“ที่จริงแล้วฉันไม่อยากเห็นเธอคนนั้นอ่อนแอ และไม่คิดว่าเธอยอมละทิ้งความตั้งใจง่ายๆแบบนั้น แต่ยังไงฉันก็ต้องขอให้เธอคนนั้นดูแลรุ่นพี่ด้วยนะคะ เธอเป็นคนเดียวที่สามารถดูแลรุ่นพี่และทำให้รุ่นพี่มีความสุขได้จริงๆ แต่ถ้าวันไหน... เธอทำให้รุ่นพี่ต้องเสียใจละก็... ฉันจะไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่นอน ยังไงก็ขอให้พวกเขามีความสุขด้วยนะคะ”
ทุกคนเริ่มฮือฮากันอีกครั้ง และต่างสงสัยว่าคนที่ซอลฟาพูดถึงนั้นเป็นใคร ไฟในหอประชุมยังคงมืดสนิทและสว่างเพียงด้านบนเวทีตรงที่ซอลฟายืนอยู่เท่านั้น ซอลฟามองมาที่ฉันและเธอก็ส่งรอยยิ้มให้ฉัน เธอหมายถึงฉันจริงๆอย่างนั้นเหรอ ฉันยังคงอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน นี่มันหมายความว่ายังไงกันนะ แล้วฉันจะต้องทำอะไรต่อไปยังงั้นเหรอ ในตอนนั้นก็มีมือๆหนึ่งจากด้านขวามาจับมือของฉันไว้
“ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ก็แค่ทำตามที่หัวใจต้องการ”
ฮีโระหันมายิ้มและจับมือฉันไว้ ฉันหันไปมองรุ่นพี่ที่ด้านข้าง แต่ว่าเขาก็ไม่อยู่แล้ว...
“เอาล่ะค่ะ ตอนนี้มีเซอร์ไพรสุดพิเศษอีกอันนึงที่ฉันได้เตรียมเอาไว้ให้สำหรับทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนะคะ ลองจับดูที่ข้างหลังเบาะพิงของทุกท่านดูนะคะ จะมีกล่องอยู่ 2 ใบ แต่... ก่อนที่จะทำอะไรนั้นฉันอยากจะให้ทุกคนอธิษฐานในสิ่งที่ทุกคนคาดหวังก่อน แล้วค่อยเลือกนะคะ ในสองกล่องนั่นจะมีหัวใจสีชมพูกับหัวใจสีดำอยู่ในกล่อง หากใครที่เลือกได้กล่องที่หัวใจสีชมพู แสดงว่าคำอธิษฐานของคุณจะสมหวังค่ะ มาอธิษฐานพร้อมกันนะคะ”
ซอลฟายกมือขึ้นมากุม ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังอธิษฐานว่าอะไร แต่เมื่อมองไปข้างๆคนในหอประชุมก็กำลังทำเช่นเดียวกัน คงมีแต่ฉันที่กำลังสับสนและไม่รู้ว่าจะขออะไรดี และไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดีด้วย หลังจากที่ทุกคนอธิษฐานเสร็จพวกเขาก็เลือกกล่องเพียงหนึ่งกล่องแล้วก็เปิดมัน
“เฮ้ย เหลือเชื่อฉันได้สีชมพูด้วยแหละ”
“จริงเหรอเนี่ยฉันก็ได้สีชมพูด้วยแหละ”
ทุคนต่างฮือฮาเพราะพวกเขาต่างก็จับได้หัวใจสีชมพู ฮีโระยื่นมันมาให้ฉันดู เขาเองก็ได้สีชมพูเช่นเดียวกัน มันเป็นพวงกุญแจสีชมพูที่เมื่อกดปุ่มเปิดจะมีไฟเรืองแสงออกมา เห็นเป็นแสงสีชมพูระยิบระยับ
“ฉันหวังว่าทุกคนจะสมหวังในสิ่งที่อธิษฐานไว้นะคะ และสำหรับเพลงสุดท้ายสำหรับวันนี้... เป็นเพลงชื่อว่า คำอธิษฐานค่ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับเสียงเพลงของฉัน และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาสฉันมายืนที่ตรงนี้ด้วยนะคะ ถ้าหากฉันได้ทำอะไรที่ผิดไป ก็ต้องขอโทษมา ณ โอกาศนี้ด้วยค่ะ”
เสียงกีต้าร์ของซอลฟาเริ่มบรรเลงขึ้นมา ทุกคนต่างกดเปิดไฟจากพวงกุญแจหัวใจสีชมพูขึ้นมาชูและโยกตามเสียงดนตรีอันไพเราะของเธอ จู่ๆรุ่นพี่ที่หายไปก็เดินออกมาจากด้านหลังเวที รุ่นพี่เซอร์ไพรส์เธอด้วยการเดินเข้าไปหาแล้วมอบช่อดอกกุหลาบสีขาวให้กับเธอ แล้วข้างบนเวทีก็มีกลีบดอกกุหลาบสีขาวหล่นมาจากเบื้องบน เป็นภาพที่ทุกคนต่างก็ร้องว้าวขึ้นมาอีกครั้ง
“อิจฉาเขาละสิ”
ฮีโระหันมากระซิบบอกฉัน ฉันได้แต่ยิ้มและก็ชูหัวใจสีชมพูตามเพลงของซอลฟา ฉันเห็นเธอยิ้มและดูเหมือนว่ารุ่นพี่ก็มีความสุขเช่นกัน หลังจากมอบดอกกุหลาบให้ซอลฟา เขายืนอยู่ด้านหลังของเธอแล้วชูหัวใจสีชมพูตางเสียงเพลงของเธอเช่นกัน หลังจากที่เพลงจบทุกคนต่างโฮ่ร้องและปรมมือจนเสียงดังสนั่น ซอลฟากล่าวขอบคุณแล้วผ้าม่านก็ค่อยๆปิดลง
ทุกคนลุกขึ้นแล้วปรมมือให้กับคอนเสิร์ตที่เพิ่งจบลงและทยอยกันออกไปจากหอประชุม
“ยังไม่กลับอีกเหรอ”
“อ่อ ฉันอยากเจอซอลฟาก่อนน่ะ”
“เอางั้นเหรอ ก็ดีนะ”
ฮีโระกลับมานั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม และมือที่ไม่อยู่นิ่งของเขาก็เล่นนู่นนี่ เปิดกล่องของขวัญอีกใบเข้า
“ฮะ หลอกกันซะจนเนียนเลยนะเนี่ย”
ฮีโระหัวเราะชอบใจกับหัวใจในกล่องอีกใบ มันไม่ใช่หัวใจสีดำหรอก หากแต่มันก็เป็นกล่องที่มีหัวใจสีชมพูเหมือนกัน นี่สินะที่บอกไว้ว่าจะทำให้ทุกคนกลับบ้านด้วยหัวใจที่อบอุ่นน่ะ
“นั่นน่ะ ฉันทำพิเศษเพื่อรุ่นพี่คนเดียวเลยนะคะ”
เสียงใครบางคนพูด และเดินเข้ามาใกล้พวกเรา ซอลฟาเดินมาพร้อมกับช่อดอกไม้ที่รุ่นพี่ให้เธอเมื่อครู่นี้
“เฮ้... ทำไมต้องเฉพาะของฉันด้วยล่ะเนี่ย”
“เพราะฉันอยากให้รุ่นพี่สมหวังยังไงล่ะคะ”
ซอลฟายิ้มให้กับฮีโระ ก่อนที่จะหันมาพูดกับฉัน
“รุ่นพี่ฮารุคงได้ยินที่ฉันพูดในคอนเสิร์ตแล้วนะคะ ฉันหวังว่ารุ่นพี่จะดูแลพี่ชินได้ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยพี่ไว้แน่ๆ”
“นี่เธอหมายความว่ายังไง”
“พีชินน่ะ ชอบรุ่นพี่มาตลอด และก็ชอบรุ่นพี่แค่เพียงคนเดียว หรือจะพูดให้ชัดเจนกว่านั้นก็คือ ระหว่างที่เขามาคบกับฉัน ก็เพราะเขาไม่อยากให้ฉันไปรังแกพี่ยังไงล่ะ เขามาเพราะเขาอยากปกป้องพี่ จากคนแย่ๆอย่างฉัน”
ซอลฟาพยายามฝืนยิ้ม ก่อนที่จะปาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลของเธอ
“แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ใช่ว่าฉันจะชอบรุ่นพี่หรอกนะคะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ”
ซอลฟาพูดทิ้งท้ายก่อนที่เธอจะเดินจากไป ฉันจึงดึงแขนของเธอเอา
“ฉันว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะ และฉันก็คิดว่าเธอก็สนุกเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันจริงไหม”
ซอลฟาไม่ตอบฉัน เธอหยุดนิ่งอยู่กับที่ และแล้วหยดน้ำตาก็พรั่งพรูบนใบหน้าขาดซีดของเธอ ฉันจึงโอบกอดเธอไว้จากด้านหลัง
“ฉันรู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องขอให้เธอคืนดีกับฉัน และก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะขอบคุณสำหรับทุกอย่างในวันนี้ แต่ว่าฉันก็อยากบอกจากใจจริงของฉันว่า... ฉันเคยคิดนะว่าฉันไม่ชอบเธอ แต่ว่าใจของฉันมันรับรู้ได้ว่า... เธอไม่ใช่คนที่ไม่ดีหรอก เพียงแต่ว่า... เพราะเธอชอบรุ่นพี่มากและไม่อยากให้ใครเอาใครไป ฉันเข้าใจนะ ฉันเข้าใจเธอจริงๆ”
ซอลฟาค่อยๆหันมาหาฉันอยากช้าเธอปาดน้ำตา
“ถ้ายังงั้น... รุ่นพี่ก็ไปหาพี่ชินซะ พาพี่ชินคนเดิมกลับมาให้ได้ อย่าให้เขาต้องทุกข์ใจ อย่าให้เขาฝืนยิ้มเหมือนกับตอนที่ต้องอยู่กับ รุ่นพี่จะต้องทำให้ได้นะคะ ฉันขอร้อง”
ฉันทำได้เพียงพยักหน้าให้กับซอลฟาเบาๆ แม้ว่าในใจจะหวั่นว่าจะทำได้จริงไหม แต่ด้วยความจริงใจแล้ว ฉันก็อยากจะทำแบบนั้นให้ได้เหมือนกัน ซอลฟาเดินออกไปจากหอประชุมแล้ว ตอนนี้ทั้งฉัน ฮีโระ และมุนอาก็กำลังเดินกลับบ้านเช่นกัน
“เฮ้อ ดูๆไปก็ไม่ได้ร้ายกาจเหมือนที่คิดเอาไว้เลยแฮะ นึกว่าจะได้เห็นอะไรที่แซ่บกว่านี้ซะอีก แต่กลายเป็นว่า... ยัยนั่นดูน่าสงสารขึ้นมาซะงั้น”
“ไม่มีใครอยากจะทำตัวเป็นคนไม่ดีหรอกน่า”
“แต่ตอนนี้... ฉันน่ะนะ โล่งอกขึ้นตั้งเยอะเลp ขนาดฉันไม่ใช่ฮารุนะ ในที่สุดความรักระหว่างเธอกับรุ่นพี่ก็หมดอุปสรรคสักที”
มุนอาพูดในขณะที่พวกเรากลับบ้านพร้อมกัน วันนี้อาจจะดูแปลกหน่อยที่พวกเราได้เดินกลับบ้านพร้อมกันสามคน เพราะกว่าจะเลิกคอนเสิร์ตก็ดึกมากแล้ว รถที่มุนอาจะขึ้นกลับบ้านก็ไม่มีแล้วด้วย ฉันก็เลยให้เธอมานอนที่บ้านฉันก่อน
“แล้วฮารุล่ะรู้สึกยังไงบ้าง”
มุนอาถามฉันในขณะที่เดินมาด้วยกัน ส่วนฮีโระก็ได้แต่เดินตามหลังมาเงียบๆ
“ไม่รู้สิ เฮ้อ... ที่จริงในหัวของฉันในตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไรไว้เลย ถึงแม้ว่าซอลฟาจะพูดแบบนั้น แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าทุกอย่างมันจะง่ายแบบนั้นไหม แต่ฉันก็คงต้องลองดูสักครั้งละมั้ง”
“โอเค ดีมาก ต้องให้ได้ยังงั้นสิ สู้ๆ ว่าแต่... พวกเธอได้เดินกลับบ้านด้วยกันแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ ดูโรแมนติกชะมัด”
มุนอามองดูรอบๆก่อนจะหันหน้ามามองฉันและฮีโระสลับกันไปมา
“โรแมนติกตรงไหนกัน!!!”
“โอ๊ะ ก็แค่พูดเล่น ทำไมสองคนต้องพูดพร้อมกัน แถมยังหน้าแดงด้วยละ มีอะไรกันหรือล่าวเนี่ย ฮะ”
ฉันกับฮีโระหันไปมองหน้ากัน ฉันว่าหน้าของฮีโระดูเหมือนกันจะแดงจริงๆด้วยแหละ แล้วเราทั้งสองคนก็หัวเราะ ก่อนจะบอกไปว่าไม่ได้คิดอะไร แล้วเราก็เดินมาถึงหน้าบ้านของฉัน ฮีโระโบกมือให้ก่อนจะเดินเข้าบ้านของเขาเช่นกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่มุนอาได้มาที่บ้านของฉัน
“ว้าว บ้านของเธอน่ารักจังเลย แถมห้องนอนนี่ก็เยี่ยมไปเลย รู้ไหมว่าที่มันดีที่สุดของห้องนี้คืออะไร”
“อะไรเหรอ”
ฉันถามมุนอาในขณะที่เธอกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียงนอนแล้วมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง
“ดีที่สุดก็ตรงนี้ไง เธอคงได้มองเห็นฮีโระได้ตลอดเวลาเลยสินะ น่าอิจฉาชะมัด ถ้าฉันไม่คิดถึงรุ่นพี่อินซาซะก่อน ฉันว่าฮีโระนี่ล่ะใช่ที่สุดละ”
มุนอายังคงเคลิ้มต่อไป และแล้วเธอก็เหลือบไปเห็นบอร์ดในห้องของฉัน
“นั่นเป็นภาพของเธอตอนเด็กๆเหรอ”
“อื้ม ตอนฉันอยู่ประถมน่ะ”
“น่ารักจังเลย แล้วเด็กผู้ชายคนนี้ใครเนี่ยที่ถือไอศครีมอยู่ในมือเนี่ย”
“อืม... นั่นสิ จำไม่ได้แหะ ที่จริงฉันจำเพื่อนสมัยเรียนประถมไม่ได้เลยสักคน รูปนี้ก็น่าจะประมาณป.4 ป.5 ได้มั้ง”
“อ๋า เสียดายจังเลย นี่ถ้าจำได้นะ ไม่แน่เธออาจจะมีโอกาสได้เจอเขาอีกครั้งก็ได้ ออกจะน่ารักดูสิ ฉันว่าโตมาเขาน่าจะหล่อๆมากเลยแหละ เสียดาย”
ฉันได้แต่หัวเราะกับความคิดของมุนอา บางทีก็เหมือนเป็นเรื่องที่ยังค้างคาใจของฉันเหมือนกัน ทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลยนะ แต่ก่อนที่วันพรุ่งนี้เราจะตื่นสาย ฉันกับมุนอาก็ต้องรีบอาบน้ำและเข้านอน สักวันฉันคงจะจำมันขึ้นมาได้เองแหละมั้ง
เช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง ฉัน มุนอา และฮีโระเดินมาโรงเรียนพร้อมกัน และระหว่างเข้าโรงเรียน พวกเราก็เจอรุ่นพี่ที่หน้าประตูด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มองหน้าฉัน เราสามคนเดินขึ้นตึกมาพร้อมกันและระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันไดนั้นก็สวนทางกับแชวอนเข้าพอดี
“เอาไงต่อละเราอ่ะ”
แชวอนถามฉัน ทำเอาฉันทำหน้าไม่ถูก
“ไม่รู้สิ”
“โอกาสน่ะ ไม่ได้จะมาหาง่ายๆน่ะ รีบคว้าไว้ก่อนที่มันจะผ่านไป”
“เมื่อวาน พวกเธอก็คงอยู่ในงานคอนเสิร์ตด้วยใช่มั้ย”
“ก็... แค่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรสนุกๆ แต่ก็... โอเคอ่ะนะ อ่อ ว่าแต่เธอรู้หรือยังว่ายัยนักดนตรีนั่นน่ะ วันนี้มาลาออกแล้วนะ”
แชวอนพูดเสร็จก็เดินผ่านไป มุนอาตะโกนใส่แชวอนก่อนที่พวกเขาจะไป
“อิจฉาเพื่อนฉันละสิ พวกเธออ่ะ”
“รอให้เพื่อนเธอผ่านมันไปให้ได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูดประโยคนี้กับฉัน ยัยกระต๊าก”
“ยัยกระต๊ากเหรอ หมายความว่าไงห๊ะยัยล่ำ”
มุนอาตะโกนใส่พวกแชวอนอีกครั้ง พวกเธอแค่หัวเราะแล้วก็เดินจากไป ซอลฟาลาออกแล้วเหรอ
“เดี๋ยวฉันไปถามรุ่นพี่อินซาเอง”
มุนอาปลีกตัวออกไปจากกลุ่ม ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับคำตอบที่ฉันอยากรู้
“ไปแล้วล่ะ เห็นว่าต้องรีบไปน่ะ น่าแปลกนะ แต่ก็ดี จะได้ไม่ต้องเบื่อเวลาเจอหน้าอีก”
เธอลาออกไปแล้วยังงั้นเหรอ มีอะไรกันนะ แต่เมื่อวานฉันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เธอพูดเหมือนเธอจะไปไหนสักที และฝากฝังให้ฉันดูแลรุ่นพี่ให้ดี แม้ว่าฉันจะรับปากเธอไปแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจหรอกว่าฉันจะเป็นคนที่ทำให้รุ่นพี่มีความสุขได้จริงๆ
ตอนเย็นของวันนั้น ฉันเดินเข้าไปในโรงยิมและนั่งดูอยู่บนสแตนด์เชียร์ที่ไม่ได้มานาน รุ่นพี่กำลังซ้อมบาสอย่างแข็งขัน แต่ว่าเขาก็ไม่ได้สนใจฉันแม้แต่น้อย จนการซ้อมจบลง รุ่นพี่เก็บของและเดินขึ้นมาบนสแตนด์
“คุยกับฉันสักแปบได้มั้ยคะ”
ฉันทักรุ่นพี่ก่อนที่จะเดินออกจากโรงยิม รุ่นพี่ไม่ตอบอะไร แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังฟังฉันอยู่
“ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าสิ่งที่ฉันควรจะทำคืออะไร ควรเจอกับรุ่นพี่ต่อดีไหม ตอนนี้ฉันเองก็สับสนมากเหมือนกัน แต่ไม่ว่ามันควรจะเป็นยังไง สิ่งที่ฉันหวังไว้จริงๆก็แค่... อยากให้รุ่นพี่กลับมาเป็นคนเดิม คนที่ยังยิ้มและสดใสอยู่ตลอดเวลา ฉันก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าฉันจะเป็นคนที่ทำให้รุ่นพี่มีความสุขได้ไหม แต่ต่อให้ตอนนี้ฉันจะทำได้เพียงแค่แอบมองรุ่นพี่อยู่ฝ่ายเดียวฉันก็จะยอมรับมันค่ะ เพราะรอยยิ้มของรุ่นพี่มันมีค่าสำหรับฉันและทุกๆคนที่ชอบรุ่นพี่มาก ได้โปรดกลับมาเป็นคนเดิมเถอะนะคะ อย่าเป็นแบบนี้อีกเลย”
ฉันพูดความในใจทั้งหมดออกไป แม้คำตอบของมันจะน่ากลัวกับฉันมากก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันก็พร้อมที่จะรับมันแล้ว รุ่นพี่ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา เขายืนหันหลังให้ฉันตั้งแต่ที่ฉันเรียกเขาไว้ .
“ฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พูดมันอีกครั้งไหม แต่ฉันอยากขอบคุณรุ่นพี่มากๆที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าครั้งหนึ่งความฝันของฉันได้เคยกลายมาเป็นความจริง และต่อจากนี้ฉันจะกลับมาสู่โลกความจริงของตัวเอง ช่วงเวลาที่ผ่านมายิ่งทำให้ฉันแน่ใจว่าฉัน...ชอบรุ่นพี่จริงๆและมันก็...เป็นความรู้สึกที่มากขึ้นทุกวันๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ”
นี่อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะสามารถบอกความในใจให้รุ่นพี่ได้รับฟังได้ น้ำตาที่บอกไม่ถูกว่ามาจากความดีใจหรือเสียใจกำลังคลอเบ้าอยู่ ฉันพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา หลายครั้งที่ฉันต้องทำเหมือนกับว่าฉันเข้มแข็งแต่ในวันนี้มันได้หายไป ความเงียบในตอนนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากร้องไห้มากขึ้นไปอีก ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่มองด้านหลังของรุ่นพี่เท่านั้น ฉันคิดว่าถ้าฉันพูดอะไรออกไปอีกแค่คำเดียวฉันคงกลั้นน้ำตาไม่ไหวอีกต่อไป
แต่จู่ๆ.....
รุ่นพี่ซึ่งหันหลังให้ฉันก็หันกลับมา เขาเดินเข้ามาหาฉันและ...กอดฉันไว้
“ขอโทษนะที่ผมดูแลฮารุไม่ได้เลย ผมรู้สึกละอายใจที่ทำให้ฮารุเจอแต่เรื่องแย่ๆ”
เพียงแค่คำพูดของรุ่นพี่แค่คำเดียว น้ำตาของฉันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ฉันไม่เคยคิดโทษใครในเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น แต่ฉันเพียงต้องการแค่...ใครสักคนที่ไม่ทิ้งฉันไปเท่านั้น รุ่นพี่กอดฉันไว้อย่างเนิ่นนาน เราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันไปมากกว่านี้ แต่ฉันคิดว่ามีบางอย่างที่พวกเรารับรู้ร่วมกัน นั่นคือความรู้สึกของความห่วงใยของเราทั้งคู่ที่อยากทำเพื่อกันและกัน
ตะวันเริ่มลับขอบฟ้าแล้ว เราสองคนเดินอยู่บนทางเดินทางเดิมที่เคยเดินด้วยกัน ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับรุ่นพี่ดี เพราะความรู้สึกทั้งหมดของฉันได้พูดมันไปตอนที่อยู่โรงยิมแล้ว
“ผมรู้สึกแย่มากจริงๆที่ทำให้ฮารุต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนั้น และผมก็ดูแลฮารุไม่ได้ เรื่องของซอลฟาจริงๆแล้วผมรักเธอเหมือนน้องสาว แต่เมื่อยิ่งนับวันมันก็คงเป็นความผูกพันที่ทำให้เข้าใจผิด แต่ว่า... ผมก็รู้สึกผิดกับเธอมากเหมือนกัน เธอสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง และวันนี้เธอก็ย้ายโรงเรียนแล้วไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ผมก็เพิ่งจะรู้จากอินซาเมื่อก่อนจะมีคอนเสิร์ตแค่ไม่กี่วัน สิ่งที่ผมทำให้ได้เธอก็มีแค่ความสงสารและความเศร้าเท่านั้นเอง”
“มิน่าช่วงหลังมานี้ฉันเห็นเธอหน้าซีด แต่ก็คิดว่าอาจจะเหนื่อยจากการเตรียมงาน เธอคงจะเศร้ามากแน่ๆเลย”
“ที่จริงแล้วผมอยากกลับมาหาฮารุนะ แม้ว่าซอลฟาจะบอกกับผมว่าเธอปล่อยผมไปแล้ว และอยากให้ผมมีความสุข แต่ผม... ก็ไม่อยากมีความสุข แล้วต้องทำให้คนอีกคนมีความทุกข์ แต่ว่า... ซอลฟาก็พยายามจะบอกผม...”
รุ่นพี่ยื่นอะไรบางอย่างให้ฉันดู เป็นจดหมายฉบับหนึ่ง
“ฉันอ่านมันได้เหรอคะ”
รุ่นพี่ยิ้มและยื่นมันมาให้ฉันอีกครั้ง ใจความในจดหมายทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันใจ เพราะเธอมีความหวังดีอย่างเต็มเปี่ยมที่อยากจะให้รุ่นพี่มีความสุขในชีวิตจริงๆ
“ถึง... พี่ชิน คนรักที่ฉันแอบรักคนแรกและคนสุดท้าย
พี่จะทำหน้าเศร้าแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันคะ ฉันไม่ได้ชอบพี่ตอนที่พี่ทำหน้าเศร้าแบบนี้นะ
ยิ้มสิคะ เวลาฉันเห็นพี่ยิ้ม ฉันมักจะใจละลายทุกที
แล้วก็...ปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบบ้าง อย่าทำอะไรเพื่อคนอื่นโดยไม่คิดถึงตัวเอง
เห็นพี่เจ็บปวด ฉันก็เจ็บปวดไปกับพี่ด้วยนะ
ครั้งนี้ฉันจะปล่อยพี่ไปแล้ว พี่ก็อย่าหลงคิดตัวเองว่าพี่จะเป็นอิสระล่ะ
ถ้าหากว่าวันไหน ฉันได้รู้ว่าพี่ไม่มีความสุขอีกละก็ ฉันจะกลับมาป่วนชีวิตของพี่อีกแน่
แล้วก็... สำหรับคนที่พี่ชอบน่ะ ฉันอิจฉาชะมัดเลย จากใจจริงนะคะ
แต่ว่ายังไง ก็อย่ามัวรอช้านักละ มีใครบางคนที่เขาอาจจะแย่งคนๆนั้นไปจากพี่ได้ตลอดเวลา ระวังเขาไว้ให้ดี
สุดท้ายจริงๆแล้ว หลังจากอ่านจมหมายฉบับนี้แล้ว ฉันคงไม่ได้กลับมาเจอพี่อีกนาน
พี่ต้องดูแลตัวเอง และดูแลคนที่พี่รักดีๆนะคะ ถ้าฉันกลับมา ฉันต้องเห็นนะว่าพี่กำลังยิ้มและกำลังมีความสุข
และขอย้ำอีกครั้งนะคะ ห้ามเด็ดขาด ห้ามโทษตัวเองและห้ามรู้สึกผิดต่อฉัน
ถ้าพี่อยากให้ฉันสบายใจ พี่ต้องมีความสุขเท่านั้น เพราะสิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันมีความสุขได้ ก็คือ...
การได้เห็นว่าพี่มีความสุขค่ะ รักพี่นะคะ”
ความหวังดีของซอลฟาที่มีต่อรุ่นพี่ มันเป็นอะไรที่สวยงามเกินกว่าที่ฉันจะคิดได้
“ผมคงต้องรักษาสัญญา และทำให้มีความสุขเหมือนกับที่เธอบอกไว้ในจดหมายใช่ไหม”
รุ่นพี่ยิ้มให้ฉันก่อนที่จะยื่นมือมาให้ฉันจับมือของเขาไว้
“ขอโทษนะที่ทำให้ฮารุต้องร้องไห้”
“แค่วันนี้รุ่นพี่กลับมาเป็นคนเดิมฉันก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะดีไปมากกว่านี้แล้วล่ะค่ะ แล้วก็ฉันเองก็ต้องดูแลรุ่นพี่ดีๆเหมือนกับที่ซอลฟาขอร้องไว้เหมือนกัน เพราะไม่ยังงั้นเธอจะต้องกลับมาว่าฉันอีกแน่ๆ”
“แล้วเรื่องที่ตาบวมไปโรงเรียนละ มันโอเคไหม”
“รุ่นพี่เห็นด้วยเหรออออคะ” = =
“ผมบอกแล้วไงว่า...ไม่ว่าผมจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ฮารุตลอดเลย”
“หน้าฉันคงดูแย่มากๆเลยใช่มั้ยคะเนี่ย”
ฉันใช้มือสองข้างปิดตาตัวเองไว้ ตาบวมๆของฉันมันคงยิ่งพาให้หน้าของฉันดูจืดชืดเหมือนที่พวกแชวอนว่าไว้
“แต่ไม่ว่าหน้าตาฮารุจะเป็นไง ผมก็รู้สึกว่าชอบฮารุ ชอบฮารุ และชอบฮารุมากขึ้นอยู่ดี”
รุ่นพี่พูดออกมาตอนที่ฉันปิดตาไว้ ฉันเลยไม่ทันได้เห็นว่าหน้ารุ่นพี่ตอนพูดแบบนี้จะเป็นยังไง ตอนนี้ฉันเห็นเพียงแค่เขามองไปที่บนท้องฟ้าเท่านั้น
“ฉันก็ชอบรุ่นพี่ ชอบรุ่นพี่ และชอบรุ่นพีมากขึ้นเหมือนกันค่ะ”
“เลียนแบบเหรอเรา”
รุ่นพี่ใช้มือใหญ่ของเขาจับหัวฉันเบาๆ เราจับมือกันกลับบ้านอย่างเขินๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คิดว่ามันเหมือนความฝัน ขอให้สิ่งเหล่านี้อยู่กับพวกเราไปนานๆนะคะ ขอบคุณเธอ “ซอลฟา” ตั้งแต่ครั้งแรกฉันคิดว่าเธอคือเพื่อนที่ดีของฉัน แม้ว่าพวกเราจะมีช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีต่อกันนัก แต่ในอนาคตฉันก็หวังว่าพวกเราจะสามารถนั่งพูดคุยและหัวเราะด้วยกันได้จริงๆ ขอให้เธอหายไวๆนะ และขอบคุณอีกครั้งที่ส่งรุ่นพี่มาให้ฉัน ขอบคุณจริงๆ
The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ
The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ
- บทนำ
- ตอนที่ 1 เสื้อกันฝนสีแดง
- ตอนที่ 2 ความบังเอิญ
- ตอนที่ 3 เพื่อนสนิท?
- ตอนที่ 4 คนที่รู้ความลับ
- ตอนที่ 5 คำอธิฐาน
- ตอนที่ 6 รูปแห่งความทรงจำ
- ตอนที่ 7 ร่มสีเหลือง
- ตอนที่ 8 น้อยใจ
- ตอนที่ 9 เผลอ
- ตอนที่ 10 คำอธิฐานใต้แสงดาว
- ตอนที่ 11 สารภาพรัก
- ตอนที่ 12 เงาของคน 2 คน
- ตอนที่ 13 สิ่งที่อยู่ในใจ
- ตอนที่ 14 คนรู้จัก ที่... ไม่เคยรู้จัก
- ตอนที่ 15 ความเชื่อใจ
- ตอนที่ 16 ความเจ็บปวดที่... เนิ่นนาน
- ตอนที่ 17 ยิ่งฝืน.. ก็ยิ่งเหนื่อย
- ตอนที่ 18 เธอคนนั้น
- ตอนที่ 19 เพื่อ...
- ตอนที่ 20 ความจริงแล้ว... 👈
- ตอนที่ 21 เวลาที่เหลือน้อย
- ตอนที่ 22 ตั๋วหนัง ยางลบ และความทรงจำ 1
- ตอนที่ 23 ตั๋วหนัง ยางลบ และความทรงจำ 2
- ตอนที่ 24 วันแห่งความสุข
- ตอนที่ 25 เรื่องที่ยังไม่เคยรู้
- ตอนที่ 26 ความลับที่ถูกเปิดเผย
- ตอนที่ 27 Special Hero 1
- ตอนที่ 28 Special Hero 2
- ตอนที่ 29 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ Part 1
- ตอนที่ 30 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ Part 2
- ตอนที่ 31 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ Part 3
- ตอนที่ 32 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ END