วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


The secret of memory : ตอนที่ 3 เพื่อนสนิท?
ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto



ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางวัน เพื่อนในห้องต่างก็ให้ความสนใจฮีโระเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องหน้าตา ความสูง ความชอบ หรืออะไรต่างๆนานาที่พวกเขาอยากรู้ และดูเหมือนว่าฮีโระเองก็สามารถเข้ากับเพื่อนๆทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้ดีเลยทีเดียว มื้อเที่ยงของวันนี้เลยกลายเป็นปาร์ตี้เล็กๆสำหรับพวกเราชาวปี 2 ห้อง 1

“เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของห้องเรา เที่ยงนี้พวกเราไปกินข้าวที่โรงอาหารพร้อมกันดีกว่านะทุกคน”

หัวหน้าห้องชวนทุกคนไปที่โรงอาหารของโรงเรียน ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาอยากต้อนรับนักเรียนใหม่ ทุกคนต่างซื้ออาหารและขนมมากมายมาเพื่อฮีโระโดยเฉพาะ เสียงสนทนาเกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะมากิที่อยากจะรู้จักกับฮีโระเป็นพิเศษ

“ฮีโระ ฉันขอถามได้มั้ย เธอชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?” *0*

เธอมักจะเป็นคนซื่อตรงต่อความคิดของตัวเองเสมอ ฉันชอบที่เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและยอมรับความจริงต่างๆได้ดี ซึ่งเป็นข้อดีที่หาจากตัวฉันไม่ได้เลย เพราะแบบนี้มุนอาจึงเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ตั้งแต่เราเรียนมัธยมต้น จนย้ายมาอยู่มัธยมปลายโรงเรียนซองอึนแห่งนี้

“ผมเหรอ อืม... ผู้หญิงที่ผมชอบ...คงจะเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมยิ้มได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันมั้ง” ^^

“จริงเหรอ ครั้งแรกที่เจอฉัน ฮีโระก็ยิ้มเหมือนกันนะ” >_<

“อ่อ งั้นเหรอ ฮะๆๆ” ^^

เสียงแซวจากเพื่อนๆเริ่มดังขึ้นใหญ่ เมื่อได้รู้ว่ามุนอาสนใจในตัวฮีโระ และดูเหมือนทั้งคู่จะเข้ากันได้ดี เพื่อนๆกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเพียงฉันที่ชอบเป็นคนฟังมากกว่า จึงอยู่อย่างเงียบๆ แปลกเหมือนกันนะ บางครั้งฉันก็มีความสุขกับการที่ไม่ต้องพูดอะไรเหมือนกัน ฉันรู้สึกว่ามันทำให้ฉันได้อยู่กับตัวเองและได้รู้จักคนรอบข้างมากขึ้น พักหลังมานี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างช่างสังเกตขึ้นมาบ้างเล็กน้อยแล้วล่ะ

“นั่นรุ่นพี่ชินนี่นา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ยัยนั่นจะกล้าเข้าหารุ่นพี่ขนาดนี้ ไม่อายบ้างเลย ฉันไม่เห็นว่ารุ่นพี่จะชอบยัยนั่นสักนิด” =_=

“แสดงว่ารุ่นพี่อินซาไม่มาโรงเรียนอีกแน่ๆเลย รุ่นพี่ชินถึงได้มาทานข้าวคนเดียวแบบนี้น่ะ”

เพื่อนๆในห้องพูดขึ้นเมื่อพบว่า รุ่นพี่เองก็มาทานข้าวที่ห้องอาหาร ซึ่งข้างๆกันนั้นมีแชวอน ดาวเด่นของนักเรียน ม.ปลาย ซึ่งอยู่คนละห้องกับพวกเรา ดูเธอจะมีความสุขอยู่ไม่น้อยที่ได้นั่งข้างๆรุ่นพี่ = = มุนอาทำตาเขียวเมื่อได้ยินชื่อของรุ่นพี่อินซา เธอไม่อยากแม้แต่จะได้ยินชื่อนี้ เพราะหลังจากพวกเขาคบกันได้ไม่กี่เดือนก็เลิกกัน มุนอาก็บอกว่ารุ่นพี่อินซาเป็นคนเจ้าชู้และเธอไม่ชอบผู้ชายหลายใจ หลังจากที่พวกเขาเลิกกันรุ่นพี่อินซาก็ควงคนใหม่ทันที ฉันไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงของพวกเขาหรอก เพราะถึงแม้ฉันจะถามมุนอายังไงเธอก็ไม่เคยบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นระกว่างพวกเขา ฉันมองแชวอนที่ได้อยู่ข้างรุ่นพี่ด้วยความอิจฉาเล็กน้อย แต่ไวยิ่งกว่าความคิดของฉันคือ ฮีโระ จู่ๆเขาก็หยิบอาหารและขนมต่างๆเดินเข้าไปหารุ่นพี่พร้อมกับเพื่อนๆทันที

“รุ่นพี่ทานข้าวแค่สองคนแบบนี้ก็เหงาแย่สิครับ พวกเราขอทานข้าวกับรุ่นพี่ได้ไหมครับ นี่ครับน้ำ” ^_^

“อ๋อ ได้สิ ทานข้าวหลายๆคนก็สนุกดีนะ” ^^

รุ่นพี่ตอบออกมาอย่างใจดี ในขณะที่ฮีโระยื่นน้ำให้รุ่นพี่ราวกับว่าเขาสนิทกับรุ่นพี่มานานแล้ว

“รุ่นพี่ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย ฉันก็อยู่นี่ทั้งคน พวกเธอมาเบียดฉันทำไมกันเนี่ย แล้วฉันจะนั่งตรงไหนละ” .\/.

แชวอนโวยวายเมื่อถูกเพื่อนๆเบียดและรุมรุ่นพี่จนเธอไม่มีช่องว่างได้พูดจึงย้ายออกไปนั่งที่อื่น

“แล้วก็นาย....”

“หวัดดี ผม.. มีอะไรเหรอ?”

“เอ่อ.... ชะ ช่างเถอะ ชิ” O///O

ก่อนไปดูเหมือนเธออยากจะพูดอะไรสักอย่างกับฮีโระ แต่คิดว่าเธอคงเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาเพิ่งมาใหม่ ดังนั้นหน้าของแชวอนจึงแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอได้สบตากับฮีโระ

แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือการดีใจที่ได้เห็นรุ่นพี่อยู่ไม่ไกลจากฉันจากฉันนัก แน่ล่ะว่าฉันไม่กล้ามองเขาตรงๆ ก็แค่...แอบมองเท่านั้นแหละนะ

“อ้าวฮารุ มานี่สิ จะนั่งทำไมตรงนั้นคนเดียว มานั่งด้วยกันสิ” -O-

มุนอาเรียกพร้อมกับกวักมือ รุ่นพี่ยังอยู่ตรงนั้น ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้ฉันนึกถึงวันแรกที่เราได้เจอกัน และตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่สามารถละสายตาจากรุ่นพี่ได้เลย

.......................................................................................................................................................................................................................

เช้าวันจันทร์ การเริ่มต้นชีวิตนักเรียนม.ปลาย ปี 1 ของฉันก็ได้เริ่มขึ้น มันน่าจะสวยหรูและดูดีกว่านี้ถ้าหากวันนี้ฝนไม่ตก เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เตรียมสำหรับวันแรกของฉันเปียกไปเกือบครึ่งตัวแล้ว

“จู่ๆทำไมฝนต้องมาตกเอาตอนนี้ด้วยนะ ฉันไม่ได้พกร่มมาซะด้วย” +O+

ฉันยกกระเป๋านักเรียนขึ้นบังฝน ขณะที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ในขณะที่สายตาของฉันกำลังเพ่งมองท้องฟ้าและบอกกับฟ้าฝนว่าได้โปรดหยุดตกก่อนที่ฉันจะไปโรงเรียนสาย ทันได้นั้นก็มีร่มสีเหลืองคันนึงบังฝนให้ฉันไว้ และเมื่อฉันหันกลับไปมองเจ้าของร่ม ก็พบว่ามีนักเรียนชายสูงประมาณ 175-180 เขาสวมชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนซองอึนซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับที่ฉันเพิ่งสอบเข้าได้ เขาเป็นคนผิวขาว สูง หุ่นเกือบผอมบาง ตาตี๋ และจมูกโด่ง ผมสีดำขลับ ทำให้ความหล่อของเขานั้น เปล่งประกายออร่าอย่างแรงจนแทบแสบตา บอกได้เลยว่าเหมือนเทพบุตรมาโปรด ถ้าไม่มีร่มเขาอาจจะกางปีกบังฝนให้ฉันแทนก็ได้ >///< (นี่ฉันเผลอมองหน้าเขานานไปไหมนะ)

“โรงเรียนเดียวกันนี่ จะไปด้วยกันไหมละ”

เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆไม่ได้ยิ้มหรือพูดอะไรมากกว่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่า ฉันคงตกหลุมรักเขาไปแล้วแน่ๆ ตอนนี้ถ้าเทียบกับอะไรสักอย่าง ฉันว่าตอนนี้หน้าฉันคงจะกลายเป็นสีแดงเหมือนสตรอเบอรี่อย่างที่เพื่อนเคยล้อฉันสมัยเด็กจริงๆซะแล้วล่ะ

“เอ่อ ขอบ... คุณ... ค่ะ”

ฉันลดกระเป๋าที่ยกขึ้นบังหัวลง แล้วเขยิบเข้าไปอยู่ในร่มสีเหลืองที่คนๆนั้นถืออยู่ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้าร้อนผ่าว และหลังจากนั้นฉันก็ไม่กล้าที่จะสบตาหรือพูดอะไรกับเขาอีก เราเดินมาจนเกือบจะถึงหน้าโรงเรียน และแล้วฝนก็เริ่มซาลง มีแสงแดดสาดแสงผ่านละอองน้ำฝนเกิดเป็นสายรุ้งสีจางๆขึ้น ฉันกล่าวขอบคุณทั้งที่ไม่ได้มองหน้าของเขาและรีบวิ่งเข้าโรงเรียนไป

นั่นเป็นความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกับรุ่นพี่ ที่ไม่ว่าจะผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แต่ฉันก็ยังจำความรู้สึกในวันนั้นได้ดี

.......................................................................................................................................................................................................................

เที่ยงของวันนี้ก็เช่นกัน เป็นเวลาที่ฉันมีความสุขมาก พวกเราได้นั่งทานข้าวใกล้ๆรุ่นพี่ ได้พูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ เพื่อนๆต่างสงสัยว่ารุ่นพี่เป็นคนที่หยิ่งและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ภายนอกของเขาดูเป็นคนที่เอาแต่ใจและไม่เข้าสังคม แต่เมื่อหลังจากที่ได้ทานข้าวด้วยกัน พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รุ่นพี่เป็นผู้ชายที่นิสัยดีมาก และเพียบพร้อมสุดๆไปเลย

พวกเรากลับไปที่ห้องเรียน เพื่อนๆยังคงคุยกันถึงเรื่องของฮีโระ พวกเขาบอกว่าฮีโระกับรุ่นพี่ชินดูยังไงก็กินกันไม่ลง แถมพวกผู้หญิงก็ยังลองคิดกันเองว่าหากพวกเธอต้องเลือกระหว่างรุ่นพี่ชินกับฮีโระจะเลือกใครอีกด้วย

“ฉันขอเลือกรุ่นพี่ชินละกันนะ” ฉันคิดในใจว่าอย่างนั้น

มุนอาและเพื่อนผู้หญิงเกือบทั้งหมดห้องบอกว่า พวกเธออยากเลือกฮีโระ เพราะรอยยิ้มและนิสัยที่ดูร่าเริงแถมเป็นกันเองของเขา ทำให้ฮีโระเขินเล็กน้อยจนต้องยกมือมาเกาที่หัวเบาๆ และเขาก็หันมามองฉัน

( -^^) ( ^= =)

ทำไมเขาต้องหันมามองฉันด้วยล่ะ ฉันไม่ได้เลือกเขาสักหน่อย ฉันเลือกรุ่นพี่ต่างหาก

ว่าแต่... ทำไมฉันถึงได้เอาแต่มองเขาละ ฉันชอบรุ่นพี่คนเดียวเท่านั้นนะ อย่าไปมองเขา (ฉันบอกตัวเองเบาๆและหวังว่าตัวเองคงจะไม่กลายเป็นสาวกผู้คลั่งไคล้ฮีโระไปอีกคน)

หลังจากเรียนภาคบ่ายเสร็จ ยังพอมีเวลาเหลือบ้างนิดหน่อยสำหรับการไปนั่งละเม้อเพ้อฝันที่โรงยิม ที่นั่นมักจะเป็นที่ประจำของฉันและเป็นที่เดียวที่ฉันจะสามารถมองรุ่นพี่ได้อย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ที่โรงยิมแห่งนี้มักเป็นสถานที่รวมตัวของนักบาสเก็ตบอลของโรงเรียนและรวมถึงเหล่าสาวๆที่ชื่นชอบกีฬาบาสเก็ตบอล ไม่สิต้องเรียกว่า ชื่นชอบคนเล่นบาสเก็ตบอลมากกว่า

“เท่ห์ซะไม่มี รุ่นพี่ชิน จะมีใครบ้างนะที่ดูดีไปทุกอย่างเหมือนเขา” ^^

และแล้วเสียงของใครหนึ่งก็เอ่ยขึ้นทำเอาบรรยากาศที่เพ้อฝันของฉันจบลงทันที

“นี่ นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่” =[]=

ฉันพูดออกไปเพราะคิดว่า ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่หรอก มุนอาเองก็ต้องเตรียมไปรอรถบัสเพื่อกลับบ้าน เธอจึงไม่เคยเคยได้มากับฉัน และที่ฉันรู้สึกผิดคือฉันเองก็ไม่เคยบอกเธอเรื่องที่ฉันแอบชอบรุ่นพี่เหมือนกัน

“ผม ไม่ได้ตามฮารุมาหรอก ทำไมชอบคิดแบบนั้นกับผมอยู่เรื่อยเลย หรือว่าฮารุสนใจผมงั้นเหรอ”

เขาพูดพร้อมกับเอามือปิดปากของเขาไว้ แล้วขำออกมานิดๆ >w<

“ล้อเล่นน่า ไม่เห็นต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นเลยนี่ ผมแค่มาตามเซนซ์และเสียงกรี๊ดนะ เลยอยากรู้ว่าเขาทำอะไรกัน”

เฮ้อ... ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ โล่งอกที่เขาไม่ได้สงสัยอะไรเกี่ยวกับฉัน

“ว่าแต่ฮารุทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ หรือว่า... มากรี๊ด เหมือนสาวๆพวกนั้น”

ตอนเย็นหลังเลิกเรียนมักจะมีนักเรียนหญิงหลายคนมานั่งดูการซ้อมบาส นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงเชียร์ดังไม่ขาดสาย แม้ว่าจะเป็นเพียงการซ้อมเล่นๆแต่เพราะมีรุ่นพี่ ทุกคนถึงได้อยากมาที่โรงยิม ฉันจำเป็นต้องปั้นหน้าทำเป็นว่าไม่สนใจอีกครั้ง

“เฮ้ อายุยังน้อยไม่น่าหูตึงเลยนี่นา แอบดูใครอยู่กันแน่ มาดูบาสหรือว่าคน” -O-

“ฉันก็มาดู..” -///-

“หืม ว่ายังไงล่ะ สรุปแล้วมาดู.. อะไรกัน”

( ^^ ) (*O* )

ฉันหันไปมองหน้าเขาโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า... หน้าของเขาอยู่ใกล้ฉันมากๆ และมากพอที่จะทำให้หน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาได้เลยทีเดียว

“ตอบแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องเขินขนาดนี้เลยนี่นา เฮ้อ... ไม่ถามก็ได้ ไว้ฮารุพร้อมค่อยบอกผมก็ได้นะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

เขาทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจ และใช้มือตบไหล่ฉันเบาๆ ราวกับว่าฉันแหละเขานั้นสนิทกันมานาน นี่เขาต้องการจะปั่นหัวฉันเล่นใช่ไหมเนี่ย

“โอ๊ะ นั่นผู้หญิงคนที่นั่งกับรุ่นพี่ที่โรงอาหารนี่นา” OoO

“เธอชื่อแชวอน เป็นดาวของม.ปลายปี 2 เธอสวยใช่ไหมล่ะ ส่วนข้างๆเธอนั่นจองอึนกับเยจี พวกเธออยู่ห้อง 3 น่ะ”

ฉันตอบออกไปโดยที่สายตายังคงจ้องมองรุ่นพี่จากด้านบนสแตนด์เชียร์ ฉันคิดว่าฮีโระน่าจะรู้จักคนอื่นๆให้มากกว่านี้

“อ่อ ก็ดูน่ารักดีนะ ว่าแต่ฮารุไม่ชอบเธอเหรอ”

“ไม่นี่ ทำไมถึงคิดยังงั้นเหรอ”

ฉันนั่งเอามือเท้าคางและยังคงมองรุ่นพี่เล่นบาสต่อ

“ก็ตอนที่อยู่ห้องอาหารผมเห็นฮารุมองไปที่แชวอนเหมือนไม่พอใจด้วย ตอนที่อยู่กับรุ่นพี่น่ะ”

ฉันไม่คิดว่าจะมีคนมาแอบมองว่าฉันจะทำอะไรยังไงมาก่อน แต่เพราะเจอนายที่ชื่อฮีโระ ฉันว่าฉันคงต้องระวังตัวหน่อยแล้ว

“ไม่ตอบแฮะ แสดงว่าอาจจะจริง” =..=

“ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ” >O<//

เขาจ้องหน้าฉันอีกครั้งเหมือนคนที่พยายามจะจับผิด ฉันไม่อาจที่จะกลบเกลื่อนสีหน้าและสายตาของตัวเองจึงต้องลุกจากที่นั่ง แล้วเดินออกมาจากโรงยิมเพื่อไม่ให้ฮีโระจับไต๋ฉันได้

“อ้าว ไปไหนอ่ะฮารุ รอผมด้วย”

ฮีโระตะโกนเรียกชื่อฉัน ซึ่งนั่นทำให้รุ่นพี่ซึ่งเล่นบาสอยู่สังเกตเห็นพวกเรา แต่พอฉันหันกลับไปรุ่นพี่ก็ทำเหมือนว่าไม่เห็นฉันอยู่ตรงนี้เหมือนเคย ทุกครั้งที่บังเอิญเจอกัน รุ่นพี่มักจะทำเมินเฉยกับฉันตลอด

“มาด้วยกัน ก็ต้องกลับด้วยกันสิ เดินคนเดียวเหงาออก”

จู่ๆฮีโระก็โผล่มาข้างหน้าของฉัน ก่อนที่ฉันจะเดินออกจากประตูโรงยิม

“ยังงั้นเหรอ” = = จริงๆฉันเดินคนเดียวก็ไม่ได้เหงาอะไรมากมายหรอก พูดไม่ทันขาดคำ จู่ๆฮีโระก็คว้ามือของฉัน พลางฉุดให้ฉันวิ่งเหมือนกับเด็กๆที่วิ่งเล่นกันอย่างนั้นแหละ สุดท้ายฉันต้องกลับบ้านพร้อมกับฮีโระ ทั้งๆที่ใจจริงยังอยากจะนั่งดูรุ่นพี่ซ้อมบาสต่อ ถ้าไม่กลัวว่าฮีโระจะจับได้ก็คงไม่รีบกลับขนาดนี้

“นายจะปล่อยมือของฉันได้หรือยัง เราไม่ได้สนิทกับมากขนาดที่นายจะจับมือฉันได้หรอกนะ” -O-

ฉันต้องย้ำกับเขาอีกครั้ง เพราะดูเหมือนเขาจะทำสนิทกับฉันมากเกินไปแล้ว

“อ่อ เรื่องจับมือเหรอ ผมขอโทษก็ได้ แต่ผมยังไม่ปล่อยมือหรอกนะ จนกว่าฮารุจะเรียกชื่อผมถูก แล้วก็...เลิกเรียกผมเหมือนคนแปลกหน้าสักที”

อยู่ๆเขาก็พูดจรืงจังขึ้นมา และดูเหมือนว่าจะไม่ยอมปล่อยมือของฉันง่ายๆถ้าฉันไม่เรียกชื่อของเขา

“ก็ได้ ฮีโระจะปล่อยมือของฉันได้หรือยัง” -O-

“ดีมาก ฮารุเด็กดี ต้องเรียกชื่อผมแบบนี้แหละ เยี่ยมที่สุด” ^O^

“มือ”

“อ่อ โทษที ฮะๆ ปล่อยก็ได้” ^^+

เขายิ้มออกมาและค่อยๆปล่อยมือของฉันออก


"ถึงตอนนี้ฮารุอาจจะยังรู้สึกว่าผมเป็นคนแปลกหน้า แต่ต่อไปพวกเราจะต้องกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันแน่นอน"

ฉันได้ยินเสียงฮีโระพูดอะไรฮึมฮัมอยู่คนเดียว พอฟังได้ใจความว่าเพื่อนสนิทอะไรสักอย่าง แต่ก่อนที่ฉันจะทันได้ถามว่าเขาพูดถึงเรืองอะไร ก็มีเสียงเพลงแว่วมาซะก่อน


“เพราะ... ว่าเธอคือคนพิเศษ อยากจะกุมมือเธอทุกวันไปแสนนาน

อยากอยู่เคียงข้างกันเพราะเธอนั้นสำคัญ I love you

เธอนั้น ทำให้ฉันยิ้มได้ทุกๆวัน Oh.. Love”

เสียงเพลงจาก ซอลฟา รุ่นน้อง ม.ปลาย ปี 1 ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ฉันรู้แค่ว่าเธอเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากๆและก็มักจะเห็นเธอชอบเล่นกีต้าร์และร้องเพลงอยู่ที่สนามหญ้าก่อนถึงทางประตูทางออกประจำ

“ว้าว เสียงดีจัง ฮารุรู้จักเธอไหม” *O*

ฮีโระทำท่าสนใจ เขายิ้มให้เธอและเธอก็ยิ้มหวานกลับมา จริงๆแล้วเธอก็เป็นเด็กน่ารักคนหนึ่งเลยทีเดียว ผมยาวที่ถูกดัดลอนตรงปลายผม หน้าตาที่ดูคล้ายตุ๊กตา และผิวที่ขาว ดูยังไงเธอก็เป็นคุณหนูผู้ดี

“จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้จักเธอหรอก ก็แค่เคยได้รู้คนอื่นเขาพูดถึงกันน่ะ”

“กำลังพูดถึงฉันอยู่หรือเปล่าคะ” ^-^

เสียงผู้หญิงคนหนึ่งแทรกเข้ามา ซอลฟาได้ยินที่ฉันกับฮีโระพูดกัน เราหันกลับไปมองเธอที่นั่งอยู่กับพื้นหญ้าในมือถือกีต้าร์สีฟ้าอยู่ ซอลฟาหันมายิ้มให้ฉันและฮีโระอีกครั้ง

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ รุ่นพี่ฮารุ รุ่นพี่ฮีโระ” ^w^

ฉันกับฮีโระเผลอยิ้มตอบให้กับรอยยิ้มหวานๆของเธอให้มาโดยไม่รู้ตัว นี่ทำให้ฉันแทบละลายได้เลยละเนี่ย ทั้งน่ารัก ยิ้มสวย และดูสง่าอีกด้วย ฉันกับฮีโระมองหน้ากับแบบงงๆแล้วเดินออกจากโรงเรียนมา

“เธอรู้จักชื่อของพวกเราด้วยแฮะ”

ฉันกับฮีโระพูดออกมาแทบจะพร้อมกันและมองหน้ากันอย่างงงๆ แต่แล้วสุดท้ายเราก็ต้องกลับบ้านด้วยกันจนได้สิน่า ฉันเดินไปอย่างเงียบๆโดยที่มีฮีโระเดินอยู่ข้างๆ เขาเงียบได้ไม่ถึงนาที เขาก็เปิดปากพูดต่ออีกจนได้

“ฮารุเนี่ย ไม่เหมือนคนอื่นๆเลยแฮะ ไม่ค่อยพูด แล้วก็ไม่ค่อยยิ้มเลย ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”

“ก็เพราะว่าตอนนี้ฉันอยู่กับคนแปลกหน้าน่ะสิ” ฉันได้แต่คิดในใจ

“เคยมีคนพูดไว้ว่า... ตอนที่เราเป็นเด็กมักจะยิ้มง่าย หัวเราะง่าย แต่ว่าพอโตขึ้น ทำไมถึงยิ้มยากจัง”

เขายังคงพูดต่อ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงไม่ค่อยร่าเริงเหมือนคนอื่นๆเขานะ แม่ก็บอกกับฉันแบบนี้เหมือนกัน “ลูกนะเป็นเด็กที่ร่าเริงมากเลยนะ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ลูกถึงไม่ยอมยิ้มบ้างเลยล่ะ” ฉันเองก็อยากจะยิ้มเหมือนกันแหละนะ เพียงแต่ว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันยิ้มออกมาได้ในตอนนี้

ฉันกับฮีโระเดินมาจนถึงหน้าบ้านของฉัน เขาหยุดแล้วเอื้อมมือมาดึงแก้มของฉัน

“ขอโทษนะ แต่ถ้าฮารุยิ้มได้แบบนี้ละก็ รู้มั้ยว่าฮารุจะน่ารักที่สุดในโลกไปเลยล่ะ”

เขาเอามือมาดึงแก้มของฉันและบอกให้ฉันยิ้ม และมันก็ทำให้ฉันเกิดอาการเหมือนร้อนๆที่หน้าอีกครั้ง ทำไมเขาถึงชอบทำเหมือนคนที่สนิทกันทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันได้เพียงวันเดียวด้วยนะ ฉันหลบสายตาของเขาและคิดว่าควรจะเข้าบ้านได้สักที

“พยายามเข้านะ” ^O^

“พยายาม...อะไร?” - -

ฉันหันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย

“ฮารุชอบเขาไม่ใช่เหรอ รุ่นพี่น่ะ” ^^+

“เอ๋...” O_O

น้ำเสียงของฮีโระเบาลง และพูดบางอย่างออกมา

“ถ้าชอบเขาก็ต้องแสดงออกให้เขารู้สิ”

จากนั้นเขาก็หันมาส่งยิ้มเจือนๆให้ฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนรอยยิ้มครั้งก่อนๆ เพราะมันดูเหมือนเขาจะฝืนยิ้มมากกว่า

“ฮีโระ หรือว่านายจะชอบ...”

“ชอบอะไรกัน ไม่หรอกน่า” -///-

ฮีโระปฎิเสธทันควันก่อนที่ฉันจะทันได้พูดจบ เอ่อ หน้านายเหมือนจะแดงเล็กน้อยนะ

“อย่าบอกว่า นายเองก็แอบชอบรุ่นพี่ชินอย่างนั้นเหรอ” =O=

= = (สีหน้าของฮีโระ) เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะระเบิดคำพูดที่เหมือนจะโมโหออกมา

“เพี้ยนหรือเปล่า กลับเข้าบ้านได้แล้ว” =[]=

ฮีโระเหมือนจะโกรธนิดๆกับคำพูดของฉัน เขาใช้มือผลักที่หลังของฉันเบาๆ หลังจากเขาไล่ฉันเข้าบ้านเสร็จ ก็เป็นเขาเองที่รีบวิ่งเข้าบ้านไปก่อนที่ฉันจะทันเปิดประตูซะอีก ก็นายนี่มันน่าสงสัยจริงๆนี่นา (ถามแบบนี้มันผิดด้วยเหรอ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย) +_+

และก่อนที่ฉันจะทันได้เข้าบ้าน สายฝนก็เริ่มโปรยลงมา เฮ้อ ทั้งๆที่วันนี้ฉันมีความสุขแท้ๆแต่ว่าวันนี้ทำไมท้องฟ้าถึงเหงาได้นะ




The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ


>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 3 เพื่อนสนิท?

ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางวัน เพื่อนในห้องต่างก็ให้ความสนใจฮีโระเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องหน้าตา ความสูง ความ...

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


오늘 같은 밤이 오면 외로워지는 걸
 โอ นึล คา ทึน พา มี โอ มยอน เว โร วอ จี นึน กอล
어제 같은 추억들에 단잠이 깨는 걸
 ออ เจ คา ทึน ชู ออ ดือ เร ทัน จา มี แก นึน คอล
아름답던 지난날의 네 모습이
 อา รึม ดับ ตอน ชี นัน นา เร นี โม ซือ บี
너무도 그립기만 해
 นอ มู โด คือ ริบ กี มัน แฮ
다툰 추억까지
 ทา ทุน ชู ออก กา จี


사랑했는데 좋았었는데
 ซา รัง แฮท นึน เด โช อา ซอท นึน เด
뜨거웠던 우리였는데
 ตือ กอ วอท ตอน อู รี ยอท นึน เด

เนื้อเพลง No One Like You (다른 누구도 대신 못할 너) : XIA Junsu

오늘 같은 밤이 오면 외로워지는 걸  โอ นึล คา ทึน พา มี โอ มยอน เว โร วอ จี นึน กอล 어제 같은 추억들에 단잠이 깨는 걸  ออ เจ คา ทึน ชู ออ ดือ เร ทัน จา มี แก นึน คอ...


* Baby I love you, Yes I do 거짓말처럼 나
그대 때문에 울고 웃죠
Just wanna be with you 내 맘 들리나요
아픔 속에 핀 my only love

Love is you 내 맘 가득
별처럼 so bright
말론 설명 할 수 없죠
운명 같은 love

So I pray 내 사랑이
전해지기를
달콤한 꿈속의 romance
그대 all I want
나를 감싸는
그대의 숨결에
소리 없는 바람처럼
사랑은 in my heart

* Baby I love you, Yes I do 거짓말처럼 나
그대 때문에 울고 웃죠
Just wanna be with you 내 맘 들리나요
아픔 속에 핀 my only love


알겠죠 내 맘 someday
난 기다려요
애써 비켜 돌아서도
그대뿐인 love

나를 감싸는
그대의 숨결에
소리 없는 바람처럼
사랑은 in my heart

* Baby I love you, Yes I do 거짓말처럼 나
그대 때문에 울고 웃죠
Just wanna be with you 내 맘 들리나요
아픔 속에 핀 my only love
I need- your love-
내 눈물만큼-
My love- My heart-
You are the one for me-

** Baby I’m so in love with you 어제보다 오늘
커져만 가는 사랑이죠
Tell me that you love me 그대 두 눈빛이
말하고 있는 그 사랑을-


เนื้อเพลง Ready for love : MEGANLEE Ost. You are my destiny
Ready for love Thai Lyric : MEGANLEE Ost. You are my destiny

Korean Lyric : Music.Daum
Thai Lyric : Sunfany

เนื้อเพลง Ready for love : MEGANLEE เพลงประกอบซีรี่ส์ You are my destiny

* Baby I love you, Yes I do 거짓말처럼 나 그대 때문에 울고 웃죠 Just wanna be with you 내 맘 들리나요 아픔 속에 핀 my only love Love is you 내 맘 가득 별처럼 so bri...

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ต้นสน เส้นถนน The secret of memory : ตอนที่ 2 ความบังเอิญ
ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto


“ฮ๊า วันนี้อากาศดีจังเลย สวัสดีครับแสงแดด” ^O^

ชายข้างบ้านผู้มาใหม่กำลังกางแขนยาวๆทั้งสองข้างของเขาออก ดูเหมือนว่าเขาจะชอบอากาศยามเช้าหลังฝนตกเอามากๆ ฉันเองก็ชอบตอนเช้าๆของวันธรรมดาแบบนี้เหมือนกัน เพราะอะไรนะเหรอ? ก็เพราะว่าฉันจะได้เจอรุ่นพี่ที่โรงเรียนทั้งวันเลยยังไงล่ะ ^_^

“ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนซองอึน ถ้าไม่รบกวนมากเกินไป ผมขอเดินไปโรงเรียนด้วยคนได้ไหม”

เด็กผู้ชายคุกกี้พูดออกมาทั้งๆเขายังคงเงยหน้ายิ้มให้กับท้องฟ้าพร้อมแขนที่กางออกมาแบบนั้น

“เอ่อ... อือ... ก็ได้” - -

“ขอบคุณนะ” ^_^

เขาหันมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เบ่งบาน ฉันมองรอยยิ้มนั้นจนเกือบลืมไปว่าฉันเองก็ต้องขอบคุณเขาเรื่องคุกกี้ที่เขาให้มาเมื่อวานไปแล้ว

“เอ่อ เรื่องคุกกี้ ขอบคุณนะ”

“หืม? อ่อ ไม่เป็นไร”

เขาหันมามองฉัน และก็ยังคงมองหน้าฉันเหมือนจะพิจารณาอะไรบางอย่าง จริงๆฉันเองก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายหรอกนะ แต่หมอนี่ก็ยังคงจ้องจนทำให้ฉันรู้สึกร้อนๆที่หน้าขึ้นมาซะแล้ว

“มี.. อะไรอยู่ที่หน้าฉันเหรอ” o_O?


“อ้อ... เอ่อ... คือว่า... เปล่าหรอก =///= แค่คิดว่าเธอดูจะหน้าคุ้นๆนะ ไม่คิดว่าพวกเราจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนเหรอ?” ^o^


เขาพูดออกมาพลางเขิน และยังส่งรอยยิ้มที่สดใสนั่นมาให้ฉันด้วย ทำไมจู่ใจฉันต้องเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะด้วยนะ

O.O ฉันค่อยๆมองเขาอย่างพิจารณา พวกเราจะเคยรู้จักกันได้ยังไง ในเมื่อ... ฉันแทบจะไม่เคยคุยกับผู้ชายมาก่อนด้วยซ้ำ

ผมสีน้ำตาลอ่อน ผิวที่ขาวราวกับไม่เคยโดนแดดมาก่อน ความสูงน่าจะประมาณ 180 เซน หน้าตาที่ดูเท่ห์ กับรอยยิ้มที่มากับฟันสเน่ห์ ความเพอร์เฟคของเขาที่ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็น นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาทำตัวธรรมดาละก็ ฉันคงคิดว่าเขาเป็นดาราหรือไม่ก็ เทพบุตรไปแล้ว มีคนแบบนี้ในชีวิตจริงด้วยเหรอ นี่เขาคือคนที่ใส่เสื้อกันฝนสีแดงที่มาหาฉันเมื่อคืนจริงๆเหนอเนี่ย

“เอ่อ... เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมจ้องผมไม่กระพริบตาแบบนี้ละ” o_o


เขาเอามือเกาหัวตัวเองเบาๆ ทำให้ฉันมองไปเห็นมือที่ยาวเรียว กับสร้อยข้อมือสีเงิน

“เฮ้... นี่... เป็นอะไรหรือเปล่า” o_O?


“ห๊ะ เอ่อ อ้อ ปะ เปล่า ไม่มีอะไร ก็แค่... จะบอกว่าเราคงไม่เคยเจอกันหรอก” #O#


“ยังงั้นเหรอ สงสัยจะจำผิดคนสินะ” (_ _)


ชายที่ชื่อ “ฮีโระ” เดินมาอยู่ข้างๆฉันพร้อมกันถอนหายใจ

นี่ฉันเป็นอะไรเนี่ย ทำไมถึงได้เผลอจ้องเขาซะนานขนาดนั้น แล้วยิ่งเราต้องเดินข้างกันแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆเข้าไปใหญ่

“เธอเดินไปโรงเรียนแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ”

“อื้ม”

“ทำไมเธอไม่ปั่นจักรยานล่ะ ผมเห็นที่บ้านเธอมีจักรยานด้วยนี่นา” ^^?

“ฉันก็แค่... กลัวน่ะ” ฉันได้แต่ตอบเลี่ยงๆไปแบบนั้น ทั้งๆที่ความจริงแล้วมันเคยเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับฉันและจักรยานมาก่อน แต่มันเป็นเรื่องที่ฉันจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก

“อ่อ งั้นไว้ผมเป็นคนปั่นให้ก็ได้ ให้เธอซ้อนท้ายผมก็แล้วกันนะ” ^O^


เขาหันมาพูดกับฉันพร้อมกับท่าทางร่าเริง ดูเหมือนเขาจะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่ายมากๆ การได้เดินอยู่ข้างเขาทำให้ฉันรู้สึกคิดถึงรุ่นพี่ขึ้นมาหน่อยๆ เขามีความสูงที่น่าจะใกล้เคียงกับรุ่นพี่ ผิวที่ขาวซีดของพวกเขาก็คล้ายกัน แค่คิดว่าเขาเป็นรุ่นพี่ ใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว

“ที่โรงเรียนคงมีเรื่องสนุกเยอะแยะเลยสินะ” ^^


จู่ๆ เขาก็เปิดปากพูดในขณะที่เดินไปด้วยกัน เขาเป็นคนที่มีร้อยยิ้มเปื้อนหน้าตลอดเวลาสินะ เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้เจอเขา ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนช่างยิ้มไปซะแล้ว แม้ว่าฉันจะรู้สึกแปลกๆที่อยู่ดีๆก็มีคนมาเดินไปโรงเรียนพร้อมกัน แต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ฉันอึดอัด ตรงกันข้ามเขาดูเป็นมิตรและฉันคิดว่า... มีบางอย่างทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ

“ก็คงอย่างนั้นแหละมั้ง” ^^ ฉันพูดพลางอมยิ้มออกมา แค่เพียงคิดว่าจะได้เจอกับรุ่นพี่ก็มีความสุขแล้ว



ที่โรงเรียน... รุ่นพี่ประธานนักเรียน มักจะมายืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนทุกเช้าคอยต้อนรับน้องๆในตอนเช้าก่อนการเข้าแถวทุกวัน เพราะอย่างนี้แหละ ฉันถึงได้อยากมาโรงเรียน และวันนี้ก็เหมือนกัน ฉันได้เจอรุ่นพี่ที่หน้าโรงเรียนอีกวัน ได้รับคำทักทายที่แม้จะไม่ได้เจาะจงกับใคร แต่ฉันก็มีความสุขมากๆ

“สวัสดีตอนเช้าครับน้องๆ ขอให้สนุกกับการเรียนในวันที่สดใสครับ” ^^

“สวัสดีค่ะรุ่นพี่” ^^

ทุกคนมักจะทักทายกันแบบนี้และข้างๆกายรุ่นพี่ ก็มักจะมีคณะกรรมการสาวๆอยู่ใกล้เสมอ นี่อาจจะเป็นอย่างเดียวที่ทำให้ฉันไม่มีความสุขเอาซะเลย = =

“โอ๊ะ สวัสดีครับรุ่นพี่ ผมชื่อฮีโระอยู่ม.ปลายปีสองเพิ่งย้ายมาใหม่ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” ^O^

นายฮีโระรีบแนะนำตัวเองให้กับรุ่นพี่ได้รู้จัก อิจฉาจัง T^T ถ้าฉันมีความกล้าอย่างเขาสักนิด รุ่นพี่ก็อาจจะพอรู้จักชื่อของฉันบ้าง

“หวัดดีฮีโระ เธอเป็นนักเรียนใหม่นี่เอง ไม่น่าละไม่เคยเห็นเธอมาก่อน ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนซองอึนนะ ผมชื่อ ชินกิ เป็นประธานนักเรียนของที่นี่” ^^

“ผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของที่นี่ครับ รุ่นพี่ชิน อ้อ... นี่เพื่อนผมครับ เธอชื่อ ฮารุ รุ่นพี่รู้จักเธอหรือยังครับ”

จู่ นายฮีโระก็โผล่เข้ามาจับไหล่ของฉันและถามรุ่นพี่ไปแบบนี้ หมอนี่รู้จักชื่อของฉันได้ยังไงกัน ฉันจำได้ว่าตลอดทางที่เดินมาด้วยกัน เขาไม่ได้ถามและฉันเองก็ยังไม่ได้บอกชื่อของตัวเองเลยนะ o.O

“อ่อ ยินดีที่ได้รู้จัก” รุ่นพี่พูดทักทายกับฉันอย่างสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่สองที่ฉันได้คุยกับรุ่นพี่ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ได้หนึ่งปี แต่ใครจะรู้ว่าฉันไม่เคยได้รับรอยยิ้มจากรุ่นพี่เหมือนคนอื่นๆเลย ไม่รู้ว่าเพราะฉันคิดมากไป หรือรุ่นพี่เจาะจงที่จะไม่ยิ้มให้ฉันกันนะ

“เอ่อ ค่ะ” ^^-

ฉันตอบรุ่นพี่ไปโดยที่ไม่ได้สบตา แล้วจึงรีบเดินตามนายฮีโระไป

“นายรู้จักชื่อของฉันได้ยังไงกัน” -O-??

“โอ๊ะ สรุปว่าเธอชื่อฮารุจริงๆนะเหรอ ผมก็แค่แกล้งเรียกชื่อโหล่ๆออกไป คิดว่าจะแกล้งสักหน่อย กลายเป็นว่าเธอชื่อฮารุจริงๆเหรอเนี่ย ถ้างั้นยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะฮารุ” (^O^)/


เขาพูดพลางยื่นมือออกมาและจับมือของฉันไปเช็คแฮนด์กับเขา แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะบังเอิญได้มากขนาดนี้นะ

“เฮ้ อย่ามองผมเหมือนเป็นฆาตรกรโรคจิตอย่างนั้นสิ ก็แค่ชื่อเอง ชื่อฮารุก็โหลจะตายไป ผมเคยเจอคนชื่อนี้ตั้งหลายคน”

“แต่ที่นี่มีฉันแค่คนเดียวเองนะที่ชือ ฮารุ น่ะ” =[]=

“ยึ๋ย!!!” +_+


ฉันพูดออกด้วยความเหนื่อยหน่ายกับท่าทีที่ทำยังไงก็ดูเหมือนจะไม่ยอมบอกความจริงของเขา หรือบางทีฉันควรจะอยู่ห่างๆเขาไว้สักนิดก็ดีนะ เพราะเขาอาจจะเป็นพวกโรคจิตจริงๆก็ได้

“โอ๊ะ โอ ไม่น่าเลยแฮะ แต่ยังไงก็ช่างเถอะนะ ตอนนี้เลิกมองผมแปลกๆแบบนั้นสักทีเถอะ อ่อ แล้วก็ผมชื่อ “ฮีโระ”นะ จำได้ไหม ฮีโระไง” ^^”

เขาพูดพลางชี้นิ้วไปที่ป้ายชื่อติดหน้าอก

“รู้แล้วน่า ฉันอ่านออก” -o-


“งั้นไหนลองเรียกผมว่า ฮี-โระ สิ อ่ะ เรียกเลยๆ” ^O^

เขาพยายามพูดช้าๆและให้ฉันพูดตามราวกับว่าฉันเป็นคนสมองไม่ดีและอาจจะพูดคำว่า ฮีโระ ไม่เป็นยังไงยังงั้น ฉันไม่สนใจกับการเล่นเป็นเด็กๆของเขาแล้วรีบเดินมุ่งตรงไปที่ห้องเรียน แต่แล้ว..

“ถ้าไม่เรียกว่า ฮีโระ ผมไม่ให้ผ่านไปง่ายๆหรอกนะ” ^^

นายที่ชื่อฮีโระยังคงเดินมาขวางทางและไม่ยอมให้ฉันเข้าห้องอีก สุดท้ายฉันก็เลยจำใจต้อง..

“ฮี-โระ ฮี-โระ ฮี-โระ พอใจรึยัง” =[]=

“โอ้ว... ยอดเยี่ยมมาก ชื่อนี้ผมอยากให้ฮารุจำไว้แม่นๆ คราวหน้าอย่ามองผมเหมือนเป็นพวกโรคจิตอีก และต้องเรียกผมว่า ฮีโระ แบบนี้ด้วยนะ น่ารักจัง” >O<

เขายิ้มออกมาอย่างร่าเริงอีกแล้ว แถมยังเอามือมาลูบหัวของฉันเหมือนฉันเป็นเด็กๆด้วย แม้ว่าความสูงของฉันจะสูงถึง 170 แล้ว แต่ก็คงยังดูสูงน้อยกว่าเขาอยู่ดีสินะ

เมื่อฉันเดินมาถึงห้อง และก็แปลกใจอย่างมากที่ “ฮีโระ” (เขาให้ฉันเรียกแบบนั้นอ่ะนะ) ก็ยังคงตามฉันมาจนถึงหน้าประตูห้องเรียนของม.ปลายปีสอง ห้องหนึ่ง = = นี่เขาคงไม่ได้เป็นโรคจิตที่คอยตามฉันจริงๆใช่ไหมเนี่ย?

( = =) ฉันหันไปมองเขา (^^ ) และเขาก็หันมามองหน้าฉันเหมือนกัน

“นายตามฉันมาทำไม?” =[]=

“ผมชื่อฮีโระ ไม่ได้ชื่อนายนะ” ^^”

“ฮีโระ นายตามฉันมาทำไม” = =” นี่ฉันต้องทำตามที่เขาบอกทุกเรื่องเลยหรือเปล่าเนี่ย ฉันเป็นหุ่นยนต์หรือไงนะ

“ผมไม่ได้ตามฮารุมานะ แต่ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นห้องเรียนใหม่ของผมนะ” เขาหยิบกระดาษที่ฉีกมาจากสมุดที่ไหนสักแห่งยื่นให้ฉันดู

“ดูจากป้ายห้องแล้วก็น่าจะใช่ เพราะวันที่ย้ายมา อาจารย์บอกว่า ผมจะได้อยู่ชั้นนี้ ห้องนี้ และโต๊ะนี้”

..............................

ฮีโระ

ม.ปลาย ปีสอง ห้องหนึ่ง

ตึก 26 ชั้น 2

โต๊ะที่ 18

โรงเรียนซองอึน

...............................

“นาย อยู่ห้องนี้ ชั้นนี้ และโต๊ะข้างฉัน จริงๆเหรอ นี่มัน.. จะบังเอิญมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย” O[]O

ฉันหันไปมองฮีโระที่ยืนอยู่ข้างๆ เขายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ฉันเห็นมาพักหนึ่งและเริ่มชินกับมันซะแล้ว

“งั้นก็แสดงว่าผมได้อยู่ห้องเดียวกับฮารุ แถมมีฮารุเป็นเพื่อนคนแรกของผมด้วยสินะ ดีจัง” ^^

ฮีโระยิ้มออกมาด้วยท่าทางดีใจอีกครั้ง พร้อมกับรีบวิ่งไปหาโต๊ะหมายเลข 18

“ไม่ใช่แค่บ้านใกล้กัน พวกเรายังเรียนห้องเดียวกัน แถมโต๊ะก็ใกล้กันด้วย นี่มันเกินกว่าจะบังเอิญเลยนะ” = = ฉันบ่นพึมพำแล้วเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง

เพื่อนในห้องเริ่มทยอยมากันแล้ว มุนอาเพื่อนรักของฉันก็เกือบมาสาย เธอรีบวิ่งเข้ามาในห้องก่อนที่อาจารย์จะมาและตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ด้วยว่าห้องของเรามีนักเรียนคนใหม่

“ทุกคนมาพร้อมกันแล้วนะ มุนอาวันนี้เธอเกือบมาสายอีกแล้วนะ” อาจารย์เตือนมุนอาและดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว

“ขอโทษค่า” มุนอาพูดเสียงอ่อยๆ และหันมาทำหน้าตาทะเล้นกับฉัน แต่แล้วฉันคิดว่าเธอคงสะดุดกับใบหน้าของคนบางคนจนได้ *O*

“นั่น... ใครกัน???”

( ^_^ )<----- ( :^^ )------(*O* )

หน้าต่าง โต๊ะฮีโระ โต๊ะฉัน โต๊ะมุนอา

ฉันได้แต่ยิ้มน้อยๆให้กับมุนอา ก่อนที่ฉันจะได้ตอบคำถามเธอ ฉันคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะมีคนตอบเธอแทนฉันแล้ว

“เดี๋ยวครูจะตอบเธอเองมุนอา เงียบเดี๋ยวนี้!!!” .\/.


อาจารย์ดุมุนอาเป็นรอบที่สอง แต่ฉันมองตาของมุนอาที่เปล่งประกายแล้วรู้สึกได้ เธออยากจะบอกฉันเต็มทีว่าเขาหล่อมากสินะ

“วันนี้อาจารย์จะแนะนำนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะย้ายมาอยู่กับเราหนึ่งภาคเรียนให้ทุกคนรู้จัก ออกมาแนะนำตัวกับเพื่อนๆหน้าชั้นสิ”

ฮีโระลุกเดินออกจากโต๊ะไปยังหน้าชั้น พร้อมกับสายตาของนักเรียนหญิงอีกหลายคู่ที่เอาแต่จ้องเขาแทบไม่กระพริบ ถ้าไม่มีรัศมีของรุ่นพี่มาบดบัง ฉันคิดว่าฉันก็อาจจะเป็นอีกคนที่มองเขาด้วยสายตาแบบนั้นก็ได้ แต่ถึงยังไงก็บอกได้เต็มคำว่าเขาหล่อและดูดีมากจริงๆ

“สวัสดีครับ ผมชื่อฮีโระ วันเกิดของผมคือ 7-11 (Seven-Eleven) อายุ 17 ปี สมาชิกใหม่ของม.ปลายปี 2 ห้อง 1 เราจะอยู่ด้วยกันไปอีก 4 เดือน ผมจะใช้ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”^o^

แปะ แปะ เสียงเพื่อนปรบมือและทักทายต้อนรับสมาชิกใหม่ผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม “7-11 (Seven-Eleven)” ยังงั้นเหรอ คุ้นจังเลยนะ

“นี่ๆฮารุ นักเรียนที่มาใหม่น่ะ หล่ออย่างกับเทพบุตรยังไงยังงั้นเลยเนอะ แถมเป็นคนที่มีเสน่ห์มากๆ โดยเฉพาะรอยยิ้มของเขาน่ะ น่ารักที่สุด” >///<

ตามคาด มุนอาคงตกหลุมรักฮีโระอย่างเต็มเปาดูจากสายตาที่ส่องประกายของเธอแล้ว ฉันว่าเธอกำลังจะมีความรักอีกครั้งแน่เลย


The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ

>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 2 ความบังเอิญ

ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto “ฮ๊า วันนี้อากาศดีจังเลย สวัสดีครับแสงแดด” ^O^ ชายข้างบ้านผู้มาใหม่กำลังกางแขนยาวๆทั้งสองข้างของเขาออก...

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559




쫄깃쫄깃
 โจล กิท โจล กิท
쫄깃쫄깃
 โจล กิท โจล กิท
내 심장이 쫄깃
 แน ชิม จัง งี โจล กิน
쫄깃쫄깃
  โจล กิท โจล กิท
쫄깃쫄깃
 โจล กิท โจล กิท
니 눈치만 힐끗
นี นุน ชี มัน ฮิล กึท

เนื้อเพลง Chewy (쫄깃쫄깃) : D.Holic (디홀릭)

쫄깃쫄깃  โจล กิท โจล กิท 쫄깃쫄깃  โจล กิท โจล กิท 내 심장이 쫄깃  แน ชิม จัง งี โจล กิน 쫄깃쫄깃   โจล กิท โจล กิท 쫄깃쫄깃  โจล กิท โจล กิท 니 ...


지루하고 따분해 건조한 내 삶이
ชี รุ ฮา โก ตา บู แน คอน โจ ฮัน แน ซัล มี
언젠가부터 촉촉하게 젖어 들었지
 ออน เจน กา บู ทอ ชก โช คา เก ชอ จอ ดือ รอท จี
그동안 지나친 수많은 만남이
 คือ ดง อัน ชี นา ชิน ซู มา นึน มัน นา มี
어쩌면 너에게 날 데려다준 것 같아
 ออ จอ มยอน นอ เอ เก นัล เด รยอ ดา จุน กอท กา ทา

You’re so beautiful I can’t believe

모르겠어 말로는 설명이 잘 안돼 Yeah
 โม รือ เก ซอ มัล โร นึน ซอล มยอ งี จัล อัน ดแว Yeah

เนื้อเพลง Found You : Beast (Junhyung Solo)

지루하고 따분해 건조한 내 삶이 ชี รุ ฮา โก ตา บู แน คอน โจ ฮัน แน ซัล มี 언젠가부터 촉촉하게 젖어 들었지  ออน เจน กา บู ทอ ชก โช คา เก ชอ จอ ดือ รอท จี 그동안 지나...

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559







단단했던 매듭이 결국엔
 ทัน ดัน แฮท ตอน แม ดือ บี กยอล กู เกน
풀려버리고 마네요
 พุล รยอ บอ รี โก มา เน โย
설마 했던 이별이 가까이
 ซอล มา แฮท ตอน อี บยอ รี กา กา อี
다가와 버렸네요 정말로
 ดา กา วา บอ รยอท เน โย ชอง มัล โร

아마도 지금 이 순간이
  อา มา โด ชี กึม อี ซุน กา นี
가장 힘든 순간이에요 내겐
 คา จัง ฮิม ดึน ซุน กา นี เอ โย แย เกน

เนื้อเพลง Ribbon (리본) : BEAST (비스트)

คลิกที่นี่เพื่อฟังเพลง 단단했던 매듭이 결국엔  ทัน ดัน แฮท ตอน แม ดือ บี กยอล กู เกน 풀려버리고 마네요  พุล รยอ บอ รี โก มา เน โย 설마 했던 이별이 가까이 ...

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

The secret of memory : ตอนที่ 1 เสื้อกันฝนสีแดง
ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto

วันที่สายฝน...โปรยปรายลงมาริมหน้าต่าง ผ้าม่านสีครีมอ่อนพลิ้วไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อยๆ สิ่งต่างๆบนโลกใบนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง จากฤดูหนึ่งสู่อีกฤดูหนึ่ง


มือของฉันกำลังเอื้อมออกไปสัมผัสกับสายฝน สำหรับฉันแล้ว...ความรู้สึกบางอย่างบอกฉันว่า ท้องฟ้าแห่งนี้เข้าใจฉัน วันไหนที่ฉันอ่อนล้า ท้องฟ้าจะคอยส่องแสงแดดอุ่นๆมาให้เสมอ วันไหนที่ฉันเศร้า ฝนก็มักจะตกลงมาเหมือนบอกให้ฉันรู้ว่ายังมีคนที่เศร้าเป็นเพื่อนฉันเช่นกัน และในวันนี้ท้องฟ้าได้มอบสายฝนแห่งความชุ่มฉ่ำมาชะล้างให้จิตใจของฉันสงบลงได้อย่างเยือกเย็น


ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสินะที่ฉันได้รู้จักกับคนๆนั้น และก็เป็นอีกหนึ่งปีเช่นกันที่ฉันต้องผิดหวังกับความรู้สึกที่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกมาได้ ภาพของคนๆนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของฉันทุกวันๆและความเจ็บปวดก็เพิ่มขึ้นด้วย


“รุ่นพี่น่ะไม่บอกก็รู้ว่ายังไงก็ต้องมีแฟนแล้ว ทั้งหล่อ ทั้งเก่งขนาดนั้น” >///<


“บางทีเขาอาจะไม่เลือกใครสักคน เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจก็ได้นะ” -O-


“ผู้หญิงทั่วๆไปเขาคงไม่มองหรอก ได้ข่าวว่าที่บ้านรุ่นพี่ออกจะมีฐานะ ทั้งพ่อและแม่ก็เป็นถึงหมอกับพยาบาล ไม่บอกก็รู้ว่ายังไงก็ต้องคู่กับคนที่เหมาะสมกว่าพวกเรา” T^T


“แต่ฉันก็ยังชอบรุ่นพี่นะ แม้ว่าฉันจะดูไม่ค่อยเหมาะสมกับเขาก็ตาม” ถ้าหากว่าฉันมีความกล้าสักนิด ฉันคงจะพูดอะไรทำนองนั้นออกไปบ้าง ไม่ใช่แค่คิดในใจเหมือนอย่างตอนนี้


บรรดาเพื่อนๆ ม.ปลายปีสองของฉัน มักจะพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เสมอๆ โดยที่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ฉันก็เป็นอีกหนึ่งคนในนั้นที่...แอบชอบเขา คนที่ฉันไม่อาจจะเอื้อมได้ถึง หลายคนอาจจะชอบรุ่นพี่ตรงที่เขาหล่อและมีความสามารถแต่สำหรับฉันเหตุผลข้อแรกและทุกๆเหตุผลที่ตามมาของฉันคือ เขามีบางอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นใจ เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ยามเช้าของฤดูหนาว >///<



แต่การแอบชอบใครสักคน แม้หลายคนจะมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับหัวใจของเราเหมือนกันนะ ฉันเองก็คงเป็นได้แค่คนๆหนึ่งที่ชอบรุ่นพี่แต่ไม่สามารถที่จะแสดงความรู้สึกแบบนั้นออกมาได้ เพราะฉันขี้ขลาดเกินไป ฉันกลัวกับการความผิดหวังและความเสียใจที่ฉันอาจจะคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ฉันจะทำได้ ก็คงทำได้แค่เฝ้ามองดูรุ่นพี่อย่างห่างๆ ยังไงซะถ้าหากต้องเจ็บปวดฉันก็ขอเจ็บปวดซะตั้งแต่ตอนนี้เลยจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหนึ่งปีแล้วและฉันก็ไม่เคยได้รับรอยยิ้มจากรุ่นพี่เหมือนคนอื่นๆก็ตาม แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับรุ่นพี่ ขอบคุณที่มาอยู่ใกล้ๆฉันทำให้ทุกๆวันของฉันเป็นวันที่งดงามเสมอ


ฟิ๊ววว... ฟิ๊ววว... สายลมพัดเอาหยดน้ำจากสายฝนที่ตกปรอยๆลงมาใกล้หน้าต่างขึ้นเรื่อยๆ ฉันจำใจต้องปิดหน้าต่างลงและมองสายฝนจากในห้องผ่านกระจกใสบานนั้น จู่ๆ... O.O


เงาของใครบางคนที่สวมชุดกันฝนสีแดงก็เดินเข้ามาใกล้หน้าต่างห้องของฉัน... เขาเป็นใครนะ... ฉันมองเขาอย่างไม่วางตา เขาคนนั้นกำลังเดินใกล้เข้ามาอย่างช้าๆและก่อนที่เขาจะเดินมาถึงหน้าต่างห้องของฉัน


ควับ.... ฉันคว้าผ่านม่านมาปิดหน้าต่างอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงปรากฏเงาของใครบางคนอยู่ข้างนอกอย่างชัดเจน


ก๊อก.. ก๊อก.. เสียงเคาะกระจกที่ดังมาจากข้างนอก นั่นยิ่งทำให้ฉันเกิดอาการสั่นเพราะความกลัวมากยิ่งขึ้น ฉันควรทำยังไงดีนะ เขาเป็นใคร และมาที่นี่ทำไมกัน


ด้วยความกลัวที่ปนไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มี ฉันตัดสินใจแง้มผ้าม่านออกเล็กน้อยเพื่อส่องดูว่า..เขาเป็นใคร O.< และแล้วภาพที่ฉันเห็นคือ ผู้ชายคนหนึ่งที่อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน เขาส่งยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่นในขณะที่ตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ในมือของเขาถือกล่องกระปุกใสที่เหมือนจะใส่อะไรบางอย่างไว้ในนั้นและยื่นมาให้ฉัน ฉันปิดผ้าม่านลงอีกครั้งและครุ่นคิดอย่างจริงจัง ฉันควรเปิดหน้าต่างให้เขาดีไหม = =? หรือว่าไม่ควรจะสนใจ =..= แต่ข้างนอกคงจะหนาวมากแน่ๆ ในขณะที่ฉันคิดเสียงเคาะหน้าต่างๆก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ก๊อก.. ก๊อก.. ก๊อก.. ก๊อก.. จนฉันต้องตัดสินใจเปิดม่านและเลื่อนหน้าต่างออกเพียงเล็กน้อย เสียงของเขาลอดผ่านหน้าต่างมาได้ พอได้ยินปนกับเสียงสายฝน


“หวัดดีครับ ผมชื่อ “ฮีโระ” เป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของคุณ และนี่เป็นของฝากเล็กๆน้อยที่ผมทำมาให้ หวังว่าเราจะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันได้นะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ยึ๋ยย... หนาวจัง” >w<


“เอ๋...” O.O


เขาพูดพลางยิ้มและยื่นกระปุกมาให้ฉัน ก่อนที่จะพาตัวสั่นเทาของเขาวิ่งกลับไปพร้อมกับสายฝนที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด


“อะไรของเขากันเนี่ย” ฉันจ้องมองเงาของคนแปลกๆคนนั้นที่กำลังวิ่งเหยาะกลับเข้าบ้านไป แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยได้สนใครสักเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้ข่าวว่าคุณลุงข้างบ้านได้เปิดบ้านหลังนั้นให้กับคนอื่นเช่าไปแล้ว บ้านของเราติดกันและห้องของฉันก็สามารถมองเห็นบ้านของคุณลุงได้ชัดเจน มีเพียงรั้วสีขาวเล็กๆที่กันระหว่างบ้านสองหลังของเรา ไม่น่าแปลกใจที่คนๆนั้นจะวิ่งลัดสวนดอกไม้ที่คุณลุงหวงแหนมากๆมาได้ แต่ถ้าคุณลุงรู้เข้าละก็ เขาจะต้องโดนดุแน่ๆ


ฉันปิดหน้าต่างลง ในมือของฉันมีกระปุกที่ข้างในมีคุกกี้รูปหน้าหมียิ้มอยู่ในนั้น


“ของอย่างนี้ใครจะกินลงล่ะ น่ารักซะขนาดนี้ ว่าแต่... ทำไมเขาต้องของแบบนี้มาให้ฉันด้วยนะ”


ฉันวางกระปุกไว้ที่บนหัวเตียว แม้ว่าจะสงสัยในความแปลกของชายแปลกหน้าอยู่บ้าง แต่ยังไงซะพวกเราก็คงจะได้เจอกันอีกแน่ๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้เองนี่นะ ว่าแล้วก็อดคิดถึงรุ่นพี่ไม่ได้


“อยากให้บ้านของรุ่นพี่อยู่ใกล้ๆกันแบบนี้บ้างจัง” ^^


ฉันหลับตาลง และพยายามนึกถึงใบหน้าของรุ่นพี่ที่กำลังยิ้ม อย่างน้อยถ้าได้เจอกับรุ่นพี่ในฝันบ้างก็ยังดี


The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ

>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 1 เสื้อกันฝนสีแดง

ภาพประกอบโดย : MeeFreePhoto วันที่สายฝน...โปรยปรายลงมาริมหน้าต่าง ผ้าม่านสีครีมอ่อนพลิ้วไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อยๆ สิ่งต่างๆบนโลกใ...

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559



ฉัน "ฮารุ" นักเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนซองอึน
จริงๆแล้วฉันกำลังตกหลุมรักรุ่นพี่ "ชินกิ" ประธานนักเรียนอย่างลับๆค่ะ >///<

แต่ว่า... ความรักของฉันคงไม่สมหวังง่ายๆหรอกนะ T T
เพราะฉันน่ะ แค่จะสบตากับรุ่นพี่ก็ยังไม่กล้าเลย

แต่แล้ว... สวรรค์ก็ไม่ได้ปล่อยให้ความฝันของฉันหลุดลอย
เมื่อจู่ๆก็มีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาที่โรงเรียนของเรา

เขาชื่อ "ฮีโระ" ดูท่าทางเป็นคนสดใสเอามากๆ
เขาทั้งหล่อ แสนดี และคอยช่วยเหลือฉันไปซะทุกอย่าง
จนฉันเริ่มจะสับสนตัวเองแล้วสิว่า... ฉันชอบใครกันแน่?

เรื่องราวความรักของฉันจะสมหวังไหม??
แล้วใครกันนะที่ใจของฉันเรียกร้องตลอดมา?
หาคำตอบได้ในไดอารี่เล่มนี้นะคะ "The secret of memory"



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ

---------------------------------------------------------------------

ติดตามอ่านตอนล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Dek-d.Com The secret of memory

The secret of memory : บทนำ

ฉัน "ฮารุ" นักเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนซองอึน จริงๆแล้วฉันกำลังตกหลุมรักรุ่นพี่ "ชินกิ" ประธานนักเรียนอย่างลับๆค่ะ >...


나를 기억하나요
 นา รึล คี ออก ฮา นา โย
나를 알아보나요
 นา รึล อา รา โพ นา โย
이렇게 또 마주하네요
 อี รอ เค โต มา จู ฮา เน โย

흔들리는 눈빛이
 ฮึน ดึล รี นึน นุน บี ชี
떨리는 내 입술이
 ตอล รี นึน แน อิบ ซู รี
또 그댈 찾네요
 โต คือ แดล ชัท เน โย

เนื้อเพลง 가슴이 말해 : Kim Na Young เพลงประกอบซีรี่ส์ Uncontrollably Fond

나를 기억하나요  นา รึล คี ออก ฮา นา โย 나를 알아보나요  นา รึล อา รา โพ นา โย 이렇게 또 마주하네요  อี รอ เค โต มา จู ฮา เน โย 흔들리는 눈빛이  ฮึน ดึล รี น...

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com