วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

The secret of memory : ตอนที่ 7 ร่มสีเหลือง




“คูรูรุ คูรูรุ สวัสดีเช้าแสนสดใส ยิ้มรับวันใหม่กันนะคร๊าบ คูรูรุ คูรูรุ สวัสดีเช้าแสนสดใส ยิ้มรับวันใหม่กันนะคร๊าบ คูรูรุ คูรูรุ สวัสดีเช้าแสนสดใส ยิ้มรับวันใหม่กันนะคร๊าบ”

“เสียงอะไรกันเนี่ย” = =

ฉันงัวเงียลุกจากที่นอนเหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่ม ปกติถ้าเป็นวันที่ต้องไปโรงเรียนฉันจะตื่นเช้าโดยอัตโนมัติ เหมือนร่างกายจะรู้ว่าวันนี้จะได้เจอรุ่นพี่แล้ว แต่เนื่องจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวแต่เฝ้ารอกล่องเจ้าปัญหา เอ... เสียงแปลกๆ กับกล่องปริศนา ใช่แล้ว มันต้องมาจากกล่องนั้นแน่ๆ

ฉันรีบลุกจากเตียงและมุ่งตรงไปที่กล่องที่ฮีโระให้ทันที “คูรูรุ คูรูรุ สวัสดีเช้าแสนสดใส ยิ้มรับวันใหม่กันนะคร๊าบ” เสียงแปลกๆนั้นยังคงดังอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ฉันเองก็พยายามเปิดกล่องปริศนานั้น และแล้ว...

“นี่มัน.........”

“คูรูรุ คูรูรุ สวัสดีเช้าแสนสดใส ยิ้มรับวันใหม่กันนะคร๊าบ”

โทรศัพท์มือถือ!!!!!





ที่หน้าโรงเรียน...

รุ่นพี่ชินกับรุ่นพี่อินซายืนอยู่ด้วยกันและคณะกรรมการผู้หญิงอีกกลุ่มหนึ่ง

“นั่นฮารุนี่ สวัสดีตอนเช้าฮารุ”

รุ่นพี่อินซาโบกมือทักทายฉัน ฉันยิ้มและทักทายเขา ข้างๆรุ่นพี่อินซา รุ่นพี่ชินยืนอยู่ตรงนั้นแต่ทำเหมือนว่าไม่สนใจฉันเหมือนเคย ใกล้ๆกันพวกคณะกรรมการก็ดูจะไม่ค่อยยินดีเท่าไรที่เห็นฉันยังยืนอยู่ตรงนี้ พวกเธอคงคิดว่าฉันเป็นคู่แข่งไปแล้วสินะ

“เฮ้ ไม่ทักทายหน่อยเหรอ นี่ฮารุที่เป็นเพื่อนของยัยเอาแต่ใจมุนอาไง”

รุ่นพี่อินซาหันไปคุยกับรุ่นพี่ชิน แต่เขาไม่ตอบ ฉันได้แต่ยิ้มเจือนๆและเดินเข้ามาในโรงเรียนซะ มันเป็นเรื่องธรรมดาและฉันก็เริ่มชินชาเสียแล้ว ฉันไม่เคยคาดหวังให้รุ่นพี่หันมามองหรือต้องได้พูดคุยกับฉันอยู่แล้ว และฉันก็ไม่ควรจะยืนคุยกับรุ่นพี่อินซานานๆเช่นกัน เขาหน้าตาดีและสูงพอๆกับรุ่นพี่ แต่เขาดูอัธยาศัยดีมากเกินไป นักเรียนหญิงหลายคนชอบเขา ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเป็นคนเจ้าชู้อย่างที่มุนอาพูดถึงหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นมุนอาคงไม่ยินดีเท่าไร ถ้าเห็นว่าฉันคุยอยู่กับรุ่นพี่อินซาเพราะดูเหมือนหลังจากที่เลิกกัน พวกเขาก็กลายเป็นศัตรูกันไปโดยปริยาย



เมื่อมาถึงในห้องเรียน...

ฉันเดินเข้าไปหาฮีโระที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขายิ้มให้ฉันเหมือนอย่างเคย วันนี้อยู่ดีๆเขาก็ไม่รอฉันที่หน้าและหนีมาโรงเรียนก่อน ทิ้งให้ฉันต้องเดินมาโรงเรียนคนเดียว แต่ก่อนที่เราจะได้คุยกัน ฉันคิดว่าฉันต้องคืนโทรศัพท์มือถือรุ่นพับสีชมพูแสนจะน่ารักให้กับฮีโระก่อน เพราะถึงแม้ว่าฉันจะตื่นเต้น ดีใจและชอบมันมาก แต่มันก็เป็นของที่ราคาแพงหูฉี่ที่เด็กมัธยมอย่างฉันไม่คู่ควร

“ของแพงแบบนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก ฮีโระ”

ฉันยื่นโทรศัพท์คืนให้ฮีโระ รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเขา เขาแบมือรับโทรศัพท์คืนแต่โดยดีโดยไม่พูดอะไรสักคำ เช้านี้เราไม่ได้มาโรงเรียนพร้อมกัน แม่บอกว่าไม่เห็นฮีโระมายืนรอที่หน้าบ้าน เขาอาจจะไปก่อนแล้ว หลังจากที่ฮีโระรับโทรศัพท์ไป เขาก็ลุกไปที่หลังห้อง ฉันหวังว่าเขาคงจะเข้าใจ แต่ทว่า…

“ปัง”

เขากลับโยนมันลงถังขยะโดยไม่สนใจถึงราคาที่ไม่ใช่ถูกๆของมันสักนิด ฉันตกใจจนพูดไม่ออก ไม่คิดว่าฮีโระจะทิ้งมันได้ ฉันเอื้อมมือเพื่อไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากถังขยะ แต่ก็มีมือของใครคนหนึ่งหยิบมันไปก่อน

“โทรศัพท์นี่ของฮารุเหรอ”

มุนอาถือกระดาษบางอย่างไว้ในมือ ซึ่งเมื่อฉันเหลือบเห็นเข้าเธอก็รีบซ่อนมันไว้ในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว และหันมาดูโทรศัพท์มือที่เพิ่งเก็บขึ้นมาจากถังขยะ เธอคงได้ยินเรื่องที่ฉันพูดออกไปหมดแล้ว และเธอดูแปลกใจมากเมื่อฉันบอกเธอว่ามันเป็นโทรศัพท์ที่ฮีโระให้ฉันแต่ฉันรับมันไว้ไม่ได้

“มันออกจะแปลกหน่อยนะที่ฮีโระให้ของแบบนี้กับฮารุน่ะ”

เธอพูดออกมาเหมือนน้อยใจนิดๆ เพราะเธอชอบเขามาก ฉันได้แต่ยืนมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของมุนอาและอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ฉันก็รู้สึกผิดกับเธอเหมือนกันนะ

“เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่ถ้าฮารุไม่เอางั้นฉันขอเก็บมันไว้ละกันนะ ไหนๆก็ไม่มีใครเอามันอยู่ดีแล้วนี่”

มุนอาเก็บโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้ในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว ฉันซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะฉันเองก็ไม่กล้ารับมันไว้จริงๆ จึงได้แต่มองเจ้าของเครื่องที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่พอใจบางอย่าง คนที่เคยมีแต่รอยยิ้มสดใสคนนั้นวันนี้เป็นอะไรไปนะ ไม่ยิ้มทักทายเหมือนที่เคย เขาแอบมาโรงเรียนก่อนฉันทั้งๆที่ทุกวันเขาจะมารอฉันที่หน้าบ้านและเราจะเดินมาโรงเรียนด้วยกัน หรือคิดในแง่ดี บางทีเขาอาจจะอยากไปไหนมาไหนคนเดียวก็ได้นี่นะ อยู่กับฉันเหมือนจะเป็นภาระซะมากกว่า ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะ ฉันได้มอบพวงกุญแจเด็กผู้หญิงยิ้มให้กับมุนอา เธอยิ้มออกมาและบอกว่าชอบมันมาก ฉันยกกระเป๋าวางไว้บนโต๊ะโดยที่ไม่ได้สังเกตว่ามีบางอย่างเหนียวๆอยู่บนนั้น ฉันเพิ่งสัมผัสได้เมื่อมือของฉันไปโดนโต๊ะเข้า มันมีกลิ่นเหมือนนมผสมกับสตรอเบอรี่

“นมรสสตรอเบอรี่เหรอ”

ฉันก้มลงไปพิสูจน์กลิ่นให้แน่ใจ มันเป็นนมรสสตรอเบอรี่จริงๆเพราะใต้โต๊ะของฉันมีกล่องนมเปล่าอยู่ด้วย

“เป็นอะไรเหรอฮารุ”

มุนอาซึ่งสังเกตฉันอยู่สักพักถามขึ้น

“อ่อ เหมือนจะมีใครเอานมรสสตรอเบอรี่มาหกที่โต๊ะน่ะ แต่เขาไม่น่าจะเอากล่องมาทิ้งที่โต๊ะฉันเลยนะ ฉัน.. ไม่ค่อยชอบกลิ่นมันเท่าไหร่แถมกระเป๋าของฉันก็เปื้อนนมไปด้วย”

ฉันถอนหายใจแล้วยื่นกล่องนมให้มุนอาดู พร้อมกับเอามือปิดจมูก ฉันไม่ชอบกลิ่นของมันจริงๆนะ มุนอาเข้ามาดูและโวยวายใหญ่ เธอสันนิธานว่านี่อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อาจจะเป็นความตั้งใจของใครสักคนก็ได้

ตลอดทั้งวันฉันไม่มีกะจิตกะใจเรียนแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องกังวลกับเรื่องของฮีโระมากมายก็ไม่รู้ ทั้งเรื่องโทรศัพท์ที่มุนอาขอไป และท่าทางแปลกๆของเขาที่ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา ฉันสังเกตเห็นว่าเขาเอาแต่หลบหน้าฉัน ทุกครั้งที่ฉันหันไป เขาก็มักจะหันหน้าไปทางอื่นและไม่ยอมสบตาฉันสักที

“ฉันจะทำยังไงถึงจะมีความกล้าพอที่จะไปขอโทรศัพท์คืนจากมุนอาได้นะ เฮ้อ”

ฉันคิดวนไปวนมาอยู่ทั้งวัน ยังไงฉันก็ควรจะขอโทรศัพท์คืนมาจากมุนอาให้ได้ เพราะถึงแม้ฉันจะไม่ได้รับมันไว้ แต่ฉันก็ไม่สามารถมอบมันให้กับใครได้ เพราะเจ้าของที่แท้จริงก็คือฮีโระ แต่หลังจากเลิกคาบสุดท้ายฉันก็ได้รู้ว่าการจะหาตัวฮีโระเป็นเรื่องที่ยากมาก ทั้งๆที่ปกติแล้วเขามักจะมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆฉันเสมอ ฉันพยายามหาตัวเขาแทบแย่แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา เดาว่าเขาคงแอบกลับบ้านก่อนฉันแน่ๆ แต่ยังไงฉันก็ต้องเจอเขาวันนี้ให้ได้

“เฮ้ ทำอะไรอยู่ ปกติก็ต้องไปดูซ้อมบาสตอนเย็นไม่ใช่เหรอ ไปกันเถอะ”

มุนอาวิ่งมาคล้องแขนกึ่งลากฉันไปที่โรงยิม

“วันนี้ฉันมีธุระ คงไปดูไม่ได้ ไว้วันพรุ่งนี้ดีกว่ามั้ยมุนอา”

“ไม่ต้องเลย ขืนเป็นแบบนี้ความรักก็ไม่พัฒนาสักที ถึงแม้จะมีคนกีดกันมากมาย แต่ฮารุต้องแสดงออกให้รุ่นพี่รู้ว่าเธอชอบเขานะ”

ฉันรู้สึกขอบคุณมากมุนอาที่ช่วยเชียร์ฉัน แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ฉันจะไปนั่งสบายใจดูรุ่นพี่ซ้อมบาสได้ ฉันต้องไปพูดกับฮีโระให้รู้เรื่อง เพราะตอนนี้ข้างในอกของฉันเหมือนจะระเบิดด้วยความอึดอัดและไม่เข้าใจ

แต่สุดท้ายฉันก็มายืนอยู่ที่หน้าโรงยิมจนได้ เฮ้อ...

“ฉันว่าวันนี้ฉันคงไปไม่ได้จริงๆ ฉันต้องรีบกลับบ้าน ฮีโระท่าทางแปลกๆฉันกลัวว่าเขาจะไม่สบาย”

ฉันหลุดปากพูดออกไป มุนอาสงสัยในบางอย่าง

“ต้องรีบกลับบ้านเพราะฮีโระ ทำอย่างกับว่าพวกเธออยู่บ้านหลังเดียวกันอย่างนั้นแหละ”

มุนอาขำออกมา แต่เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบ เธอจึงถามย้ำฉันขึ้นมาอีกครั้ง

“หรือว่า... นี่พวกเธออยู่บ้านเดียวกันจริงๆเหรอเนี่ย”

มากิทำท่าฟึดฟัดใส่ฉัน ความลับแตกแล้ว ฉันรีบอธิบายให้เธอฟังว่า บ้านของเราแค่ติดกัน และมันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่ฮีโระมาเช่าบ้านติดบ้านของฉัน

“ทำไมไม่เห็นบอกฉันสักคำ หรือว่าเธอเปลี่ยนใจจากรุ่นพี่แล้วหันไปคบกับฮีโระงั้นเหรอ”

มุนอายังคงพูดต่อ เสียงของเธอดังขึ้น ฉันคิดว่าอารมณ์ของเธอเริ่มไม่ดีแล้ว

“เปล่านะ มันไม่ใช่อย่างนั้น พวกเราก็แค่...โอ๊ย”

ใครบางคนเดินออกมาจากโรงยิมและชนเข้าที่ไหล่ของฉัน และเขาก็คือ รุ่นพี่ชิน!!

“ถ้าไม่ได้จะมาเพื่อดูบาสหรือเล่นกีฬา ก็ออกไป”

รุ่นพี่เขาพูดออกมาเหมือนคนอารมณ์เสียเอามากๆ ฉันไม่เคยเห็นรุ่นพี่เป็นได้มากขนาดนี้

“โอ๊ะ โอ ฉันว่าเจอแจ๊คพอตซะละ ฉันคงเสียงดังมากเกินไป”

มุนอาพูดขึ้นในขณะที่ยังคงมองตามรุ่นพี่ที่เดินออกไป ไม่นานรุ่นพี่อินซาก็วิ่งออกมาจากโรงยิม

“มาทำอะไรที่นี่ยัยเอาแต่ใจ เสียงเธอดังยังกับโทรโข่งแน่ะ”

“นายนี่... ฮึ่ย”

รุ่นพี่อินซาพูดแล้วก็วิ่งตามรุ่นพี่ชินไป ฉันได้แต่ยืนมองด้วยตาปริบๆ ลืมไปแล้วว่าคุยอะไรกับมุนอาก่อนหน้านี้

“เฮ้อ สรุปว่าพวกเธอไม่ได้คบกันหรอกใช่ไหม ฮารุ เธอคงไม่ได้..”

“เราไม่ได้คบกัน เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ”

ฉันพูดด้วยความเหนื่อยล้า รู้สึกเหมือนว่าพายุกำลังโหมกระหน่ำที่ใจฉันยังไงยังงั้น ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับฮีโระและฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องรู้สึกเหมือนว่ารุ่นพี่โกรธฉันอยู่ตลอดเวลาด้วย ยิ่งนานวันฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคงเกลียดฉันจริงๆซะแล้ว

“เฮ้อ ฉันว่าฮีโระเขาไม่เป็นไรนะ เพราะเขาก็ยังพูดคุยกับฉันเหมือนปกติ”

มุนอาพูดขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะยอมยกโทษเรื่องที่ฉันไม่ได้บอกเธอว่าบ้านของฉันและฮีโระใกล้กันแล้ว

“แต่ว่ากับฉันมันไม่เป็นแบบนั้น”

มุนอายื่นโทรศัพท์คืนให้กับฉัน

“ฉันก็อยากได้หรอกนะ แต่ว่ามันเป็นของที่ฮีโระให้ฮารุ ถ้าเธออยากปรับความเข้าใจกับเขาก็ลองโทรกลับไปหาเขาดูสิ ฉันคิดว่าคงมีเบอร์โทรศัพท์อยู่ในนั้น”

ฉันมองมุนอาอย่างขอบคุณ

“ขอบคุณนะ เธอมักจะใจดีและเข้าใจฉันเสมอ”

“ของที่เป็นของฮารุน่ะฉันไม่คิดจะแย่งหรอก เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แต่ฉันก็หวังว่าฮารุจะไม่ชอบฮีโระนะ เพราะฮารุก็รู้ดีอยู่แล้วว่าฉันชอบฮีโระมาก”

“ฉันรู้”

ฉันเอื้อมมือไปจับมือของมุนอา ฉันอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน และฉันก็อยากจะอวยพรให้เธอสมหวังกับฮีโระเช่นกัน

“แต่ก็นะ ฉันคงคิดมากไป ลืมไปว่าเธอเองก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วและเขาก็เพิ่งอารมณ์เสียใส่เธอไปเมื่อกี้นี้เอง”

ฉันแอบเขินนิดหน่อยที่มุนอารู้ความลับของฉัน เธอแซวฉันใหญ่และบอกกับฉันว่าเราคงต้องวางแผนให้รุ่นพี่ตกหลุมรักฉัน หรือไม่ก็ให้ฉันและรุ่นพี่ได้คุยกันสักครั้ง ส่วนฉันก็คงทำได้แต่หัวเราะไปกับความคิดน่ารักๆของเธอ เธอเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองอย่างมากจนน่าอิจฉา เธอสามารถประกาศความรู้สึกที่เธอมีต่อฮีโระได้อย่างไม่เกรงกลัวใคร ฉันอยากเข้มแข็งได้อย่างเธอบ้างจังเลย

“ถ้ายังงั้น ฉันต้องกลับก่อนละนะ อย่าคุยโทรศัพท์กับฮีโระของฉันนานนะ ฉันหวง”

ฉันหัวเราะออกมากับคำพูดของมุนอาและพยักหน้ารับ หลังจากนั้นฉันรีบก้าวเท้าที่ไม่ยาวนักของฉันออกจากโรงยิม และหลังจากที่ฉันก้าวเท้าออกจากโรงยิมได้ไม่ไกลนัก ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนยืนอยู่ที่ข้างหลังประตูนั้นบางทีเขาจะเป็นฮีโระก็ได้

“ฮีโระ..”

ฉันหันกลับไปพร้อมกับเรียกชื่อของเขาออกไป แต่ว่า... กลับเป็นรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น เขามองหน้าฉันและทำเหมือนว่าไม่สนใจ

“เอ่อ ขอโทษค่ะ”

ฉันก้มหัวเพื่อขอโทษเขา ฉันไม่กล้าสบตากับรุ่นพี่ตรงๆเพราะฉันไม่อยากให้รุ่นพี่เกลียดฉัน ฉันจะทำอย่างไรดีละ ฉันเผลอเรียกชื่อฮีโระออกไปแล้วด้วย รุ่นพี่ต้องไม่พอใจมากแน่ๆเขาเกลียดฉันไปแล้วด้วย ฉันก้าวเท้าที่แสนจะยากเย็นออกมาจากตรงนั้นราวกับว่าตัวเองถูกน้ำแข็งเกาะอย่างนั้น แต่ละก้าวช่างยากเย็นเหลือเกิน และก็เพิ่งนึกได้ว่ามีของที่อยากให้กับรุ่นพี่ ฉันหยิบมันออกมาจากกระเป๋าและคิดว่าอย่างน้อยๆก็อยากจะให้กับเขาให้ได้ แต่ก่อนที่ฉันจะหันกลับไป

“อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ”

เสียงของรุ่นพี่ดังเข้ามาในหูของฉัน เขาหมายถึงฉันหรือเปล่านะ ฉันไม่ได้หันกลับไปอย่างที่ใจคิด ซองกระดาษหล่นจากมือของฉันราวกับว่ามันไม่มีแรงพอจะแบกรับอะไรไว้แล้ว ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที อยากจะหันกลับไป แต่แค่ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกแล้ว และที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือค่อยๆก้าวออกมาจากประตูโรงยิมอย่างช้าๆ จริงๆแล้วฉันอยากจะเดินให้เร็วกว่านี้ ไม่สิฉันอยากจะวิ่งไปด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ฉันมองไม่เห็นทางแล้ว ฝนกำลังตกที่ในตาของฉัน ฝนกำลังตกอย่างหนักและฉันคงจะหยุดฝนไม่ได้ซะแล้วสิ ฉันเดินออกมาพร้อมกับเสียงฮึก ฮึก ของตัวเองที่ไม่สามารถหยุดมันได้

....................................................................................................................................................................................................................

ในซองกระดาษมีกระดาษแผ่นเล็กๆถูกพับและมัดไว้ที่พวงกุญแจรูปร่ม

“นี่เป็นของฉันที่ตั้งใจซื้อให้รุ่นพี่

เป็นของเล็กน้อยๆตอบแทนที่รุ่นพี่ช่วยฉันในวันฝนตกวันนั้น

ฉันรู้ว่ารุ่นพี่เกลียดฉัน แต่ยังไงก็ช่วยรับมันไว้ด้วยนะคะ”

ฮารุ

.................................................................................................................................................................................................................

ถึงแม้ฉันจะชอบรุ่นพี่มากขนาดไหน แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกว่า... เพียงมองเห็นรอยยิ้มของรุ่นพี่เพียงเสี้ยววินาทีฉันก็ดีใจมากแล้ว ฉันไม่กล้าที่จะหวังอะไรไปไกลหรอก แค่สิ่งที่เล็กๆน้อยๆก็ไม่ได้เลยเหรอ

เปาะ แปะ เปาะ แปะ ~

สายฝนก็ค่อยๆโปรยลงมาช้าๆ ฉันเดินลุยฝนต่อไปโดยที่ไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อฉันเงยหน้าขึ้น มันคือร่มสีเหลืองที่ฉันเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว

แฮก แฮก~ เสียงหอบของใครบางคนที่กำลังหอบจากการวิ่งตามมาดังขึ้นอย่างชัดเจน ภายใต้ร่มสีเหลืองนั้นฉันหันกลับไปก็พบกับรุ่นพี่ที่กระหืดกระหอบอยู่ต่อหน้าฉันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“รุ่นพี่...”

ฉันเพ่งมองผ่านน้ำใสๆที่มาจากตาของฉันเอง และดูจนแน่ใจว่าฉันไม่เพ้อหรือตาฝาดไป รุ่นพี่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเกลียดฉันนี่นา เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่ควรที่จะอยู่ใกล้เขาและไม่ควรจะมาให้เขาเห็นหน้าอีก

“ขอโทษที่ทำให้เป็นภาระนะคะ”

ก่อนที่ฉันจะเดินออกไปจากร่ม พลันมือที่เย็นเฉียบก็คว้าแขนของฉันไว้

“ถ้าอย่างนั้น ก็อย่าพูดอะไรมาซะจะดีกว่า”

สายฝนโปรยปรายลงมา ซา ซา~ ฉันได้แต่เงียบแม้จะรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ภายในใจของฉันตอนนี้มันเต้น ตึก ตัก ตึก ตัก~ ดังไม่แพ้กับสายฝนเหมือนกัน ฉันเดินอยู่ข้างๆรุ่นพี่ใต้ร่มคันเดียวกัน เวลาที่ได้อยู่ใกล้กับรุ่นพี่แบบนี้มันเกินกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก ฉันไม่รู้ว่ารุ่นพี่ที่เกลียดฉัน ทำไมถึงกลับมากางร่มให้ฉัน คำถามเหล่านั้นไม่ได้ถูกถามออกไป เราทำได้แค่เดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ ฉันไม่รู้ว่าเราเดินมาด้วยกันนานเท่าไร แต่ฉันคิดว่าไม่เร็วกว่าที่ฉันอยากจะให้เป็น ฉันแทบไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ได้เดินมาถึงหน้าบ้านตัวเองแล้ว

“อ่อ ถึงแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะที่มาส่ง”

ฉันขอบคุณรุ่นพี่อีกครั้ง แต่ก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าบ้าน รุ่นพี่ก็พูดอะไรบางอย่างออกมาเบาๆ

“ขอบใจ”

ฉันหันกลับไปด้วยความแปลกใจและไม่เชื่อว่ารุ่นพี่จะพูดกับฉัน เบื้องหลังของรุ่นพี่กำลังเดินจากไปอย่างช้าๆ เขาไม่ได้เกลียดฉันหรอกใช่ไหม

แอ๊ด~

“ฮารุมัวทำอะไรอยู่หน้าบ้านเนี่ย เข้าบ้านได้แล้วลูก ดูสิทำไมเนื้อตัวเปียกไปหมดแบบนี้ อ้าว เมื่อกี้ฮีโระออกไปตามหาลูกนี่ ลูกไม่ได้มากับเขาเหรอ แม่คิดว่าเราสองคนจะกลับมาพร้อมกันซะอีก”




The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong
นิยาย โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com