นัน ฮา รุ โจ งิล กือ แด มัน แซง กา แค โย 넌 바쁘다고 대충 빵이야  นอน บา ปือ ตา โก แด ชุง ปา-งี-ยา 빵이야 빵이야 또 ปา-งี-ยา ปา-...


따뜻한 햇살처럼
 ตา ตือ ทัน แฮท ซัล ชอ รอม
숨쉬는 공기처럼
 ซุม ชวี นึน คง กี ชอ รอม
니가 있다는 게 자연스러워
 นี กา อิท ตา นึน เก ชา ยอน ซือ รอ วอ

니가 곁에 있단 게
 นี กา คยอ เท อิท ตัน เก
왜 이리 행복한 건지
 แว อี รี แฮง โบ คัน กอน จี
나의 입술 위로 미소가 번져
นา เอ อิล ซุล วี โร มี โซ กา บอน จยอ

เนื้อเพลง Only U : Junggigo เพลงประกอบซีรี่ส์ Uncontrollably Fond

따뜻한 햇살처럼  ตา ตือ ทัน แฮท ซัล ชอ รอม 숨쉬는 공기처럼  ซุม ชวี นึน คง กี ชอ รอม 니가 있다는 게 자연스러워  นี กา อิท ตา นึน เก ชา ยอน ซือ รอ วอ 니가 곁...

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


The secret of memory : ตอนที่ 3 เพื่อนสนิท?
ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto



ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางวัน เพื่อนในห้องต่างก็ให้ความสนใจฮีโระเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องหน้าตา ความสูง ความชอบ หรืออะไรต่างๆนานาที่พวกเขาอยากรู้ และดูเหมือนว่าฮีโระเองก็สามารถเข้ากับเพื่อนๆทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้ดีเลยทีเดียว มื้อเที่ยงของวันนี้เลยกลายเป็นปาร์ตี้เล็กๆสำหรับพวกเราชาวปี 2 ห้อง 1

“เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของห้องเรา เที่ยงนี้พวกเราไปกินข้าวที่โรงอาหารพร้อมกันดีกว่านะทุกคน”

หัวหน้าห้องชวนทุกคนไปที่โรงอาหารของโรงเรียน ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาอยากต้อนรับนักเรียนใหม่ ทุกคนต่างซื้ออาหารและขนมมากมายมาเพื่อฮีโระโดยเฉพาะ เสียงสนทนาเกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะมากิที่อยากจะรู้จักกับฮีโระเป็นพิเศษ

“ฮีโระ ฉันขอถามได้มั้ย เธอชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?” *0*

เธอมักจะเป็นคนซื่อตรงต่อความคิดของตัวเองเสมอ ฉันชอบที่เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและยอมรับความจริงต่างๆได้ดี ซึ่งเป็นข้อดีที่หาจากตัวฉันไม่ได้เลย เพราะแบบนี้มุนอาจึงเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ตั้งแต่เราเรียนมัธยมต้น จนย้ายมาอยู่มัธยมปลายโรงเรียนซองอึนแห่งนี้

“ผมเหรอ อืม... ผู้หญิงที่ผมชอบ...คงจะเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมยิ้มได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันมั้ง” ^^

“จริงเหรอ ครั้งแรกที่เจอฉัน ฮีโระก็ยิ้มเหมือนกันนะ” >_<

“อ่อ งั้นเหรอ ฮะๆๆ” ^^

เสียงแซวจากเพื่อนๆเริ่มดังขึ้นใหญ่ เมื่อได้รู้ว่ามุนอาสนใจในตัวฮีโระ และดูเหมือนทั้งคู่จะเข้ากันได้ดี เพื่อนๆกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเพียงฉันที่ชอบเป็นคนฟังมากกว่า จึงอยู่อย่างเงียบๆ แปลกเหมือนกันนะ บางครั้งฉันก็มีความสุขกับการที่ไม่ต้องพูดอะไรเหมือนกัน ฉันรู้สึกว่ามันทำให้ฉันได้อยู่กับตัวเองและได้รู้จักคนรอบข้างมากขึ้น พักหลังมานี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างช่างสังเกตขึ้นมาบ้างเล็กน้อยแล้วล่ะ

“นั่นรุ่นพี่ชินนี่นา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ยัยนั่นจะกล้าเข้าหารุ่นพี่ขนาดนี้ ไม่อายบ้างเลย ฉันไม่เห็นว่ารุ่นพี่จะชอบยัยนั่นสักนิด” =_=

“แสดงว่ารุ่นพี่อินซาไม่มาโรงเรียนอีกแน่ๆเลย รุ่นพี่ชินถึงได้มาทานข้าวคนเดียวแบบนี้น่ะ”

เพื่อนๆในห้องพูดขึ้นเมื่อพบว่า รุ่นพี่เองก็มาทานข้าวที่ห้องอาหาร ซึ่งข้างๆกันนั้นมีแชวอน ดาวเด่นของนักเรียน ม.ปลาย ซึ่งอยู่คนละห้องกับพวกเรา ดูเธอจะมีความสุขอยู่ไม่น้อยที่ได้นั่งข้างๆรุ่นพี่ = = มุนอาทำตาเขียวเมื่อได้ยินชื่อของรุ่นพี่อินซา เธอไม่อยากแม้แต่จะได้ยินชื่อนี้ เพราะหลังจากพวกเขาคบกันได้ไม่กี่เดือนก็เลิกกัน มุนอาก็บอกว่ารุ่นพี่อินซาเป็นคนเจ้าชู้และเธอไม่ชอบผู้ชายหลายใจ หลังจากที่พวกเขาเลิกกันรุ่นพี่อินซาก็ควงคนใหม่ทันที ฉันไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงของพวกเขาหรอก เพราะถึงแม้ฉันจะถามมุนอายังไงเธอก็ไม่เคยบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นระกว่างพวกเขา ฉันมองแชวอนที่ได้อยู่ข้างรุ่นพี่ด้วยความอิจฉาเล็กน้อย แต่ไวยิ่งกว่าความคิดของฉันคือ ฮีโระ จู่ๆเขาก็หยิบอาหารและขนมต่างๆเดินเข้าไปหารุ่นพี่พร้อมกับเพื่อนๆทันที

“รุ่นพี่ทานข้าวแค่สองคนแบบนี้ก็เหงาแย่สิครับ พวกเราขอทานข้าวกับรุ่นพี่ได้ไหมครับ นี่ครับน้ำ” ^_^

“อ๋อ ได้สิ ทานข้าวหลายๆคนก็สนุกดีนะ” ^^

รุ่นพี่ตอบออกมาอย่างใจดี ในขณะที่ฮีโระยื่นน้ำให้รุ่นพี่ราวกับว่าเขาสนิทกับรุ่นพี่มานานแล้ว

“รุ่นพี่ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย ฉันก็อยู่นี่ทั้งคน พวกเธอมาเบียดฉันทำไมกันเนี่ย แล้วฉันจะนั่งตรงไหนละ” .\/.

แชวอนโวยวายเมื่อถูกเพื่อนๆเบียดและรุมรุ่นพี่จนเธอไม่มีช่องว่างได้พูดจึงย้ายออกไปนั่งที่อื่น

“แล้วก็นาย....”

“หวัดดี ผม.. มีอะไรเหรอ?”

“เอ่อ.... ชะ ช่างเถอะ ชิ” O///O

ก่อนไปดูเหมือนเธออยากจะพูดอะไรสักอย่างกับฮีโระ แต่คิดว่าเธอคงเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาเพิ่งมาใหม่ ดังนั้นหน้าของแชวอนจึงแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอได้สบตากับฮีโระ

แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือการดีใจที่ได้เห็นรุ่นพี่อยู่ไม่ไกลจากฉันจากฉันนัก แน่ล่ะว่าฉันไม่กล้ามองเขาตรงๆ ก็แค่...แอบมองเท่านั้นแหละนะ

“อ้าวฮารุ มานี่สิ จะนั่งทำไมตรงนั้นคนเดียว มานั่งด้วยกันสิ” -O-

มุนอาเรียกพร้อมกับกวักมือ รุ่นพี่ยังอยู่ตรงนั้น ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ฉันนึกถึงวันแรกที่เราได้เจอกัน และตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่สามารถละสายตาจากรุ่นพี่ได้เลย

.......................................................................................................................................................................................................................

เช้าวันจันทร์ การเริ่มต้นชีวิตนักเรียนม.ปลาย ปี 1 ของฉันก็ได้เริ่มขึ้น มันน่าจะสวยหรูและดูดีกว่านี้ถ้าหากวันนี้ฝนไม่ตก เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เตรียมสำหรับวันแรกของฉันเปียกไปเกือบครึ่งตัวแล้ว

“จู่ๆทำไมฝนต้องมาตกเอาตอนนี้ด้วยนะ ฉันไม่ได้พกร่มมาซะด้วย” +O+

ฉันยกกระเป๋านักเรียนขึ้นบังฝน ขณะที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ในขณะที่สายตาของฉันกำลังเพ่งมองท้องฟ้าและบอกกับฟ้าฝนว่าได้โปรดหยุดตกก่อนที่ฉันจะไปโรงเรียนสาย ทันได้นั้นก็มีร่มสีเหลืองคันนึงบังฝนให้ฉันไว้ และเมื่อฉันหันกลับไปมองเจ้าของร่ม ก็พบว่ามีนักเรียนชายสูงประมาณ 175-180 เขาสวมชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนซองอึนซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับที่ฉันเพิ่งสอบเข้าได้ เขาเป็นคนผิวขาว สูง หุ่นเกือบผอมบาง ตาตี๋ และจมูกโด่ง ผมสีดำขลับ ทำให้ความหล่อของเขานั้น เปล่งประกายออร่าอย่างแรงจนแทบแสบตา บอกได้เลยว่าเหมือนเทพบุตรมาโปรด ถ้าไม่มีร่มเขาอาจจะกางปีกบังฝนให้ฉันแทนก็ได้ >///< (นี่ฉันเผลอมองหน้าเขานานไปไหมนะ)

“โรงเรียนเดียวกันนี่ จะไปด้วยกันไหมละ”

เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆไม่ได้ยิ้มหรือพูดอะไรมากกว่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่า ฉันคงตกหลุมรักเขาไปแล้วแน่ๆ ตอนนี้ถ้าเทียบกับอะไรสักอย่าง ฉันว่าตอนนี้หน้าฉันคงจะกลายเป็นสีแดงเหมือนสตรอเบอรี่อย่างที่เพื่อนเคยล้อฉันสมัยเด็กจริงๆซะแล้วล่ะ

“เอ่อ ขอบ... คุณ... ค่ะ”

ฉันลดกระเป๋าที่ยกขึ้นบังหัวลง แล้วเขยิบเข้าไปอยู่ในร่มสีเหลืองที่คนๆนั้นถืออยู่ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้าร้อนผ่าว และหลังจากนั้นฉันก็ไม่กล้าที่จะสบตาหรือพูดอะไรกับเขาอีก เราเดินมาจนเกือบจะถึงหน้าโรงเรียน และแล้วฝนก็เริ่มซาลง มีแสงแดดสาดแสงผ่านละอองน้ำฝนเกิดเป็นสายรุ้งสีจางๆขึ้น ฉันกล่าวขอบคุณทั้งที่ไม่ได้มองหน้าของเขาและรีบวิ่งเข้าโรงเรียนไป

นั่นเป็นความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกับรุ่นพี่ ที่ไม่ว่าจะผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แต่ฉันก็ยังจำความรู้สึกในวันนั้นได้ดี

.......................................................................................................................................................................................................................

เที่ยงของวันนี้ก็เช่นกัน เป็นเวลาที่ฉันมีความสุขมาก พวกเราได้นั่งทานข้าวใกล้ๆรุ่นพี่ ได้พูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ เพื่อนๆต่างสงสัยว่ารุ่นพี่เป็นคนที่หยิ่งและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ภายนอกของเขาดูเป็นคนที่เอาแต่ใจและไม่เข้าสังคม แต่เมื่อหลังจากที่ได้ทานข้าวด้วยกัน พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รุ่นพี่เป็นผู้ชายที่นิสัยดีมาก และเพียบพร้อมสุดๆไปเลย

พวกเรากลับไปที่ห้องเรียน เพื่อนๆยังคงคุยกันถึงเรื่องของฮีโระ พวกเขาบอกว่าฮีโระกับรุ่นพี่ชินดูยังไงก็กินกันไม่ลง แถมพวกผู้หญิงก็ยังลองคิดกันเองว่าหากพวกเธอต้องเลือกระหว่างรุ่นพี่ชินกับฮีโระจะเลือกใครอีกด้วย

“ฉันขอเลือกรุ่นพี่ชินละกันนะ” ฉันคิดในใจว่าอย่างนั้น

มุนอาและเพื่อนผู้หญิงเกือบทั้งหมดห้องบอกว่า พวกเธออยากเลือกฮีโระ เพราะรอยยิ้มและนิสัยที่ดูร่าเริงแถมเป็นกันเองของเขา ทำให้ฮีโระเขินเล็กน้อยจนต้องยกมือมาเกาที่หัวเบาๆ และเขาก็หันมามองฉัน

( -^^) ( ^= =)

ทำไมเขาต้องหันมามองฉันด้วยล่ะ ฉันไม่ได้เลือกเขาสักหน่อย ฉันเลือกรุ่นพี่ต่างหาก

ว่าแต่... ทำไมฉันถึงได้เอาแต่มองเขาละ ฉันชอบรุ่นพี่คนเดียวเท่านั้นนะ อย่าไปมองเขา (ฉันบอกตัวเองเบาๆและหวังว่าตัวเองคงจะไม่กลายเป็นสาวกผู้คลั่งไคล้ฮีโระไปอีกคน)

หลังจากเรียนภาคบ่ายเสร็จ ยังพอมีเวลาเหลือบ้างนิดหน่อยสำหรับการไปนั่งละเม้อเพ้อฝันที่โรงยิม ที่นั่นมักจะเป็นที่ประจำของฉันและเป็นที่เดียวที่ฉันจะสามารถมองรุ่นพี่ได้อย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ที่โรงยิมแห่งนี้มักเป็นสถานที่รวมตัวของนักบาสเก็ตบอลของโรงเรียนและรวมถึงเหล่าสาวๆที่ชื่นชอบกีฬาบาสเก็ตบอล ไม่สิต้องเรียกว่า ชื่นชอบคนเล่นบาสเก็ตบอลมากกว่า

“เท่ห์ซะไม่มี รุ่นพี่ชิน จะมีใครบ้างนะที่ดูดีไปทุกอย่างเหมือนเขา” ^^

และแล้วเสียงของใครหนึ่งก็เอ่ยขึ้นทำเอาบรรยากาศที่เพ้อฝันของฉันจบลงทันที

“นี่ นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่” =[]=

ฉันพูดออกไปเพราะคิดว่า ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่หรอก มุนอาเองก็ต้องเตรียมไปรอรถบัสเพื่อกลับบ้าน เธอจึงไม่เคยเคยได้มากับฉัน และที่ฉันรู้สึกผิดคือฉันเองก็ไม่เคยบอกเธอเรื่องที่ฉันแอบชอบรุ่นพี่เหมือนกัน

“ผม ไม่ได้ตามฮารุมาหรอก ทำไมชอบคิดแบบนั้นกับผมอยู่เรื่อยเลย หรือว่าฮารุสนใจผมงั้นเหรอ”

เขาพูดพร้อมกับเอามือปิดปากของเขาไว้ แล้วขำออกมานิดๆ >w<

“ล้อเล่นน่า ไม่เห็นต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นเลยนี่ ผมแค่มาตามเซนซ์และเสียงกรี๊ดนะ เลยอยากรู้ว่าเขาทำอะไรกัน”

เฮ้อ... ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ โล่งอกที่เขาไม่ได้สงสัยอะไรเกี่ยวกับฉัน

“ว่าแต่ฮารุทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ หรือว่า... มากรี๊ด เหมือนสาวๆพวกนั้น”

ตอนเย็นหลังเลิกเรียนมักจะมีนักเรียนหญิงหลายคนมานั่งดูการซ้อมบาส นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงเชียร์ดังไม่ขาดสาย แม้ว่าจะเป็นเพียงการซ้อมเล่นๆแต่เพราะมีรุ่นพี่ ทุกคนถึงได้อยากมาที่โรงยิม ฉันจำเป็นต้องปั้นหน้าทำเป็นว่าไม่สนใจอีกครั้ง

“เฮ้ อายุยังน้อยไม่น่าหูตึงเลยนี่นา แอบดูใครอยู่กันแน่ มาดูบาสหรือว่าคน” -O-

“ฉันก็มาดู..” -///-

“หืม ว่ายังไงล่ะ สรุปแล้วมาดู.. อะไรกัน”

( ^^ ) (*O* )

ฉันหันไปมองหน้าเขาโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า... หน้าของเขาอยู่ใกล้ฉันมากๆ และมากพอที่จะทำให้หน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาได้เลยทีเดียว

“ตอบแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องเขินขนาดนี้เลยนี่นา เฮ้อ... ไม่ถามก็ได้ ไว้ฮารุพร้อมค่อยบอกผมก็ได้นะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

เขาทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจ และใช้มือตบไหล่ฉันเบาๆ ราวกับว่าฉันแหละเขานั้นสนิทกันมานาน นี่เขาต้องการจะปั่นหัวฉันเล่นใช่ไหมเนี่ย

“โอ๊ะ นั่นผู้หญิงคนที่นั่งกับรุ่นพี่ที่โรงอาหารนี่นา” OoO

“เธอชื่อแชวอน เป็นดาวของม.ปลายปี 2 เธอสวยใช่ไหมล่ะ ส่วนข้างๆเธอนั่นจองอึนกับเยจี พวกเธออยู่ห้อง 3 น่ะ”

ฉันตอบออกไปโดยที่สายตายังคงจ้องมองรุ่นพี่จากด้านบนสแตนด์เชียร์ ฉันคิดว่าฮีโระน่าจะรู้จักคนอื่นๆให้มากกว่านี้

“อ่อ ก็ดูน่ารักดีนะ ว่าแต่ฮารุไม่ชอบเธอเหรอ”

“ไม่นี่ ทำไมถึงคิดยังงั้นเหรอ”

ฉันนั่งเอามือเท้าคางและยังคงมองรุ่นพี่เล่นบาสต่อ

“ก็ตอนที่อยู่ห้องอาหารผมเห็นฮารุมองไปที่แชวอนเหมือนไม่พอใจด้วย ตอนที่อยู่กับรุ่นพี่น่ะ”

ฉันไม่คิดว่าจะมีคนมาแอบมองว่าฉันจะทำอะไรยังไงมาก่อน แต่เพราะเจอนายที่ชื่อฮีโระ ฉันว่าฉันคงต้องระวังตัวหน่อยแล้ว

“ไม่ตอบแฮะ แสดงว่าอาจจะจริง” =..=

“ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ” >O<//

เขาจ้องหน้าฉันอีกครั้งเหมือนคนที่พยายามจะจับผิด ฉันไม่อาจที่จะกลบเกลื่อนสีหน้าและสายตาของตัวเองจึงต้องลุกจากที่นั่ง แล้วเดินออกมาจากโรงยิมเพื่อไม่ให้ฮีโระจับไต๋ฉันได้

“อ้าว ไปไหนอ่ะฮารุ รอผมด้วย”

ฮีโระตะโกนเรียกชื่อฉัน ซึ่งนั่นทำให้รุ่นพี่ซึ่งเล่นบาสอยู่สังเกตเห็นพวกเรา แต่พอฉันหันกลับไปรุ่นพี่ก็ทำเหมือนว่าไม่เห็นฉันอยู่ตรงนี้เหมือนเคย ทุกครั้งที่บังเอิญเจอกัน รุ่นพี่มักจะทำเมินเฉยกับฉันตลอด

“มาด้วยกัน ก็ต้องกลับด้วยกันสิ เดินคนเดียวเหงาออก”

จู่ๆฮีโระก็โผล่มาข้างหน้าของฉัน ก่อนที่ฉันจะเดินออกจากประตูโรงยิม

“ยังงั้นเหรอ” = = จริงๆฉันเดินคนเดียวก็ไม่ได้เหงาอะไรมากมายหรอก พูดไม่ทันขาดคำ จู่ๆฮีโระก็คว้ามือของฉัน พลางฉุดให้ฉันวิ่งเหมือนกับเด็กๆที่วิ่งเล่นกันอย่างนั้นแหละ สุดท้ายฉันต้องกลับบ้านพร้อมกับฮีโระ ทั้งๆที่ใจจริงยังอยากจะนั่งดูรุ่นพี่ซ้อมบาสต่อ ถ้าไม่กลัวว่าฮีโระจะจับได้ก็คงไม่รีบกลับขนาดนี้

“นายจะปล่อยมือของฉันได้หรือยัง เราไม่ได้สนิทกับมากขนาดที่นายจะจับมือฉันได้หรอกนะ” -O-

ฉันต้องย้ำกับเขาอีกครั้ง เพราะดูเหมือนเขาจะทำสนิทกับฉันมากเกินไปแล้ว

“อ่อ เรื่องจับมือเหรอ ผมขอโทษก็ได้ แต่ผมยังไม่ปล่อยมือหรอกนะ จนกว่าฮารุจะเรียกชื่อผมถูก แล้วก็...เลิกเรียกผมเหมือนคนแปลกหน้าสักที”

อยู่ๆเขาก็พูดจรืงจังขึ้นมา และดูเหมือนว่าจะไม่ยอมปล่อยมือของฉันง่ายๆถ้าฉันไม่เรียกชื่อของเขา

“ก็ได้ ฮีโระจะปล่อยมือของฉันได้หรือยัง” -O-

“ดีมาก ฮารุเด็กดี ต้องเรียกชื่อผมแบบนี้แหละ เยี่ยมที่สุด” ^O^

“มือ”

“อ่อ โทษที ฮะๆ ปล่อยก็ได้” ^^+

เขายิ้มออกมาและค่อยๆปล่อยมือของฉันออก


"ถึงตอนนี้ฮารุอาจจะยังรู้สึกว่าผมเป็นคนแปลกหน้า แต่ต่อไปพวกเราจะต้องกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันแน่นอน"

ฉันได้ยินเสียงฮีโระพูดอะไรฮึมฮัมอยู่คนเดียว พอฟังได้ใจความว่าเพื่อนสนิทอะไรสักอย่าง แต่ก่อนที่ฉันจะทันได้ถามว่าเขาพูดถึงเรืองอะไร ก็มีเสียงเพลงแว่วมาซะก่อน


“เพราะ... ว่าเธอคือคนพิเศษ อยากจะกุมมือเธอทุกวันไปแสนนาน

อยากอยู่เคียงข้างกันเพราะเธอนั้นสำคัญ I love you

เธอนั้น ทำให้ฉันยิ้มได้ทุกๆวัน Oh.. Love”

เสียงเพลงจาก ซอลฟา รุ่นน้อง ม.ปลาย ปี 1 ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ฉันรู้แค่ว่าเธอเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากๆและก็มักจะเห็นเธอชอบเล่นกีต้าร์และร้องเพลงอยู่ที่สนามหญ้าก่อนถึงทางประตูทางออกประจำ

“ว้าว เสียงดีจัง ฮารุรู้จักเธอไหม” *O*

ฮีโระทำท่าสนใจ เขายิ้มให้เธอและเธอก็ยิ้มหวานกลับมา จริงๆแล้วเธอก็เป็นเด็กน่ารักคนหนึ่งเลยทีเดียว ผมยาวที่ถูกดัดลอนตรงปลายผม หน้าตาที่ดูคล้ายตุ๊กตา และผิวที่ขาว ดูยังไงเธอก็เป็นคุณหนูผู้ดี

“จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้จักเธอหรอก ก็แค่เคยได้รู้คนอื่นเขาพูดถึงกันน่ะ”

“กำลังพูดถึงฉันอยู่หรือเปล่าคะ” ^-^

เสียงผู้หญิงคนหนึ่งแทรกเข้ามา ซอลฟาได้ยินที่ฉันกับฮีโระพูดกัน เราหันกลับไปมองเธอที่นั่งอยู่กับพื้นหญ้าในมือถือกีต้าร์สีฟ้าอยู่ ซอลฟาหันมายิ้มให้ฉันและฮีโระอีกครั้ง

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ รุ่นพี่ฮารุ รุ่นพี่ฮีโระ” ^w^

ฉันกับฮีโระเผลอยิ้มตอบให้กับรอยยิ้มหวานๆของเธอให้มาโดยไม่รู้ตัว นี่ทำให้ฉันแทบละลายได้เลยละเนี่ย ทั้งน่ารัก ยิ้มสวย และดูสง่าอีกด้วย ฉันกับฮีโระมองหน้ากับแบบงงๆแล้วเดินออกจากโรงเรียนมา

“เธอรู้จักชื่อของพวกเราด้วยแฮะ”

ฉันกับฮีโระพูดออกมาแทบจะพร้อมกันและมองหน้ากันอย่างงงๆ แต่แล้วสุดท้ายเราก็ต้องกลับบ้านด้วยกันจนได้สิน่า ฉันเดินไปอย่างเงียบๆโดยที่มีฮีโระเดินอยู่ข้างๆ เขาเงียบได้ไม่ถึงนาที เขาก็เปิดปากพูดต่ออีกจนได้

“ฮารุเนี่ย ไม่เหมือนคนอื่นๆเลยแฮะ ไม่ค่อยพูด แล้วก็ไม่ค่อยยิ้มเลย ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”

“ก็เพราะว่าตอนนี้ฉันอยู่กับคนแปลกหน้าน่ะสิ” ฉันได้แต่คิดในใจ

“เคยมีคนพูดไว้ว่า... ตอนที่เราเป็นเด็กมักจะยิ้มง่าย หัวเราะง่าย แต่ว่าพอโตขึ้น ทำไมถึงยิ้มยากจัง”

เขายังคงพูดต่อ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงไม่ค่อยร่าเริงเหมือนคนอื่นๆเขานะ แม่ก็บอกกับฉันแบบนี้เหมือนกัน “ลูกนะเป็นเด็กที่ร่าเริงมากเลยนะ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ลูกถึงไม่ยอมยิ้มบ้างเลยล่ะ” ฉันเองก็อยากจะยิ้มเหมือนกันแหละนะ เพียงแต่ว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันยิ้มออกมาได้ในตอนนี้

ฉันกับฮีโระเดินมาจนถึงหน้าบ้านของฉัน เขาหยุดแล้วเอื้อมมือมาดึงแก้มของฉัน

“ขอโทษนะ แต่ถ้าฮารุยิ้มได้แบบนี้ละก็ รู้มั้ยว่าฮารุจะน่ารักที่สุดในโลกไปเลยล่ะ”

เขาเอามือมาดึงแก้มของฉันและบอกให้ฉันยิ้ม และมันก็ทำให้ฉันเกิดอาการเหมือนร้อนๆที่หน้าอีกครั้ง ทำไมเขาถึงชอบทำเหมือนคนที่สนิทกันทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันได้เพียงวันเดียวด้วยนะ ฉันหลบสายตาของเขาและคิดว่าควรจะเข้าบ้านได้สักที

“พยายามเข้านะ” ^O^

“พยายาม...อะไร?” - -

ฉันหันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย

“ฮารุชอบเขาไม่ใช่เหรอ รุ่นพี่น่ะ” ^^+

“เอ๋...” O_O

น้ำเสียงของฮีโระเบาลง และพูดบางอย่างออกมา

“ถ้าชอบเขาก็ต้องแสดงออกให้เขารู้สิ”

จากนั้นเขาก็หันมาส่งยิ้มเจือนๆให้ฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนรอยยิ้มครั้งก่อนๆ เพราะมันดูเหมือนเขาจะฝืนยิ้มมากกว่า

“ฮีโระ หรือว่านายจะชอบ...”

“ชอบอะไรกัน ไม่หรอกน่า” -///-

ฮีโระปฎิเสธทันควันก่อนที่ฉันจะทันได้พูดจบ เอ่อ หน้านายเหมือนจะแดงเล็กน้อยนะ

“อย่าบอกว่า นายเองก็แอบชอบรุ่นพี่ชินอย่างนั้นเหรอ” =O=

= = (สีหน้าของฮีโระ) เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะระเบิดคำพูดที่เหมือนจะโมโหออกมา

“เพี้ยนหรือเปล่า กลับเข้าบ้านได้แล้ว” =[]=

ฮีโระเหมือนจะโกรธนิดๆกับคำพูดของฉัน เขาใช้มือผลักที่หลังของฉันเบาๆ หลังจากเขาไล่ฉันเข้าบ้านเสร็จ ก็เป็นเขาเองที่รีบวิ่งเข้าบ้านไปก่อนที่ฉันจะทันเปิดประตูซะอีก ก็นายนี่มันน่าสงสัยจริงๆนี่นา (ถามแบบนี้มันผิดด้วยเหรอ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย) +_+

และก่อนที่ฉันจะทันได้เข้าบ้าน สายฝนก็เริ่มโปรยลงมา เฮ้อ ทั้งๆที่วันนี้ฉันมีความสุขแท้ๆแต่ว่าวันนี้ทำไมท้องฟ้าถึงเหงาได้นะ




The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ


>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 3 เพื่อนสนิท?

ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางวัน เพื่อนในห้องต่างก็ให้ความสนใจฮีโระเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องหน้าตา ความสูง ความ...

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


오늘 같은 밤이 오면 외로워지는 걸
 โอ นึล คา ทึน พา มี โอ มยอน เว โร วอ จี นึน กอล
어제 같은 추억들에 단잠이 깨는 걸
 ออ เจ คา ทึน ชู ออ ดือ เร ทัน จา มี แก นึน คอล
아름답던 지난날의 네 모습이
 อา รึม ดับ ตอน ชี นัน นา เร นี โม ซือ บี
너무도 그립기만 해
 นอ มู โด คือ ริบ กี มัน แฮ
다툰 추억까지
 ทา ทุน ชู ออก กา จี


사랑했는데 좋았었는데
 ซา รัง แฮท นึน เด โช อา ซอท นึน เด
뜨거웠던 우리였는데
 ตือ กอ วอท ตอน อู รี ยอท นึน เด

เนื้อเพลง No One Like You (다른 누구도 대신 못할 너) : XIA Junsu

오늘 같은 밤이 오면 외로워지는 걸  โอ นึล คา ทึน พา มี โอ มยอน เว โร วอ จี นึน กอล 어제 같은 추억들에 단잠이 깨는 걸  ออ เจ คา ทึน ชู ออ ดือ เร ทัน จา มี แก นึน คอ...

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com