วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561



나 며칠을 앓고만 있어
 นา มยอ ชี รึล อัล โค มัน อี ซอ
가슴이 너로 벅차서
 คา ซือ มี นอ โร พอก ชา ซอ
숨 쉬는 게
 ซุม ชวี นึน เก
잠드는 게 힘이 들어
 ชัม ดือ นึน เก ฮี มี ทือ รอ

เนื้อเพลง 마음의 말 : Kim Yeon Ji OST. I’m Not a Robot

나 며칠을 앓고만 있어   นา มยอ ชี รึล อัล โค มัน อี ซอ 가슴이 너로 벅차서  คา ซือ มี นอ โร พอก ชา ซอ 숨 쉬는 게  ซุม ชวี นึน เก 잠드는 게 힘이 들어  ชัม ดือ ...


보는 것만으로 행복하다고
 โพ นึน กอท มา นือ โร แฮง โบ คา ตา โก
그림자만으로 충분하다고
 คือ ริม จา มา นือ โร ชุง บุน ฮา ดา โก

씩씩하던 마음에
 ชิก ชี คา ตอน มา อือ เม
자꾸만 눈물이 일어
 ชา กู มัน นุน มู รี อี รอ

เนื้อเพลง 여기 서 있어 : Juniel OST. I’m Not a Robot

보는 것만으로 행복하다고  โพ นึน กอท มา นือ โร แฮง โบ คา ตา โก 그림자만으로 충분하다고  คือ ริม จา มา นือ โร ชุง บุน ฮา ดา โก 씩씩하던 마음에  ชิก ชี คา ตอน ม...


스쳐만 지나도
ซือ ชยอ มัน ชี นา โด
전기가 쫘르르
 ชอน กี กา จวา รือ รือ
눈빛이 오가면
 นุน บี ชี โอ กา มยอน
느낌이 좋다면
 นือ กี มี โช ทา มยอน
이쯤 돼가면 something
 อี จึม ดแว กา มยอน something
용기 내 다가가야죠
 ยง กี แน ทา คา กา ยา จโย

เนื้อเพลง Something : Sung Hoon OST. I’m Not a Robot

스쳐만 지나도 ซือ ชยอ มัน ชี นา โด 전기가 쫘르르  ชอน กี กา จวา รือ รือ 눈빛이 오가면  นุน บี ชี โอ กา มยอน 느낌이 좋다면  นือ กี มี โช ทา มยอน 이쯤 돼가면...


When I Saw You

너만을 생각하고
 นอ มา นึล แซง กา คา โก

When I Love You

Did You Miss Me

내 맘이 변한대도
 แน มา มี พยอน ฮัน แด โด

เนื้อเพลง When I Saw You : Bumkey OST. A Korean Odyssey

When I Saw You 너만을 생각하고  นอ มา นึล แซง กา คา โก When I Love You Did You Miss Me 내 맘이 변한대도  แน มา มี พยอน ฮัน แด โด

วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561



내가 설 곳을 찾을 수가 없을 때
แน กา ซอล โก ซึล ชา จึล ซู กา ออบ ซึล แต
폭풍속에서 길을 잃어버렸을 때
 พก พุง โซ เก ซอ คี รึล อี รอ บอ รยอ ซึล แต
언제나 변하지 않는
 ออน เจ นา พยอน ฮา จี อัน
사랑과 용기를 주셨던
 ซา รัง กวา ยง กี รึล จู ชยอท ตอน
그들에게 감사를 보내요
 คือ ดือ เร เก คัม ซา รึล โพ แน โย

เนื้อเพลง Dear My Family : SMTOWN

내가 설 곳을 찾을 수가 없을 때 แน กา ซอล โก ซึล ชา จึล ซู กา ออบ ซึล แต 폭풍속에서 길을 잃어버렸을 때  พก พุง โซ เก ซอ คี รึล อี รอ บอ รยอ ซึล แต 언제나 변하지 않는...


왠지 따뜻했던 그날 밤
 แวน จี ตา ตึท แทท ตอน คือ นัล บัม
눈꽃이 내려앉은 두 볼에
 นุน โก ชี แน รยอ อัน จึน ทู โพ เร
스치듯 가벼운 너의 입술이
 ซือ ชี ดึท คา บยอ อุน นอ เอ อิบ ซู รี
난 아직 잊혀지지가 않아
 นัน อา จิก อี ชยอ ชี จี กา อา นา

Beautiful night 그날의 널 기억해
 Beautiful night คือ นา เร นอล คี ออ แค
마치 시간을 되돌린 듯
 มา ชี ชี กา นึล ทเว ดล ริน ดึท
날 찾아와주길
 นัล ชา จา วา ชู กิล

เนื้อเพลง This Christmas - TAEYEON

왠지 따뜻했던 그날 밤  แวน จี ตา ตึท แทท ตอน คือ นัล บัม 눈꽃이 내려앉은 두 볼에  นุน โก ชี แน รยอ อัน จึน ทู โพ เร 스치듯 가벼운 너의 입술이  ซือ ชี ดึท คา บยอ...


마음과 반대로 아픈 말이 나와
 มา อึม กวา บัน แด โร อา พึน มา รี นา วา
너를 힘들게 했던 나도 내가 힘든 걸
 นอ รึล ฮิม ดึล เก แฮท ตอน นา โด แน กา ฮิม ดึน กอล
다짐과 다르게 나아진 게 없어
 ทา ชิม กวา ทา รือ เก นา อา จิน เก ออบ ซอ
늘 실망하게 했던 나도 후회하는 걸
 นึล ชิล มัง ฮา เก แฮท ตอน นา โด ฮู ฮเว ฮา นึน กอล

เนื้อเพลง Universe - EXO

마음과 반대로 아픈 말이 나와   มา อึม กวา บัน แด โร อา พึน มา รี นา วา 너를 힘들게 했던 나도 내가 힘든 걸  นอ รึล ฮิม ดึล เก แฮท ตอน นา โด แน กา ฮิม ดึน กอล ...



Anywhere Anytime

어딜 가든 어디 있든
ออ ดิล กา ดึน ออ ดี อิท ตึน
네가 그리워 못 참겠어
 นี กา คือ รี วอ มท ชัม เก ซอ
제발 다시 내게 내게 돌아와 줘
 เช บัล ทา ชี แน เก แน เก โท รา วา จวอ
제발 다시 내게 내게 돌아와 줘
 เช บัล ทา ชี แน เก แน เก โท รา วา จวอ

เนื้อเพลง Tell Me : Infinite

Anywhere Anytime 어딜 가든 어디 있든 ออ ดิล กา ดึน ออ ดี อิท ตึน 네가 그리워 못 참겠어  นี กา คือ รี วอ มท ชัม เก ซอ 제발 다시 내게 내게 돌아와 줘  เช บัล ท...

วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561



ฉันเปิดประตูออกทันทีที่ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน




“มีอะไรกันเหรอคะ พ่อกับแม่มีอะไรที่ปิดบังหนูไว้ บอกหนูมาสิคะ”

พ่อกับแม่ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าจู่ๆฉันก็เปิดประตูเข้ามา

“พ่อว่า...เราบอกความจริงกับลูกกันเถอะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายมากไปกว่านี้”

พ่อพูดขึ้น ฉันหันไปมองหน้าแม่ที่เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ฉันรู้สึกใจไม่ดีเลยจริงๆ อะไรคือสิ่งที่พวกท่านปิดบังกันไว้นะ

“แม่กับพ่อเข้าใจลูกนะว่าลูกคงชอบชินมาก แต่เราไม่รู้ว่าลูกจะรู้ไหม ว่าทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ถึงได้ห้ามลูกไม่ให้ยุ่งกับเขา”

“ทำไมเหรอคะ”




ฉันมักรู้สึกแปลกใจที่บ่อยๆแม่มักจะพยายามพูดถึงเรื่องฮีโระเหมือนอยากให้เราเป็นแฟนกัน แต่แม่ก็ได้เจอรุ่นพี่หลายครั้งและก็น่าจะรู้ว่าเขาเป็นคนดี แล้วทำไมถึงได้อยากให้เลิกคบกับรุ่นพี่กันนะ




“ไม่ใช่เพราะแม่ไม่ชอบชิน แต่ว่า... แม่ไม่รู้ว่าควรจะบอกลูกดีไหมเพราะเรื่องมันก็นานมาแล้ว”

“บอกหนูมาเถอะค่ะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ หนูอาจจะกลายเป็นคนโง่ที่ไม่เข้าใจอะไรเลยนะคะ”




ฉันกับแม่ยืนคุยกัน โดยที่มีพ่อฟังอยู่เงียบๆ ยังไงวันนี้ฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเพราะอะไร ฉันจ้องพ่อกับแม่และรอคำตอบว่ามีอะไรกันแน่ หลังจากที่พ่อเงียบไปนานก็เอ่ยบางอย่างขึ้น




“ลูกยังจำเรื่องที่ลูกไปเล่นจักรยานกับเพื่อนแล้วล้มตอนเด็กๆได้ไหม ตั้งแต่ตอนนั้นลูกก็ไม่ได้ขับมันอีกเลย”

“หนูจำไม่ได้จริงๆค่ะ แค่รู้ว่าเคยล้มตอนที่แม่บอก”

ฉันอยากรู้ทุกอย่างเร็วๆดูจากสีหน้าของพ่อ ฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่ซับซ้อนอยู่ในนั้นแน่ๆ




“คนที่ลูกไปด้วยกันวันนั้นก็คือ ฮีโระ ลูกจำเขาไม่ได้เลยใช่ไหม วันที่เกิดอุบัติเหตุลูกเป็นคนขับจักรยานโดยที่มีฮีโระซ้อน แต่ว่าเพราะลูกขับรถเซออกไปข้างนอกถนน ลูกถึงได้ถูกรถชน”




พ่อหยุดพูดเพียงเท่านั้น ฉันไม่เคยจำได้เลยสักครั้งเลยว่าเคยเป็นเพื่อนกับฮีโระในตอนไหน ฉันแค่รู้จากที่แม่บอกว่าฉันเคยขับจักรยานแล้วล้ม แต่ทำไมฉันถึงจำฮีโระหรือเรื่องราวพวกนั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อยล่ะ




“ในตอนนั้นลูกต้องผ่าตัดสมอง แต่หมอบอกว่าความจำส่วนหนึ่งจะหายไป หลักจากวันนั้นแม่คิดว่าลูกคงจำเรื่องทุกอย่างได้แล้ว จนเมื่อพวกเราได้รู้ความจริงวันที่เจอกับฮีโระว่าลูกจำเขาไม่ได้”




แม่เล่าด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ นี่ฉันลืมทุกอย่างที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับฮีโระทั้งหมดเลยเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไม...




แม้จะเป็นความทรงจำในส่วนที่ฉันลืมไปแล้วแต่ทำไมฉันถึงได้อยากร้องไห้ออกมากันนะ มันเป็นเรื่องที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับฉันได้เลย ทั้งเรื่องที่เคยรู้จักกับฮีโระมาก่อนและเรื่องอุบัติเหตุของเรา ฉันไม่เคยรู้อะไรเลย มิน่าล่ะช่วงนี้ฉันถึงได้เห็นภาพซ้อนของเด็กชายหญิงคู่นั้น ซึ่งจริงๆแล้วก็คือฉันกับฮีโระนั่นเอง




“แม่ของฮีโระเธอรักลูกมากนะ เธอเป็นคนมีฝีมือเรื่องการทำเบเกอรี่ เมื่อก่อนลูกมักจะได้คุกกี้รูปหมีกลับมากินที่บ้านตลอด แต่หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แม่ของฮีโระก็มาป่วยกะทันหัน และเรื่องที่พวกเราไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็ดันเกิดขึ้น เมื่อเธอจากไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด จำได้ว่าตอนนั้นฮีโระเอาแต่ร้องไห้และเรียกหาแต่แม่ของเขา หลังจากนั้นพ่อของเขาก็พาเขาย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แม่ไม่เคยคิดว่าจะได้พบกับเขาอีก จนวันนั้นที่เขามารอลูกที่หน้าบ้านและขอร้องไม่ให้บอกเรื่องนี้กับลูก”




ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้สึกได้ว่าความเศร้านั้นเกิดขึ้นมาโดยที่ฉันไม่ทันได้รู้ตัว จู่น้ำตาของฉันก็ไหลออกมาเพียงแค่ได้ยินว่าคุณแม่ของฮีโระจากไป มีความผูกพันบางอย่างที่แม้ฉันจำไม่ได้กระตุ้นให้ฉันรู้สึกว่าคนๆนี้คงเป็นคนที่สำคัญกับฉันมากๆ น้ำตาแห่งความโศกเศร้ากับเรื่องราวที่ผ่านมานับหกปีเพิ่งจะเกิดขึ้น ฉันทำได้เพียงใช้สองมือกุมหน้าเอาไว้ แต่น้ำตาที่ไหลก็มากเกินกว่าที่จะทำให้ความเสียใจเหือดแห้งไปได้ หนูขอโทษนะคะคุณแม่ของฮีโระ หนูน่าจะเสียใจกับเรื่องนี้เมื่อหกปีที่แล้ว หนูไม่ควรจะยิ้มหรือมีความสุขบนความเศร้าของฮีโระแบบนี้เลย หนูขอโทษจริงๆค่ะ ยิ่งคิดน้ำตาที่ไม่รู้ว่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งไหลผ่านแก้มมากขึ้น




“ทำไมพ่อกับแม่ไม่เล่าเรื่องนี้ให้หนูฟังตั้งแต่แรกค่ะ ทำไมต้องปิดบังไว้”




ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องปล่อยให้ฉันกลายเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ปล่อยให้ฉันมีความสุขในขณะที่มีหลายๆคนเศร้าใจยังงั้นเหรอ




“ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากเห็นลูกตัวเองทุกข์ใจหรอกนะฮารุ และที่สำคัญคุณแม่ของฮีโระก็คงไม่อยากให้เราขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก ทีนี้ลูกคงรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมเราถึงได้อยากให้ลูกดีกับฮีโระมากๆ”




แม่พูดในขณะที่ฉันรู้สึกว่าน้ำตาของแม่เริ่มคลอเบ้า พ่อเข้ามาปลอบใจฉันด้วยการจับไหล่ของฉันเบาๆ




“พ่อกับแม่ไม่ได้กีดกันให้ลูกเลิกคบกับชิน แต่พวกเราอยากให้ลูกนึกถึงฮีโระให้มากกว่านี้ เขาเป็นคนที่ต้องการใครสักคนอยู่ข้างๆเขา”

“หนูขอโทษค่ะ หนูขอโทษจริงๆ”

ฉันโผเข้ากอดพ่อและแม่พร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลไม่รู้จักจบสิ้น มีสิ่งไหนบ้างไหมที่ฉันจะสามารถกลับไปแก้ไขมันได้ ฉันทั้งสับสนและตกใจมากกับสิ่งที่ได้รับรู้วันนี้ แล้ววันพรุ่งนี้ของฉันจะเป็นยังไงกันนะ



หลังจากที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด ฉันก็กลับเข้าห้องตัวเองโดยมีแม่ตามไปด้วย เราเปิดสมุดรายชื่อเพื่อนสมัยประถมขึ้นมาดูกัน มีชื่อของฮีโระปรากฏขึ้นที่ห้องของฉัน เขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาเรียนกับพวกเราแค่หนึ่งเทอม และรูปของเขาก็มีในบอร์ดที่ติดข้างฝาของฉันด้วย ฉันเคยดูหลายรอบแต่ไม่เคยจำได้เลยว่าเป็นเขา



“ทำไมฉันจำไม่ได้กันนะ ทั้งๆที่ฮีโระ คุณแม่ ออกจะเป็นคนสำคัญสำหรับฉันขนาดนี้ ทำไมฉันต้องทำร้ายพวกเธอด้วยการจำไม่ได้ด้วยนะ”

ฉันกอดขวดโหลคุกกี้ที่ฮีโระเคยให้ไว้อ้อมแขนและนั่งคิดทบทวนถึงเรื่องราวเมื่อครั้งเป็นประถม แต่ก็นึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

บรื้น~~

จู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงรถยนต์จากข้างบ้าน ฉันเปิดม่านหน้าต่างออก ฮีโระกำลังเดินขึ้นรถ เขากำลังจะไปแล้วเหรอ ฉันยังไม่ทันได้บอกกันเขาเลยว่าฉันรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ฉันรู้แล้วว่าเคยเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง รอฉันก่อนฮีโระ อย่าเพิ่งไป ฉันรีบวิ่งออกจากห้องและรีบไปที่หน้าบ้านทันที แต่ก่อนที่ฉันจะทันได้ตะโกนเรียกชื่อเขา รถก็ได้เคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว




“ฮีโระ ฉันขอโทษ!!




ฉันได้แต่ยืนมองด้านหลังรถคันนั้นเคลื่อนตัวออกไปไกลเรื่อยๆจนหายลับตาไป น้ำตาแห่งความเสียใจของฉันไหลมาจากใจที่รู้สึกผิด ขอโทษที่ฉันจำเธอไม่ได้แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างมากเพื่อให้ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร แต่ฉันก็ยังจำเธอไม่ได้อยู่ดี แต่ถึงยังงั้นเธอก็ยังปลอบใจฉันว่าไม่เป็นไร เธอใจร้ายมากจริงๆฮีโระ เธอทำให้ฉันมีความสุขและเก็บเอาความทุกข์เอาไว้เพียงลำพัง




สายฝนค่อยๆโปรยปรายลงมาทีละน้อย ราวกับจะรู้ว่ากำลังมีใครบางคนที่กำลังเศร้า ฮีโระ เธอคงเศร้ามากกว่าฉันเป็นหลายเท่าเลยใช่ไหม ฉันขอโทษ




ฉันเดินไปหยุดตรงที่หน้าบ้านฮีโระ ดอกไม้ที่เคยสดใสก็ดูเหมือนจะเหี่ยวแห้งไปด้วย พวกเธอก็คงจะเศร้าไปกับฮีโระด้วยสินะ ฉันมองไปรอบๆบ้าน และสายตาก็ไปสะดุดเข้าที่เก้าอี้ตัวที่ฮีโระและฉันเคยนั่งด้วยกันตอนดูดาว บนเก้าอี้มีไดอารี่สีเหลืองเล่มหนึ่งวางอยู่ ฉันเดินเปิดประตูรั้วสีขาวเข้าไปและหยิบมันขึ้นมา ด้านหน้าของไดอารี่มีตัวหนังสือเขียนเอาไว้ว่า “Hero Diary Secret”




.............................................................................................................................................................................................




ผู้หญิงสวมชุดเดรสสีขาวยืนอยู่ไม่ไกลจากฉันนัก ในมือของเธอถือตระกร้าบางอย่างยื่นมาให้ฉัน แต่เใื่อฉันพยายามมองหน้าเธอ ภาพที่เห็นกลับเป็นแค่ภาพที่เลือนลางจนฉันไม่สามารถมองเห็นหน้าของเธอได้ชัดเท่าที่ควร เธอยื่นมือมาจับที่แก้มของฉันอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มของเธอดูคุ้นเคยมากๆ ภายใต้ใบหน้านั้นทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความใจดีและอบอุ่น เธอยื่นของบางอย่างมาให้ฉัน และก่อนที่ฉันจะทันได้เอ่ยขอบคุณ เธอก็หายไปในม่านหมอกสีขาวแล้ว ฉันก้มลงดูของที่ฉันรับมามันคือ...คุ๊กกี้ตุ๊กตาหมี

พรวด~~~

ฉันลืมตาและลุกขึ้นนั่งทันที นี่ฉันฝันไปยังงั้นเหรอ คนๆนั้นต้องเป็นคุณแม่ของฮีโระแน่นอน เธอมาหาฉันเพื่อปลอบใจฉันสินะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เห็นหน้าเธอชัดๆแต่เธอก็ดูเป็นคนสวยและใจดีมากๆ ในความฝันเธอจับที่แก้มเหมือนจะซับน้ำตาของฉัน ทั้งคุณแม่และฮีโระดีกับฉันมาก แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ทำอะไรดีๆให้พวกเขาเลย



“ขอโทษนะคะคุณแม่ของฮีโระที่หนูไม่สามารถชดเชยสิ่งที่ผ่านมาได้”




ฉันหยิบกระปุกตุ๊กตาหมีขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของคุณแม่ของฮีโระที่จะคอยเป็นกำลังใจให้ฉัน เมื่อคิดถึงฮีโระ ฉันได้คิดถึงหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นกับฉัน ฮีโระเป็นคนที่คอยช่วยเหลือฉันในทุกๆเรื่อง เขาคอยเป็นกำลังใจให้ฉันสมหวังกับรุ่นพี่ แต่เมื่อมานึกย้อนกลับฉันเองไม่เคยได้ทำอะไรให้กับฮีโระ ช่วงหลังมานี้ฉันเอาแต่ใช้เวลากับรุ่นพี่ซึ่งฮีโระก็มักจะขอตัวกลับก่อนเสมอ นั่นก็เป็นเพราะเขาอยากให้ฉันได้มีช่วงเวลาดีๆกับรุ่นพี่เยอะๆนั่นเอง




“ขอโทษนะฮีโระที่ฉันจำเธอไม่ได้ ฉันขอโทษจริงๆ”




หลังจากที่เมื่อวานฮีโระได้ย้ายออกไปโดยที่ฉันไม่ทันได้ร่ำลากับเขาสักคำ วันนี้ฉันก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับความจริงและความซื่อบื้อของฉันได้ ทั้งที่เขาทำทุกอย่างให้ฉันมากมายขนาดนี้ แต่ฉันก็กลับทำร้ายเขาด้วยการจำอะไรไม่ได้เลย และผู้หญิงคนที่เขาพูดถึงตลอดมาก็คือ... ฉัน คงเหมือนกับที่เขาพูด ฉันไม่ควรสัญญาในสิ่งที่ทำไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่จำเขาไม่ได้เท่านั้น แต่ฉันทำลายสัญญาของเราด้วยการไปคบกับรุ่นพี่ ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยกีดกันแม้แต่น้อย แถมยังคอยเชียร์และให้กำลังใจฉันอีกต่างหาก





บนถนนเส้นเดิมที่เราเคยเดินด้วยกัน ที่ตรงนี้ไม่มีฮีโระอยู่อีกแล้ว ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่การได้ยินเสียงใครคนหนึ่งทักทายกับท้องฟ้าและแสงแดดมันทำให้ฉันยิ้มออกมาได้ นับตั้งแต่วันที่ฮีโระย้ายออกไป มีหลายต่อหลายสิ่งที่ฉันยังสงสัย




“ฮีโระ ตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ?”




หัวใจของฉันมีความสุขในทุกวันโดยที่ฉันไม่รู้เบื้องหลังแม้แต่น้อย ฉันคิดถึงช่วงเวลานั้นจริงๆ ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ฉันอยากทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนเธอบ้าง แม้ว่ามันยังไม่เพียงพอกับที่เธอทำให้ฉันเหมือนกับที่ผ่านมา ฉันเอาโทรศัพท์ที่ฮีโระเคยให้ออกจากกระเป๋า เสียงฮีโระที่เคยทักทายฉันอย่างสดใสเมื่อตอนที่เขามารอฉันอยู่ที่หน้าบ้าน ภาพของเขาที่กำลังนั่งฟังเพลงจากหูฟังของเขาริมหน้าต่างๆ ไอศกรีมที่เขายื่นมาให้ฉันเมื่อเห็นว่าฉันกำลังร้องให้ ฉันยังรู้สึกราวกับว่ายังจะได้พบเจอเขาในวันนี้ ความทรงจำเก่าๆก็วนเวียนกลับมาหาฉันอีกครั้ง แต่แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมา ไม่มีเหลืออีกแล้วสินะ




ฉันยืนอยู่เพียงลำพังท่ามกลางถนนที่ว่างเปล่า ในมือกอดไดอารี่สีเหลืองของฮีโระเอาไว้แน่น วันนี้เป็นวันที่สายลมช่างเหน็บหนาว แม้วันเวลาจะผ่านเลยไป แต่ฉันก็ยังคงถามตัวเองทุกวัน หัวใจฉันจะเข้มแข็งขึ้นเมื่อไหร่กันนะ? ฝนไม่ยอมหยุดตกเลย สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าอันแสนไกล





สักพัก...ร่มสีเหลืองที่คุ้นตาก็มาพร้อมกับชายคนหนึ่งที่ฉันบอกฮีโระตลอดมาว่าฉันชอบเขา

“ฮีโระบอกผมว่า เวลาที่ผู้หญิงร้องไห้คือเป็นเวลาที่ไม่น่ารักที่สุดนะ”

รุ่นพี่โอบกอดฉันไว้ท่ามกลางสายฝนที่ช่วยกลบเสียงร้องไห้ของฉันไว้

“ขอโทษนะคะ แต่รุ่นพี่คงต้องทนเห็นฉันทำตัวไม่น่ารักไปอีกสักพัก”

“ไม่ว่าฮารุจะเป็นยังไง ผมก็จะดูแลฮารุให้ดี ไม่อย่างนั้นฮีโระต้องกลับมาเอาฮารุคืนไปแน่ๆเลย ผมไม่ยอมหรอก”




ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย มีใครหลายๆคนกำลังเศร้า กำลังเหงาและกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ แต่ไม่ว่าวันนี้ฝนจะหนักขนาดไหน ฉันหวังว่าวันพรุ่งนี้ฟ้าหลังฝนของใครหลายๆคนจะดูสดใส ฮีโระ ฉันหวังว่าวันพรุ่งนี้เธอคงจะยิ้มทักทายกับท้องฟ้าและแสงแดดได้เหมือนเช่นเคยนะ




---- ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนจบสุดท้าย ---




แต่... ยังไม่ท้ายสุดนะคะ ทุกคนได้อ่านไดอารี่ของฮารุกันไปแล้ว หลังจากนี้ยังมีตอนพิเศษจากไดอารี่เล่มสีเหลืองที่ฮีโระทิ้งไว้ให้ฮารุ ซึ่งจะเป็นส่วนที่เราจะได้รับรู้ความรู้สึกของฮีโระกันบ้าง เป็นตอนสั้นอีก 6 ตอนจบค่ะ




---- อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ----


The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ

>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 26 - ความลับที่ถูกเปิดเผย

ฉันเปิดประตูออกทันทีที่ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน “มีอะไรกันเหรอคะ พ่อกับแม่มีอะไรที่ปิดบังหนูไว้ บอกหนูมาสิคะ” พ่อกับแม่ทำหน้าตกใจเมื...

วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561



ในค่ำคืนของวันนั้น ที่หน้าบ้านของฮีโระ สว่างไสวไปด้วยดวงประทีปที่ถูกจุดตั้งแต่รั้วหน้าบ้านไปจนถึงประตู ฮีโระแอบเดินมาเคาะที่หน้าต่างห้องของฉันในกลางดึกเหมือนวันแรกที่เขาฝ่าสายฝนมาพร้อมกับเสื้อกันฝนสีแดง ฉันยังจำวันนั้นได้เป็นอย่างดี





เราออกมานั่งเล่นที่หน้าบ้านของฮีโระ ในตอนนี้มีหลากหลายความรู้สึกเข้ามาในความคิดของฉัน ทั้งช่วงเวลาที่เรามีความสุขด้วยกัน ช่วงเวลาแห่งความเศร้าและตอนนี้ช่วงเวลาของการลาจากกำลังใกล้จะมาถึงพวกเราเข้ามาเรื่อยๆ ฉันและฮีโระนั่งอยู่บนชิงช้าที่หน้าบ้าน พวกเรากำลังมองดูดาวด้วยกัน แม้ว่าจะไม่คุยอะไรกันมากมาย แต่ฉันคิดว่าเราทั้งคู่ต่างก็กำลังพยายามจดจำช่วงเวลาดีๆที่พวกเราได้อยู่ด้วยกันให้มากที่สุด




“เรื่องเธอคนนั้น ฮีโระคิดว่าจนถึงตอนนี้เธอจะจำฮีโระได้ไหม”

“ไม่รู้สินะ จริงๆแล้วผมอยากให้เธอจำผมได้ แต่ถ้าหากเธอจำผมไม่ได้จริงๆ ผมก็... ไม่คิดจะโทษเธอหรอก เพราะแค่ผมได้มีความทรงจำที่ดีกับเธอช่วงหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้ว”




เขาพูดในขณะที่แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉันเดาว่าเขาคงเศร้ามากแน่ๆหากเธอจำเขาไม่ได้ แต่เขาเป็นคนดีขนาดนี้ ฉันคิดว่าเธอไม่น่าจะลืมเขาได้หรอก




“เอ๊ะ นั่นดาวตกนี่นา มาอธิษฐานกันเถอะ”

ฉันรีบบอกฮีโระ และกุมมือขึ้นมาอธิษฐาน "ขอให้ฮีโระได้เจอเธอคนนั้นและขอให้เธอจำเขาได้ด้วยเถอะค่ะ"




……………………………………………………………………………………………………………




ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ ฉันไม่ได้ออกไปหาฮีโระตั้งแต่ตอนเช้า เพราะแม่บอกว่าเจอฮีโระยืนรถน้ำต้นไม้อยู่ที่หน้าบ้านตอนออกไปจ่ายตลาดและชวนฮีโระมาทานข้าวด้วยกันแล้ว แต่เขาบอกว่าต้องเก็บของเลยไม่ได้มาทานด้วย แม่เลยคิดว่าเย็นนี้จะจัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งให้กับฮีโระ พอตกตอนบ่ายฉันจึงช่วยแม่เตรียมของเพื่อทำกับข้าว ขณะที่ทำอาหารแม่ก็ถามฉันขึ้น




“เวลาที่ลูกอยู่ใกล้ฮีโระ ลูกรู้สึกอะไรหรือเปล่า”

“เอาอีกแล้วนะคะแม่ หนูบอกแล้วไงคะว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน”

“ลองคิดดีๆ ค่อยๆนึก ลูกไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆเหรอ อย่างเช่นคุ้นๆหน้า หรือเคยเจอเขาที่ไหนสักแห่ง”

“จะบอกว่าเป็นประมาณพรหมลิขิตอะไรแบบนี้ใช่ไหมล่ะคะ หนูไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ”

“มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้ไปได้นะ”




แม่ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง ฉันอยากจะบอกแม่เหลือเกินว่า ไม่ว่าแม่จะพยายามเชียร์ฮีโระมากขนาดไหน ฉันก็ชอบฮีโระไม่ได้จริงๆ เพราะความรู้สึกที่ฉันมีต่อฮีโระมันเป็นความรู้สึกเหมือนเพื่อนที่เคยรู้จักกันมาเนิ่นนาน อาจจะรู้สึกแปลกกับบางอย่างที่ฉันรู้สึกว่าผูกพันธ์กับฮีโระมากๆ แต่มันก็ไม่ใช่ความรักอยู่ดี หลังจากที่ฉันช่วยแม่เตรียมของเพื่อทำกับข้าวสำหรับมื้อเย็นเสร็จแล้ว ก็ไปเรียกฮีโระที่บ้าน แต่ก่อนที่ฉันจะทันได้เปิดประตู จู่ๆประตูก็เปิดออก ฮีโระเป็นคนเปิดประตูเข้าพอดีทำให้ฉันตกใจจนแทบหัวใจจะวาย




“นี่ ทำไมจู่ๆก็โผล่มายังงี้ล่ะ”

ฉันพูดออกไปพลางเอามือจับหน้าอกด้วยความตกใจ

“ฮารุนั่นแหละที่ทำให้ผมตกใจ พอผมเปิดประตูมาก็มีคนยืนอยู่ ผมก็แทบจะหงายหลังไปเหมือนกันนะ”

เรายืนเถียงกันอย่างนั้นสักพัก ฮีโระก็บอกว่า...

“ก่อนจะกินข้าว ผมขอเวลานิดหน่อยได้ไหม ผมมีเรื่องที่อยากทำตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำ เรา...ไปฝึกปั่นจักรยานกันเถอะ”

“เอ๊ะ ฉัน..ปั่นไม่ได้หรอก มันน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้”

“มาเถอะน่า ผมจะดูแลไมให้ฮารุบาดเจ็บเอง”




จู่ๆเขาก็บอกให้ฉันขึ้นไปนั่งบนเบาะ แล้วบอกให้ฉันค่อยๆปั่นช้าๆ มองไปข้างหน้าและมือที่ควบคุมแฮนรถต้องมั่นคง ฉันทำตามที่เขาบอกโดยที่เขาไม่ได้ปล่อยมือออกจากรถและช่วยประคองจักรยานไปแบบนั้น ภาพในตอนนี้ทำไมฉันรู้สึกเหมือนมันเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วนะ ทำไมเหมือนกับว่าฉันเคยฝึกปั่นจักรยานแบบนี้มาก่อนและใครเป็นคนที่สอนฉันล่ะ ทำไมฉันนึกไม่ออก ในระหว่างที่ฉันกำลังคิดฮีโระก็พูดออกมาด้วยเสียงที่ดังจนฉันตกใจ




“ฮารุอย่าเหม่อสิ มันอันตรายนะ”

“อย่าเอ็ดสิ ตกใจหมดเลย ฉันแค่คิดอะไรเพลินๆนิดหน่อยแค่นั้นเอง”

“ไม่ได้นะ ตอนขับรถจะใจลอยไม่ได้เด็ดขาดเพราะมันอันตราย”




ฮีโระดูจริงจังกับการสอนปั่นจักรยานให้ฉันมาก ทำไมเขาต้องทำหน้าขึงขังเหมือนกับว่าเคยเกิดอะไรไม่ดีกับเขามาก่อนยังงั้นแหละ หลังจากที่โดนฮีโระดุไปสองสามครั้งฉันก็ตั้งใจที่จะฝึกเต็มที่จนรู้สึกมั่นใจว่าสามารถปั่นได้เองแล้ว




“ฮีโระปล่อยมือเถอะ ฉันคิดว่าฉันขับเองได้แล้วล่ะ”

“แน่ใจนะ”

“อื้ม”




ฮีโระทำหน้าเหมือนยังเป็นกังวลแต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยมือ ฉันมองไปข้างหน้าและค่อยๆปั่นอย่างช้าๆแม้จะดูทุลักทุเลไปบ้าง แต่ฉันก็สามารถปั่นจักรยานได้แล้ว ฉันปั่นกลับไปหาฮีโระที่ยืนรออยู่ตรงทางเดินของสวนสาธารณะ แทนที่ฉันจะเห็นฮีโระ แต่ฉันกลับเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยิ้มและโบกมือให้ฉัน ฉันหยุดปั่นและมองกลับไปดูอีกครั้ง ฮีโระยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ แล้วเด็กคนนั้นเป็นใครกันนะ ฮีโระวิ่งเข้ามาหาฉันในขณะที่ฉันกำลังยืนสงสัยอยู่




“ฮารุ มีอะไรเหรอ”

“เปล่า แค่แปลกใจนิดหน่อย”

“แปลกใจ เรื่องอะไรเหรอ”

“เมื่อกี้ตอนฉันปั่นกลับมา ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงที่ฮีโระยืน แต่พอฉันมองดูอีกทีก็ไม่เจอเขาแล้ว”

“ห๊ะ”




ฮีโระนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เขาหันไปดูที่ม้านั่งข้างทางเดินที่ฉันบอกว่าเจอเด็กคนนั้น เหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง ไม่แน่เขาอาจจะคิดว่าฉันเห็นเป็นวิญญาณก็ได้





“คือ ฉันว่าฉันคงตาฝาดมากกว่าน่ะ อย่าคิดมากเลย กลับบ้านกันเถอะ พ่อกับแม่คงรอกินข้าวแล้วล่ะ”




ฉันกระโดดซ้อนท้ายจักรยานที่มีฮีโระเป็นคนปั่นกลับมาบ้าน ตอนนี้แม่กับพ่อช่วยกันเตรียมกับข้าวจนเสร็จแล้ว ฮีโระบอกว่าเขาขอตัวอาบน้ำก่อนแล้วจะมาที่บ้าน พ่อเอาสายรุ้งมาติดที่บนเพดานและหยิบหมวกสำหรับใส่ในงานปาร์ตี้ออกมา




“โอ๊ะ แม่ลืมซื้อเค้กเสียสนิทเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกแม่ แค่ทานข้าวด้วยกันก็ได้”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นหนูออกไปซื้อเองค่ะ ฮีโระน่าจะยังไม่กลับ เพราะเห็นว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปลาทุกคนที่โรงเรียนอยู่”




ฉันพูดขึ้น หลังจากเตรียมอะไรเสร็จเรียบร้อยฮีโระก็มาพอดี พวกเรานั่งกินข้าวและพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆราวกับว่าเราเป็นคนรู้จักกันมาเนิ่นนาน พ่อและแม่ดูจะรักและเป็นห่วงฮีโระมากและไม่อยากให้เขาจากไป




“เธอน่าจะได้อยู่กับพวกเราที่นี่นานๆนะฮีโระ ป้าจะได้ทำกับข้าวให้เธอบ่อยๆ”

“ขอบคุณครับคุณป้า แค่นี้ผมก็ดีใจมากๆแล้ว”

“แต่น่าเสียดายนะที่เธอพิชิตใจฮารุไม่ได้น่ะ”

พ่อพูดขึ้นพร้อมกับตักกับข้าวใส่จานให้ฮีโระ

“นั่นน่ะสิครับ น่าเสียดายจริงๆที่เธอ... กลับไปชอบรุ่นพี่ชินมากกว่า ฮะๆ”

“ดูแลตัวเองด้วยนะฮีโระ ไม่รู้ว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ แต่ถ้าผ่านมาแถวนี้แวะมาเยี่ยมพวกเราด้วยนะ”

“ครับคุณป้า แล้วผมจะกลับมาแน่นอนครับ”




แม่บอกฮีโระอย่างห่วงใยราวกับว่าเขาเป็นลูกอีกคนหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าวันไหนที่เราจะได้เจอกัน แต่ฉันก็หวังเพียงว่าสักวันเราจะได้กลับมาพบกันใหม่อีกครั้ง ค่ำคืนของปาร์ตี้เล็กๆสำหรับการเลี้ยงส่งฮีโระจบลง ฉันเดินไปส่งฮีโระที่บ้าน




“ที่จริงควรจะเป็นผมมากกว่านะที่ต้องไปส่งฮารุเข้าบ้านน่ะ เพราะผมเป็นผู้ชาย”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากทำเพื่อฮีโระบ้าง”

“ขอบคุณนะสำหรับทุกๆอย่างที่ฮารุทำเพื่อผม ผมดีใจมากๆที่เราได้เจอกัน และผมจะไม่ลืมช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันเลย”

“ฉันเองก็ขอบคุณฮีโระมากๆเหมือนกัน ฮีโระเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ สำหรับฉันและไม่ว่านานเท่าไหร่ฮีโระก็จะยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเสมอนะ”




ฉันไม่รู้หรอกว่าคำพูดในวันนี้ของฉันจะไปทำร้ายความรู้สึกของฮีโระขนาดไหน หลังจากที่ส่งฮีโระเข้าบ้านไปแล้ว ฉันก็กลับเข้าบ้านและหวังเพียงว่าวันพรุ่งนี้เวลาจะไม่ผ่านไปเร็วนัก เพราะถึงยังไงฉันก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี ฉันหลับตาลง ภาพของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงคู่หนึ่งวนเวียนเข้ามาในความฝันอีกครั้ง พักหลังมานี้ ฉันเห็นภาพของทั้งสองคนบ่อยขึ้น และยังคงหาคำตอบไม่ได้ว่า... พวกเขาเป็นใครกันนะ




รุ่งเช้าของวันจันทร์ ฉันสะดุ้งตื่นก่อนที่นาฬิกาจะทันปลุก ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวและไปยืนรอฮีโระอยู่ที่หน้าบ้านของเขา ไม่ถึงห้านาทีฮีโระก็เดินออกมาจากบ้าน เขาส่งรอยยิ้มให้ฉันอย่างสดใส




“สวัสดีตอนเช้าที่สดใสค่ะคุณฮีโระ วันนี้ฮารุมารอรับไปโรงเรียนแต่เช้าเลยนะคะ แปลกใจไหม”

“แปลกใจมากครับคุณฮารุ แต่ว่า... ฮ๊า วันนี้อากาศดีจังเลย สวัสดีครับแสงแดด” ^O^




ฮีโระกางแขนสองข้างของเขาออกราวกับว่ากำลังจะโอบกอดท้องฟ้าเอาไว้ เหมือนกับวันแรกที่ฉันได้เจอเขาที่ตรงหน้าบ้านแบบนี้ มันเป็นภาพที่ฉันเห็นจนชินตาตลอดสี่เดือนที่เขาอยู่ที่นี่ ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันและฉันก็รู้สึกดีมากๆ เราเดินไปโรงเรียนด้วยกันอย่างไม่รีบร้อนเหมือนวันก่อนๆ ฉันอยากให้เวลาเดินช้าอย่างที่ฉันจะกำหนดมันได้ แต่ในความจริงเวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆจนมาถึงวันนี้แล้ว




“ฮึก ฮึก” เมื่อคิดว่าภาพเหล่านี้ฉันจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว จู่ๆน้ำตาที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ก็นองเต็มหน้าของฉัน

“ฮะ ฮารุ เป็นอะไรหรือเปล่า ร้องไห้ทำไม”

“นั่นสินะ ทำยังไงดีละ ฮึก ฮึก จู่ๆน้ำตามันก็ไหลไม่หยุดเลย ทำไมฉันถึงได้เป็นแบบนี้ได้นะ”




พอคิดว่าวันนี้เราจะได้เดินไปโรงเรียนด้วยกันเป็นวันสุดท้าย ใจของฉันก็รู้สึกหายวาบ และน้ำตาก็ไหลมาเป็นทางอย่างไม่คาดคิด นี่ฉันเป็นอะไรกันแน่นะ




“ไม่เอาน่า อย่าร้องไห้ บอกแล้วไงว่าคนที่ร้องไห้น่ะ จะไม่น่ารักนะ”




ฮีโระยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉัน เป็นอีกครั้งที่เขาต้องปลอบฉัน และมันคงเป็นความเคยชินที่ฉันไม่อาจจะขาดได้เสียแล้ว ฉันรับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาซับน้ำตา แม้จะเดินให้ช้าเท่าไร แต่แล้วก็ต้องมาถึงโรงเรียนอยู่ดี




”สวัสดีตอนเช้าครับรุ่นพี่ วันนี้ขอรบกวนอีกหนึ่งวันนะครับ”

“หวัดดีฮีโระ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสินะ ขอให้เป็นวันที่มีความสุขอีกวันหนึ่งนะ หวังว่าเราคงจะได้มีโอกาสได้พบกันอีก”

“แน่นอนครับ เราต้องได้พบกันอีกแน่นอน”

ฉันมองดูพวกเขาสองคนที่คุยกันอยู่ตรงนั้น หลังจากคุยกับรุ่นพี่เสร็จฉันกับฮีโระก็เดินไปที่ห้องเรียน ที่หน้ากระดานเต็มไปด้วยลายมือที่ไม่รู้ว่าของใครมากมายเต็มกระดานไปหมด ตรงกลางกระดานมีคำพูดเขียนถึงฮีโระไว้ “โชคดีนะ ฮีโระของพวกเรา”




“พวกนี้เพี้ยนไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย”




ฮีโระพูดขึ้นเหมือนว่าเขารำคาญ แต่จริงๆแล้วฉันคิดว่าเขาคงดีใจมากกว่า ขณะที่ฮีโระกำลังเอากระเป๋าใส่ไว้ใต้โต๊ะ จู่ๆเพื่อนก็พากันมาล้อมรอบฮีโระ แล้วยิงพลุสายรุ้งใส่เขา พร้อมกับมอบของขวัญที่พวกเขาทำเองให้เป็นที่ระลึก ฉันไม่แปลกใจหรอกว่าเป็นฝีมือใคร เพราะเธอเป็นคนบอกฉันเองว่าเราน่าจะเซอไพรซ์อะไรสักอย่างให้เขา มุนอาและเพื่อนๆเอารูปของพวกเราทุกคนรวมถึงรูปของฮีโระที่ไม่รู้ว่าไปแอบถ่ายตอนไหนมาใส่ไว้ในกรอบใหญ่รวมกัน เป็นของขวัญที่จะเป็นความทรงจำดีๆให้กับเขา ฮีโระขอบคุณทุกคนก่อนที่จะรับของขวัญไว้ หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็เข้ามา




“ทุกคนคงรู้แล้วสินะว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฮีโระจะได้อยู่กับพวกเรา ครูดีใจที่ทุกคนเข้ากับฮีโระได้ และตั้งแต่เธอมาที่นี่ก็ทำให้ห้องเรียนของเราดูสดใสขึ้นเยอะ ไหนๆก็วันสุดท้ายแล้วออกมากล่าวอะไรสักเล็กน้อยสิ”

อาจารย์พูดขึ้น ฮีโระค่อยๆลุกจากโต๊ะของเขาไปที่หน้าห้องเรียน ทุกคนกำลังจ้องไปที่เขาเป็นจุดเดียวและกำลังรอฟังสิ่งที่ฮีโระจะพูด

“ผมรู้สึกดีใจมากครับที่ได้มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นี่ ชั้นนี้ ห้องเรียนนี้และ... ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนั้น แม้จะเป็นเวลาไม่นานนัก แต่ก็ทำให้ผมได้รับความทรงจำใหม่ๆที่ไม่อาจลืมได้ ขอบคุณทุกๆคนที่คอยดูแลและดีกับผมมากๆ ถ้ามีโอกาสผมหวังว่าสักสักวันหนึ่งเราคงได้พบกันอีกและขอให้ทุกคน... อย่าเพิ่งลืมผมนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริงๆ”

ฮีโระโค้งหัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณทุกๆคนที่อยู่กับเขา มุนอาแอบน้ำตาซึมไม่ว่ายังไงเธอก็ยังคงชอบฮีโระ หลังจากช่วงเวลานั้นผ่านไป ตอนเที่ยงอาจารย์เลี้ยงข้าวและไอศกรีมพวกเราที่โรงอาหาร ฮีโระลุกไปเอาไอศกรีมรสนมมาให้ฉัน

“ขอบคุณนะ”




ฉันรับไอศกรีมจากฮีโระ หลังจากที่พวกเราทานมื้อเที่ยงกันเสร็จช่วงเวลามันก็ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เร็วจนมาถึงตอนเย็นเลิกเรียนแล้ว ฉันกับฮีโระมาส่งมุนอาขึ้นรถ




“นี่คงเป็นวันสุดท้ายแล้วสินะที่ฮีโระจะได้มาส่งฉันกลับบ้านแบบนี้ ฉันคงคิดถึงนายมากแน่ๆ”

“ต่อไป ก็คงต้องให้เป็นหน้าที่ของรุ่นพี่อินซาแล้วล่ะ มุนอา ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่พยายามทำให้ผมนะ และขอโทษกับเรื่องร้ายๆที่ผ่านมาด้วย”

“ไม่หรอกน่า สิ่งที่นายทำผิดกับฉันเพียงอย่างเดียวคือการที่นายไม่ยอมชอบฉันนั่นแหละ”




ฮีโระและมุนอาร่ำลากันก่อนที่รถจะออก เธอโผเข้ามากอดฮีโระก่อนจะยื่นของขวัญบางอย่างให้กับเขา มันเป็นของขวัญสี่เหลี่ยมแบนๆที่ห่อไว้ด้วยกระดาษสีเหลือง รถเมย์ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ ฮีโระโบกมือให้กับมุนอาที่ตอนนี้ดูเหมือนเธอกำลังร้องไห้แต่ก็พยายามโบกมือให้กับฮีโระเช่นกัน หลังจากที่พวกเราส่งมุนอาเสร็จ ฉันกับฮีโระก็เดินกลับบ้านด้วยกัน




“ผมหวังว่าฮารุกับรุ่นพี่จะมีความสุขด้วยกันตลอดไปนะ”

“ฉันก็ขอให้ฮีโระมีความสุขและเจอเธอคนนั้นเร็วๆเหมือนกันนะ และสักวันหนึ่งเราคงได้กลับมาพบกันใหม่ใช่ไหม”

“อื้ม เราจะได้พบกันแน่นอน ถ้าหากว่า...ฮารุไม่ลืมผมนะ เราจะกลับมาพบกัน”

“ฉันไม่มีทางลืมฮีโระหรอกน่า สัญญาก็ได้นะ”

ฉันยื่นนิ้วก้อยให้ฮีโระเพื่อแทนคำสัญญา แต่เขากลับไม่เกี่ยวก้อยตอบและบอกฉันว่า

“ผมไม่อยากให้ฮารุสัญญาอะไรที่อาจจะทำไม่ได้หรอก เพราะฮารุน่ะขี้ลืมจะตาย”

“เอ๋... ฉันไม่เคยลืมอะไรเลยนะ ฮีโระอย่ามามั่วหน่อยเลยน่า”




วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้เดินกลับบ้านด้วยกันแบบนี้ อ่อ... ฉันลืมไปเลยว่าเย็นนี้ต้องไปซื้อเค้กมาให้ฮีโระเป็นของขวัญ ฉันต้องรีบซื้อและรีบกลับมาซะแล้ว




“ฮีโระ เดี๋ยวฉันมานะ ฮีโระรออยู่ที่บ้าน อย่าไปไหนล่ะ”

ฉันรีบวิ่งทันทีที่นึกถึงเค้กได้ และตะโกนบอกฮีโระไปอย่างนั้น โดยที่ได้ยินเสียงฮีโระตะโกนบางอย่างมา

“เดี๋ยวก่อนฮารุ อย่าเพิ่งไป”




แต่ฉันก็ไม่สนใจ เพราะฉันนึกแต่เพียงว่าฉันต้องรีบซื้อเค้กและรีบกลับมา ฉันรีบวิ่งเต็มฝีเท้าและเมื่อถึงร้านเค้กฉันเลือกเค้กรูปหมีและจ่ายเงินทันที ในระหว่างที่กำลังรีบกลับ ฉันก็บังเอิญเหลือบไปเห็นที่ร้านดอกไม้แห่งหนึ่งมีต้นไม้ที่เหมือนกับฮีโระให้ฉัน ฉันเดินเข้าไปที่ร้าน เจ้าของซึ่งเป็นผู้หญิงกำลังเดินออกมา




“สนใจต้นไหนสอบถามได้นะคะ”

“คือ อยากถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ หนูอยากรู้ว่าต้นแบบนี้คือต้นอะไรเหรอคะ”

ฉันชี้มือไปที่กระถางดอกไม้ที่เหมือนกับฮีโระซื้อให้ฉัน

“อ๋อ มันคือต้นดอกไลแลคค่ะ ความหมายของมันดีมากๆเลยนะ เพราะมันเป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความรักครั้งแรก เชื่อกันว่าถ้าหากผู้ชายคนไหนมอบดอกไลแลคให้กับผู้หญิงละก็ แสดงว่าเธอคนนั้นเป็นความรักครั้งแรกของเขาค่ะ

”รัก... ครั้งแรกเหรอคะ”

“ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะให้กับผู้หญิงที่เป็นรักครั้งแรกของเขา”




ฉันกล่าวขอบคุณและเดินออกมาจากร้านดอกไม้อย่างใจลอย ไม่เข้าใจว่าทำไมฮีโระถึงได้ให้ดอกไลแลคกับฉัน ครั้งนี้เขาไม่ได้ให้มามั่วๆเพราะเขาบอกให้ฉันไปหาความหมายของมันด้วย แสดงว่าเขารู้ความหมายของมันอยู่แล้ว ฉันหอบเค้กอย่างระมัดระวังและรีบวิ่งกลับบ้าน ก่อนที่ฉันจะทันได้เปิดประตูเข้าไป ก็บังเอิญได้ยินบทสนทนาบางอย่างเข้า




“ฮีโระกำลังจะไปแล้ว เราจะไม่บอกความจริงกับลูกจริงๆเหรอแม่”

เสียงพ่อพูดขึ้น

“แม่ก็ไม่สบายใจเหมือนกัน เราควรจะบอกลูกใช่มั้ย”




เสียงสนทนาของพ่อกับแม่แว่วออกมาถึงประตูหน้าบ้านที่ฉันกำลังจะบิดลูกบิด มือของฉันหยุดชะงัก พ่อกับแม่กำลังคุยอะไรกันอยู่นะ นั่นคือคำถามที่ทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีและสงสัยมากยิ่งขึ้น



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ


>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 25 - เรื่องที่ยังไม่เคยรู้

ในค่ำคืนของวันนั้น ที่หน้าบ้านของฮีโระ สว่างไสวไปด้วยดวงประทีปที่ถูกจุดตั้งแต่รั้วหน้าบ้านไปจนถึงประตู ฮีโระแอบเดินมาเคาะที่หน้าต่างห้อง...

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com