วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560



ฉันวิ่งมาถึงห้องแล้วตรงดิ่งไปที่โต๊ะ สำรวจดูใต้โต๊ะดูว่ามันอยู่ในนั่นหรือปล่าว แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีโทรศัพท์อยู่ใต้โต๊ะเลย ฉันก้มลงเพื่อมองลอดไปยังใต้โต๊ะคนอื่นๆแต่ก็ไม่เจอโทรศัพท์ บนพื้นมีเพียงความว่างเปล่า แต่แล้วในขณะที่ฉันกำลังง่วนอยู่กับการหาโทรศัพท์ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นอยู่ไม่ไกล

“ปังงงงง แกร๊ก” มันเป็นเสียงของประตูที่ถูกปิดลง ตามด้วยเสียงล๊อคกุญแจ ฉันหันกลับไปมองที่ประตูทั้งสองด้าน ปรากฏเงาของใครคนหนึ่งอยู่ข้างนอก

“ไม่นะ”

ฉันรีบวิ่งไปที่ประตูและเขย่าสุดแรง

“นี่ เธอเป็นใคร เปิดประตูเดียวนี้นะ เปิดประตู”

ฉันทั้งเขย่าและทุกประตูอยู่หลายรอบ ทุบจนรู้สึกราวกับว่ามือจะพองและร้อนพ่าวที่มือ เงาของใครคนนั้นได้หายไปจากหลังประตูแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครและทำเพื่ออะไร และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำยังไงด้วย

“มีใครอยู่ข้างนอกไหมคะ ฉันยังอยู่ในนี้ค่ะช่วยฉันด้วย มีใครอยู่ไหม”

ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงแต่ก็ไม่มีใครตอบรับ ข้างนอกคงกลับบ้านกันไปหมดแล้ว ฉันจะทำยังไงดีฉันไม่อยากอยู่ในห้องนี้ทั้งคืนหรอกนะ

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย ฉันติดอยู่ในนี้” ปัง ปัง ปัง ปัง

ฉันตะโกนสุดเสียงพร้อมกับทุบประตูอย่างเต็มแรง ตอนนี้ฉันทั้งเหนื่อยและกลัวมากๆ มือของฉันเริ่มบวมแดงขึ้น

ปัง ปัง ปัง “มี...ใคร...ได้ยิน...ฉัน...บ้างไหม... ช่วยด้วย”

ฉันทุบประตูครั้งแล้วครั้งเล่า และตะโกนซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนแทบจะหมดแรง ตอนนี้ฮีโระจะตามหาฉันไหมนะ หรือว่าเขาจะกลับบ้านไปแล้ว แต่ทำไมมีบางอย่างทำให้ฉันรู้สึกว่าฮีโระกำลังตามหาฉันอยู่นะ

“ฮีโระ ช่วยฉันด้วย” ฉันรวบรวมพลังแล้วทุบประตูอีกครั้ง ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีแล้ว ฉันกลัวความเงียบและความมืดด้วยนะ ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้จริงๆ

“ช่วย... ด้วย”

ตอนนี้ฉันกลัวจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ตะโกนจนเสียงไม่มีแล้ว แถมมือก็เจ็บมากด้วย แต่ฉัน... ก็อยากออกไปจากที่นี่

ทันใดนั้น..

“คูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับ คูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับคูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับ” ครืด ครืด

เสียงที่เปรียบดังสวรรค์มาโปรดก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่คอยปลุกให้ฉันตื่นในทุกเช้า ฉันรีบลุกตามหาต้นเสียง มันอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะของฉัน ครืด ครืด เสียงสั้นและเสียงเรียกเข้านั้นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันรีบค้นใต้โต๊ะด้วยการดึงหนังสือของมาทีละเล่ม “คูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับ”ครืด ครืด

“เจอแล้ว” โทรศัพท์ที่ฮีโระให้ฉัน ทำให้น้ำตาแห่งความกลัวและความดีใจไหลออกมาพร้อมกัน ฉันรีบกดรับโทรศัพท์ทันที

ติ๊ด “ฮารุตอนนี้อยู่ที่ไหนอ่ะ ผมรอตั้งนานไม่เห็นฮารุกลับมาเลย ผมเป็นห่วงนะ เรากลับบ้านกันเถอะ ฮารุ ฮารุ ได้ยินผมไหม เกิดอะไรขึ้น ตอบผมสิ”

“ฮีโระ ช่วยฉันด้วย”

ฉันกลั้นน้ำตาและพยายามพูดออกมาอย่างแผ่วเบา หลังจากที่ฉันบอกฮีโระ เขาก็รีบบอกฉัน

“ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวผมจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ”

แล้วฉันก็ได้ยินเสียงวิ่งและเสียงหอบเข้ามาในโทรศัพท์โดยที่ยังไม่ได้วางสาย เขาตั้งใจจะไม่วางสายเพื่อไม่ให้ฉันกลัวสินะ “ขอบคุณนะฮีโระ” ฉันนั่งลงข้างล่างใกล้ๆกับโต๊ะของตัวเอง ในมือตอนนี้กุมโทรศัพท์มือถือที่ฮีโระให้ไว้แน่น ก่อนที่จะปาดน้ำตาที่ไหลออกมานั้นออก สักพักก็มีเสียงใครบางคนอยู่ข้างนอก

“ฮารุ เป็นอะไรไหม ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ที่นี่แล้ว รอแปบเดียวผมจะพยายามเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้แหละ”

ปัง ปัง ปัง ประตูถูกทุบและเขย่าอยู่หลายครั้ง แต่มันก็ไม่ถูกเปิดออก

“ฮีโระ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

เสียงใครอีกคนซึ่งอยู่ข้างนอกถามฮีโระขึ้น

“ฮารุติดอยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องบ้าๆนี่”

“ไหนขอลองดูหน่อย”

เสียงนี้ เสียงของรุ่นพี่นี่นา เขามาที่นี่ได้ยังไง ตอนนี้พวกเขากำลังช่วยกันพยายามพังประตูอยู่

“ฮารุ ได้ยินไหม ตอบผมหน่อย”

เสียงรุ่นพี่ตะโกนออกมา

“ค่ะ รุ่นพี่ ฉันไม่เป็นไร”

ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร เพราะฮีโระกับรุ่นพี่อยู่ที่นี่แล้ว เสียงเขย่าประตูยังคงดังอยู่อย่างนั้น

“ผมว่าเบาๆคงเอาไม่อยู่แล้วล่ะ ผมชักรำคาญไอ้ประตูบ้านี่เต็มทนละ โธ่เว้ย!!!”

ปัง ปัง ปัง ฮีโระดูเหมือนจะเริ่มโมโหมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีแล้ว แต่ประตูก็ยังเปิดไม่ได้ ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมเข้ามาเรื่อยๆ ฉันไม่สามารกลุกขึ้นจากที่ตรงนี้ได้เลย

“รุ่นพี่ ผมว่าไม่ไหวแล้วล่ะ หลีกไปก่อนครับ”

เสียงฮีโระผุดขึ้น เหมือนเขาจะเปลี่ยนมาทำอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่การทุบ

“ปึ๊ง... ปึ๊ง....”

“โธ่เว้ย ทำไมมันไม่ยอมเปิดสักทีวะ”

เขาสบทขึ้นมาจนฉันสะดุ้งขึ้น ฉันไม่เคยเห็นฮีโระเป็นแบบนี้มาก่อน เสียงกระแทกประตูยังคงดังต่อไป

“เลือดนี่ ฮีโระ นี่มือนายกำลังเป็นแผลนะเนี่ย มาเดี๋ยวฉันช่วยอีกแรง มานับแล้วออกแรงพร้อมๆกันนะ”

“OKนะ 1 2 3” โครม!!!

เสียงประตูที่หลุดออก แสงสว่างที่ด้านนอกส่องเข้ามาในห้องที่มืดมิดที่ฉันอยู่ เงาของคนสองคนที่ยืนหอบอยู่ตรงนั้น และเมื่อประตูเปิดออก หนึ่งคนในนั้นเดินเข้ามาหาฉัน ตอนนี้ฉันพยายามปาดน้ำตาออกอีกครั้งแต่ฉันก็ไม่สามารถมองลอดผ่านน้ำตาพวกนั้นได้ มีใครบางคนเดินเข้ามาและนั่งลงข้างๆฉัน มือสองข้างกุมไหล่ฉัน

“ไม่เป็นไรนะฮารุ”

ภายในอ้อมกอดที่อบอุ่นนั้น ฉันรู้แต่เพียงว่าเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นมาก ฝ่ามือนั้นกำลังลูบผมฉันปลอบเพื่อปลอบใจ

“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่นี่แล้วฮารุ เธอไม่เป็นไรนะ”

น้ำตาที่ไหลออกมาจนเหือดแห้งของฉันที่ตอนนี้ทำให้ฉันเริ่มมองเห็นเงาของใครบางคนที่หน้าประตูอย่างลางๆ คนๆนั้นกำลังหันหลังเดินออกไปช้าๆ


เปาะ แปะ เปาะ แปะ~~

ท่ามกลางสายฝนที่ค่อยๆโปรยปรายลงมาทีละน้อย ฉันกับรุ่นพี่กำลังเดินอยู่บนทางเดิน ตอนนี้สองข้างทางมีแสงไฟข้างถนนและไฟจากรถที่ผ่านไปมาเป็นครั้งคราว สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย หากแต่เป็นเพียงละอองฝนบางๆทีมองผ่านๆมันก็ดูสวยงามดีเมื่อสะท้อนกับแสงไฟ

“ฮารุ ไม่เป็นไรนะ”

“ค่ะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณรุ่นพี่มากๆนะคะ”

ตอนนี้บนทางเดินมีเพียงฉันและรุ่นพี่เพียงสองคน เพราะหลังจากที่ประตูถูกเปิดออก ฮีโระก็หายไป เขาไม่คิดจะอยู่เจอฉันสักหน่อยเลยหรือไงนะ

“แล้วรุ่นพี่รู้ได้ยังไงคะว่าฉันติดที่ห้องนั้น”

“ก็เพราะรอฮารุที่โรงยิมนานแล้วแต่ไม่เจอ หลังซ้อมเสร็จก็เลยคิดว่าจะลองออกมาตามหาดู แต่ก็เจอฮีโระเหมือนกำลังตกใจมาก ก็เลยคิดอยู่ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ก็เลยลองวิ่งตามฮีโระมา”

จริงๆแล้วฉันต้องขอบคุณโทรศัพท์ของฮีโระที่ช่วยฉันไว้ ไม่อย่างนั้น ฉันคงไม่รู้ว่าเย็นนี้ฉันจะเป็นยังไง

“เรื่องฮีโระน่ะ ถามอะไรได้ไหม”

“มีอะไรเกิดขึ้นกับฮีโระเหรอคะ”

“อ๋อ ป่าวหรอก เพียงแค่อยากรู้ว่า... ฮารุกับฮีโระกำลังคบกันหรือเปล่า... ก็เท่านั้นเองอ่ะนะ”

รุ่นพี่หยุดเดินในขณะที่มือยังคงกางร่มสีเหลืองคันเดิม เขายิ้มเจือนๆ ดูเหมือนว่ารุ่นพี่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

“เพราะถ้าฮารุคบกับฮีโระอยู่ ผมก็คงไม่อยากได้ยินคำตอบนั้นแล้วล่ะ”

รุ่นพี่ฝืนยิ้มออกมาอีกครั้ง แต่ท่าทางเขากลับดูเศร้าลงไปทันที

“เอ่อ มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ สำหรับฉัน ฮีโระเป็นแค่เพื่อนที่ดีของฉันจริงๆค่ะ เขาดีต่อฉันมากๆ เราไม่ได้คบกันอย่างที่รุ่นพี่คิดหรอกนะคะ”

ฉันรีบบอกกับรุ่นพี่ก่อนที่จะถูกเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิม

“จริงเหรอ”

“จริงสิคะ สัญญาได้เลย”

ฉันยกนิ้วนางขึ้นมาเหมือนเป็นการสัญญา ทำให้รุ่นพี่ดูสบายใจขึ้นเยอะ

“โล่งอกไปที” ^^

ไม่ว่าจะดูมุมไหน รุ่นพี่ก็มักจะดูดีอยู่เสมอ ยิ่งได้อยู่ใกล้กันแบบนี้มากเท่าไหร่ ฉันยิ่งรับรู้ได้ถึงความดีและสิ่งที่รุ่นพี่เป็น แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะชอบรุ่นพี่เพราะอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ารุ่นพี่เป็นยิ่งกว่านั้นและฉันก็รู้สึกชอบรุ่นมากกว่าใครๆ

“ที่จริงผมมีเรื่องสารภาพด้วย วันก่อนผมบังเอิญไปเจอฮารุที่กำแพงแห่งความหวังน่ะ ขอโทษน่ะที่แอบไปดูข้อความที่ฮารุเขียนไว้”

“รุ่นพี่... เห็นมันด้วยเหรอคะ คือ ฉันขอโทษค่ะ ฉันแค่...”

“ไม่หรอก จริงๆแล้วผมดีใจมาก ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่...ทุกๆครั้งที่ผมหันไปก็มักจะเจอแต่ฮารุเสมอ จนผมทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงด้วย มันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้จักกันด้วยซ้ำ และผมคิดว่าบางทีเราอาจจะคิดตรงกัน”

ตอนนี้ฉันเริ่มหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่า ช่วงเวลาของฉันที่เอาแต่เฝ้าแอบมองรุ่นพี่นั้นรุ่นพี่จะคิดเหมือนกับฉัน ภายนอกเขาดูเหมือนหมางเมินกับฉันมากๆ แต่จริงๆแล้วนั่นกลับเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่รุ่นพี่ก็มองเห็นฉัน

“ผมจะไม่รอคำตอบอีกต่อไป แต่ถ้าฮารุเชื่อใจผม จับมือผมแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยกันนะ”

รุ่นพี่ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ฉัน เป็นความจริงที่เหมือนกับฝัน ที่ที่ฉันเดินอยู่ตรงนี้มีรุ่นพี่อยู่ข้างๆเราจับมือกันกลับบ้าน ในวันที่ฝนตกมีรุ่นพี่คอยกางร่มให้แบบนี้ ดีจัง

“ค่ะ”

ฉันยื่นมือที่สั่นเทาจับมือของรุ่นพี่ เป็นมือที่ใหญ่และอบอุ่นมากๆ เราเดินมาจนถึงที่หน้าบ้าน แม่ของฉันกำลังยืนรออยู่ เมื่อแม่เห็นฉันจึงได้รีบวิ่งออกมาหา

“ฮารุ วันนี้ทำไมกลับช้าแบบนี้ล่ะลูก ไปทำอะไรมา”

แม่รีบเข้ามากอดและซักถามฉันด้วยความเป็นห่วง รุ่นพี่ทักทายคุณแม่ทันทีที่เจอ

“แล้วนี่ใครเหรอ แม่คิดว่าลูกมากับฮีโระซะอีก”

“ผมเป็นรุ่นพี่ของฮารุครับ ขอโทษที่พาฮารุมาส่งช้า”

“เธอไม่ควรพาฮารุของเรากลับมาช้าป่านนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอจะรับผิดชอบได้เหรอ ฮารุเข้าบ้าน”

“แต่แม่คะ...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”

จู่ๆ แม่ก็เกิดโมโหขึ้นเมื่อเจอรุ่นพี่ และบอกให้ฉันรีบเข้าบ้าน ฉันหันหลังไปดูรุ่นพี่ก่อนที่จะโดนแม่ดึงเข้าบ้านไปซะก่อน ขอโทษนะคะรุ่นพี่ที่ทำให้ถูกเข้าใจผิด รุ่นพี่ยิ้มให้ฉันแบบเจือนๆคงรู้สึกแย่มากแน่ๆ ฉันทำให้รุ่นพี่ต้องเสียใจในวันแรกที่เราได้จับมือกันซะแล้ว ขอโทษจริงๆค่ะ

“ฮารุ ทำไมต้องกลับมากับผู้ชายสองต่อสองดึกๆดื่นๆ แถมเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักมักจี่ด้วย”

“ไม่นะคะแม่ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นิดหน่อยน่ะค่ะ และรุ่นพี่ก็มาช่วยไว้ มันไม่ใช่ความผิดของรุ่นพี่นะคะ และหนูก็รู้จักเขามานานแล้ว”

“ฮารุฟังแม่นะ ไม่ว่ายังไงต่อไปอย่าไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนนั้นอีก ลูกรู้ไหมว่าแม่กับพ่อเป็นห่วงลูกมาก แล้วถ้าเกิดฮีโระเห็นเข้า เขาจะเสียใจขนาดไหน”

“แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะแม่”

“เข้าห้อง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วออกมากินข้าว เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก แม่ถือว่าแม่พูดจบไปแล้วและลูกก็ต้องเชื่อฟังแม่ด้วย”

แม่ไม่ยอมฟังในสิ่งที่ฉันพูดบ้างเลย รุ่นพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย และฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับฮีโระทำไมเรื่องบ้าๆแบบนี้ต้องเกิดขึ้นด้วยนะ

โต๊ะอาหารเย็นนี้ดูจะเย็นชืดกว่ามื้อที่ผ่านๆมา ฉัน พ่อและแม่ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องฮีโระหรือรุ่นพี่เลย และฉันเองก็อยู่ในช่วงที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ฉันอยากให้แม่เปิดใจรับรุ่นพี่มากกว่านี้แล้วแม่จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ดีมากๆอีกคนหนึ่ง ข้าวคำสุดท้ายถูกตักเข้าปากแล้ว ฉันเก็บถ้วยของตัวเองเอาไปล้างแล้วเดินเข้าห้อง

“สักวันหนึ่งลูกจะรู้ว่าทำไมแม่ถึงห้ามไม่ให้ลูกคบกับเขา”

หลังจากนั้นแม่ไม่ได้พูดอะไรกับฉันต่อ อะไรที่ฉันจะได้รู้ต่อจากนี้เหรอ หรือว่ารุ่นพี่เป็นคนไม่ดียังเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเชื่อใจรุ่นพี่ว่ารุ่นพี่จะไม่ทำแบบนั้น ฉันเดินเข้าห้องพร้อมกับปิดล๊อคประตูทันที ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะแสดงออกว่าฉันโกรธกับแม่ แต่ตอนนี้มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยากจริงๆ

ฉันล้มตัวลงบนที่นอน และแล้วก็เพิ่งนึกถึงฮีโระได้ ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ ตั้งแต่เกิดเรื่องฉันก็ยังไม่ได้คุยกับเขาเลย ฉันเปิดผ้าม่านที่หน้าต่างออก และมองออกไปที่บ้านของฮีโระ แสงไฟในห้องของเขาเปิดทิ้งไว้แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน ฉันตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ที่เขาให้ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเขา แต่กลับเจอ 1 ข้อความที่ไม่รู้ว่าส่งมาตอนไหน

“Hero Massege: สุดท้ายก็สมหวังซะทีนะ ยินดีด้วยฮารุ” ^^

คนใจร้าย อุตส่าห์มาช่วยฉันแต่กลับไม่ยอมให้ฉันได้เจอเลย ฉันไม่เคยได้พูดแม้กระทั่งคำว่าขอบคุณด้วยซ้ำ แต่เขากลับอวยพรให้ฉัน ฉันเหลือบมองไปที่แสงไฟผ่านม่านห้องฮีโระไม่มีแม้กระทั่งความเคลื่อนไหวของเขาที่นั่น เขาไปอยู่ที่ไหนกันนะ

“Haru Massege: ขอโทษที่ฉันคอยสร้างแต่ปัญหาและขอบคุณที่ฮีโระยังคอยช่วยฉันมาตลอด เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉันจริงๆ”

ฉันปิดผ้าม่านลงหลังจากส่งข้อความเสร็จ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันก็ต้องทำให้แม่เข้าใจรุ่นพี่ให้ได้ ฉันอุตส่าห์แอบมองรุ่นพี่มาตั้งนาน ได้โปรดขอให้รุ่นพี่อย่าได้เข้าใจผิดเลยนะคะ ฉันคิดว่าถ้าแม่ได้รู้จักรุ่นพี่เหมือนที่ฉันได้รู้จัก แม่จะไม่พูดแบบนั้นกับรุ่นพี่แน่นอน ฉันปิดไฟและล้มตัวนอนลงบนเตียง ถ้าไม่คิดเรื่องที่แม่เข้าใจผิดรุ่นพี่ผิด และเรื่องที่ฉันถูกขังในห้องเรียนนั้น ซึ่งฉันก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องแบบนั้น แต่วันนี้ก็เป็นวันที่ดีมากๆสำหรับฉันเลยล่ะ

“ติ๊ด ติ๊ด” จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง มีรูปเตือนว่าฉันได้รับ 1 ข้อความใหม่

“สวยจัง นี่มันหิ่งห้อยนี่นา”

ข้อความที่ฉันได้รับจากฮีโระเป็นรูปภาพหิ่งห้อยระยิบระยับที่บินอยู่ท่ามกลางความมืด ท้ายรูปภาพมีข้อความแนบมาด้วย

“ของขวัญแห่งความยินดี ลองเปิดผ้าม่านดูสิ” ฉันลุกขึ้นจากเตียงโดยที่ยังไม่ได้เปิดไฟ เมื่อฉันเอื้อมมือไปเปิดผ้าม่านที่ริมหน้าต่างอีกครั้ง ข้างนอกปรากฏเป็นแสงระยิบระยับอยู่ริมหน้าต่างเป็นภาพที่สวยงามมากๆ เหล่าหิ่งห้อยที่เพิ่งหนีออกมาจากที่หลบฝนกำลังบินร่ายรำท่ามกลางความมืด

“นี่มันสวยยิ่งกว่าในรูปซะอีกนะเนี่ย”

ฉันเหลือบไปเห็นม่านที่ห้องของฮีโระเปิดทิ้งไว้ เขากลับมาแล้วสินะ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 12 เงาของคน 2 คน

ฉันวิ่งมาถึงห้องแล้วตรงดิ่งไปที่โต๊ะ สำรวจดูใต้โต๊ะดูว่ามันอยู่ในนั่นหรือปล่าว แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีโทรศัพท์อยู่ใต้โต๊ะเลย ฉันก้มลงเพื่อ...

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560



어쩔 수 없지만 좀 못되게
ออ จอล ซู ออบ ชี มัน จม มท ดเว เก
네 마음에 모질게 말을 해 Yeah
 นี มา อือ เม โม จิล เก มา รึล แฮ Yeah

Baby I’m so bad yeah baby I’m so bad

모든 게 어느새 이렇게
 โม ดึน เก ออ นือ แซ อี รอ เค

불안해진 맘에 너를 찾아봐도
 พู รัน แฮ จิน มา เม นอ รึล ชา จา บวา โด
눈을 보고 나는 느꼈어
 นู นึล โพ โก นา นึน นือ กยอ ซอ

เนื้อเพลง Red Lie (새빨간 거짓말) : BTOB

어쩔 수 없지만 좀 못되게 ออ จอล ซู ออบ ชี มัน จม มท ดเว เก 네 마음에 모질게 말을 해 Yeah  นี มา อือ เม โม จิล เก มา รึล แฮ Yeah Baby I’m so bad ...

วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560



My life is incomplete
It’s Missing you

오늘도 하루를 보내 다를 게 없이
 โอ นึล โด ฮา รุ รึล โพ แน ทา รึล เก ออบ ชี
하나도 안 어색해 혼자 있는 게
 ฮา นา โด อัน ออ แซ แค ฮน จา อิท นึน เก
너 없인 안될 것 같던 내가 이렇게 살아
 นอ ออบ ชิน อัน ดเวล กอท กัท ตอน แน กา อี รอ เค ซา รา
근데 좀 허전해 난 여전히 거기 있나 봐
 คึน เด จม ฮอ จอ แน นัน ยอ จอ นี คอ กี อิท นา บวา

เนื้อเพลง Missing You (그리워하다) : BTOB

My life is incomplete It’s Missing you 오늘도 하루를 보내 다를 게 없이  โอ นึล โด ฮา รุ รึล โพ แน ทา รึล เก ออบ ชี 하나도 안 어색해 혼자 있는 게  ฮา นา โด...

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560



긴 밤이 오면 또 길을 잃어
 คิน พา มี โอ มยอน โต คี รึล อี รอ
니가 없는 난
 นี กา ออม นึน นัน
한번도 꾼적 없는 꿈속을 헤매
 ฮัน บอน โด กุน จอก ออม นึน กุม โซ กึล เฮ แม
날 깨워줄 그대가 없는 곳에
 นัล แก วอ จุล คือ แด กา ออม นึน โก เซ
나 멈춰서 널 기다리고 있어
 นา มอม ชวอ ซอ นอล คี ตา รี โก อี ซอ

I need your love 날 데려가
I need your love นัล เท รยอ กา
I need you now 꼭 안아줘
 I need you now กก อา นา จวอ
다 놓쳐버린 기억들에
 ทา โน ชยอ บอ ริน กี ออก ดือ เร
혼자 울고 있는 나
 ฮน จา อุล โก อิท นึน นา

I need your love 니 품안에
 I need your love นี พุม อา เน
I need you now 꼭 안아줘
 I need you now กก อา นา จวอ
너만이 날 깨울 수 있어
 นอ มา นี นัล แก อุล ซู อี ซอ

긴 밤이 가면 의미를 잃어
 คิน พา มี คา มยอน อึย มี รึล อี รอ
니가 없는 난
 นี กา ออม นึน นัน
나 여전히 널 기다리고 있어
นา ยอ จอ นี นอล คี ตา รี โก อี ซอ

I need your love 날 데려가
 I need your love นัล เท รยอ กา
I need you now 꼭 안아줘
  I need you now กก อา นา จวอ
다 놓쳐버린 기억들에
   ทา โน ชยอ บอ ริน คี ออก ดือ เร
혼자 울고 있는 나
  ฮน จา อุล โก อิท นึน นา

I need your love 니 품안에
  I need your love นี พุม อา เน
I need you now 꼭 안아줘
  I need you now กก อา นา จวอ

영원히 기다릴게 이 곳에서
 ยอง วอ นี คี ตา ริล เก อี โก เซ ซอ
기다릴게 이 끝에서
 คี ตา ริล เก อี กือ เท ซอ
언젠가 손잡아 줄래 함께 걸을래
 ออน เจน กา ซน จา บา จุล แร ฮัม เก คอ รึล แร

I need your love 날 데려가
  I need your love นัล เท รยอ กา
I need you now 꼭 안아줘
   I need you now กก อา นา จวอ
다 멈춰버린 시간 속에
    ทา โน ชยอ บอ ริน ชี กัน โซ เก
혼자 울고 있는 나
   ฮน จา อุล โก อิท นึน นา

I need your love 니 품안에
   I need your love นี พุม อา เน
I need you now 꼭 안아줘
 I need you now กก อา นา จวอ
너만이 날 깨울 수 있어
นอ มา นี นัล แก อุล ซู อี ซอ



เนื้อเพลง When Night Falls (긴 밤이 오면) : Eddy Kim
When Night Falls (긴 밤이 오면) : Eddy Kim Lyrics

เครดิต เนื้อเพลงไทย โดย : Pk.Sunfany

Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

เนื้อเพลง When Night Falls (긴 밤이 오면) : Eddy Kim

긴 밤이 오면 또 길을 잃어  คิน พา มี โอ มยอน โต คี รึล อี รอ 니가 없는 난  นี กา ออม นึน นัน 한번도 꾼적 없는 꿈속을 헤매  ฮัน บอน โด กุน จอก ออม นึน กุม โซ ...


뒤척이면서 아등바등
 ทวี ชอ กี มยอน ซอ อา ดึง บา ดึง
별 세우며 잠을 청해도
 พยอล เซ อู มยอ ชา มึล ชอง แฮ โด
반짝반짝 그대가 눈부셔
 พัน จัก พัน จัก คือ แด กา นุน บู ชยอ

밥을 먹든 커피 마시든
พา บึล มอก ดึน คอ พี มา ชี ดึน
TV 보든 웃다가 울든
 ที พี โบ ดึน อุท ตา กา อุล ดึน
곁에 있듯 내 옆에 너인 걸
 คยอ เท อิท ดึท แน ยอ เพ นอ อิน กอล

เนื้อเพลง Beside me (내 옆에 그대인 걸) : DAVICHI (다비치)

뒤척이면서 아등바등   ทวี ชอ กี มยอน ซอ อา ดึง บา ดึง 별 세우며 잠을 청해도  พยอล เซ อู มยอ ชา มึล ชอง แฮ โด 반짝반짝 그대가 눈부셔  พัน จัก พัน จัก คือ แด กา...

วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560



사랑한다고 말하던
 ซา รัง ฮัน ดา โก มัล ฮา ตอน
다 지웠던 그 사람
 ทา ชี วอท ตอน คือ ซา รัม
돌아서던 그 모습이
 โท รา ซอ ทอน คือ โม ซือ บี
그게 지워지지가 않아
 คือ เก ชี วอ ชี จี กา อา นา
 
사랑한단 말도 못해준 그날
 ซา รัง ฮัน ดัน มัล โด โม แท จุน คือ นัล
많이 울던 그대 기억도
มา นี อุล ตอน คือ แด คี ออก โด

เนื้อเพลง One Day : Seo EunKwang

사랑한다고 말하던  ซา รัง ฮัน ดา โก มัล ฮา ตอน 다 지웠던 그 사람  ทา ชี วอท ตอน คือ ซา รัม 돌아서던 그 모습이  โท รา ซอ ทอน คือ โม ซือ บี 그게 지워지지가 않아  ...


Love is painful all the love is painful

바보처럼 반복 That’s what I always do
พา โบ ชอ รอม บัน บก That’s what I always do

But pain is beautiful It’s same as you

희망은 실망으로 소망은 절망으로
ฮี มัง งึน ชิล มัง งือ โร โซ มัง งึน ชอล มัง งือ โร 

사랑이 깊어질수록 아픔은 deep해 더
ซา รัง งี กี พอ จิล ซู นก อา พือ มึน deep แพ ดอ
이번엔 다를 거란 착각 혹은 기대 uh
อี พอ เนน ทา รึล คอ รัน ชัก กัก โฮ กึน คี แด uh

เนื้อเพลง Without You : G-Dragon

Love is painful all the love is painful 바보처럼 반복 That’s what I always do พา โบ ชอ รอม บัน บก That’s what I always do But pain is be...


나 오늘도 예뻐
 นา โอ นึล โด เย ปอ
난 고갤 끄덕여
 นัน โค แกล กือ ดอ กยอ
내 대답 좀 부족했나
 แน แท ดับ จม พู โจ แคท นา
넌 반짝 빛이 나
 นอน พัน จัก พี ชี นา

You should know
that girl you so fine

เนื้อเพลง U&I : SUNNY & HENRY

나 오늘도 예뻐  นา โอ นึล โด เย ปอ 난 고갤 끄덕여  นัน โค แกล กือ ดอ กยอ 내 대답 좀 부족했나  แน แท ดับ จม พู โจ แคท นา 넌 반짝 빛이 나  นอน พัน จัก พี ชี...


Stars in the sky

이 밤은 낯설지 않아
 อี บา มึน นัท ซอล จี อา นา
너와 둘이 왔던 곳
นอ วา ทู รี วัท ตอน กท
너와 같이 있던 곳
นอ วา คา ชี อิท ตอน กท

넌 기억나니
นอน คี ออก นา นี
오늘처럼 바람이 불면
 อล นึล ชอ รอม พา รา มี พุล มยอน
너와 거닐던 그 길이 생각나
 นอ วา คอ นิล ตอน คือ คี รี แซง กัก นา

เนื้อเพลง When The Wind Blows : Yoona

Stars in the sky 이 밤은 낯설지 않아  อี บา มึน นัท ซอล จี อา นา 너와 둘이 왔던 곳 นอ วา ทู รี วัท ตอน กท 너와 같이 있던 곳 นอ วา คา ชี อิท ตอน กท 넌...

วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560


วันศุกร์วันมาถึงอีกครั้ง
ตอนเช้าระหว่างที่เดินเข้าโรงเรียน รอยยิ้มที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงได้มากขนาดนี้รออยู่ที่หน้าโรงเรียนแล้ว คำพูดของรุ่นพี่หวนขึ้นมาในความคิดของฉันอีกครั้ง “ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย” เพียงแค่คิด ฉันก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที และถ้าเดาไม่ผิดฉันกลัวว่ามันจะแดงเป็น “ยัยแก้มสตอเบอรี่” ด้วย ฉันทำได้เพียงก้มหัวเพียงเล็กน้อยให้กับรุ่นพี่ด้วยความเขิน

วันนี้มุนอาลาหนึ่งวันเนื่องจากเธอไม่สบาย ตอนเที่ยงฉันกับฮีโระเลยต้องไปกินข้าวกันแค่สองคน หลังจากกินข้าวเสร็จในระหว่างที่ฉันกำลังไปเข้าห้องน้ำ เสียงของคนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกัน

“ฉันว่าพวกเราเลิกสนใจรุ่นพี่ชินเถอะ ถึงจะฮ๊อตและหล่อขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางที่จะหันมาสนใจพวกเราหรอก”

ใครคนหนึ่งเริ่มบทสนทนานี้ขึ้น

“ใช่ เขาไม่สนใจเราที่พยายามจะทำเพื่อเขาเลย ทั้งตามไปส่งข้าวส่งน้ำ ทั้งตามไปเชียร์ทุกที่ที่มีแข่ง แต่สุดท้ายเขาก็แค่รับมันไว้และไม่ได้สนใจมัน”

“พวกเราก็ทนมามากนะแชวอน ที่พวกเราทนตามรุ่นพี่แบบนี้ก็เพราะเราเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนรักและเธอก็ชอบรุ่นพี่มากพวกเราถึงได้เชียร์สุดใจ แต่สุดท้ายรุ่นพี่ก็เหมือนจะสนใจยัยหน้าจืดคนนั้น ตอนเช้านี้น่ะฉันแอบเห็นด้วยนะว่ารุ่นพี่น่ะแอบส่งยิ้มให้กับยัยนั่นด้วย”

กลุ่มของแชวอนนั่นเอง ฉันเพิ่งรู้ว่าแชวอนเองก็ชอบรุ่นพี่มานานแล้ว และดูเหมือนว่าเธอก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อรุ่นพี่เหมือนกัน

“เฮ้อ นั่นสินะ ฉันก็คิดว่าฉันจะเลิกตามผู้ชายแบบนั้นแล้วล่ะ ถ้าเกิดว่าฉันทำใจได้ละก็นะ”

แชวอนพูดขึ้นในขณะที่เพื่อนของเธอพูดเสริมขึ้น

“สุดท้ายแล้วฉันคิดว่ารุ่นพี่ก็ไม่ใช่คนที่ดีอะไรมากมายหรอก”

รุ่นพี่ไม่ใช่คนดีอย่างนั้นเหรอ ไม่หรอกนะพวกเธอเข้าใจเขาผิดแล้ว ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือตอนนี้สำหรับฉันรุ่นพี่ก็ยังคงเป็นคนดีในสายตาของเสมอ ต่อให้เขาไม่สนใจฉัน เขาก็ยังจะดูดีแบบนี้ ฉันทนไม่ได้จริงๆที่จะได้ยินถ้อยคำเหล่านี้จากคนที่ชอบรุ่นเหมือนกัน

“ปัง...” ฉันเปิดประตูห้องน้ำออกไป กลุ่มของแชวอนทั้งสามคนต่างหันมามองฉันเป็นตาเดียว

“ยัยหน้าจืด นี่เธอมาแอบฟังพวกฉันคุยกันเหรอ แต่ก็ช่างเถอะ สุดท้ายเธอเองนั่นแหละที่เป็นนังหน้าด้านที่แย่งความรักของรุ่นพี่ไปจากพวกเรา”

แชวอนพูดขึ้นมาอย่างไม่แยแสถึงสิ่งที่ฉันได้ฟัง เธอทำตัวเฉยชามากจนไม่เหมือนแชวอนที่ฉันเคยเห็นในตอนแรก

“ฉันไม่ได้ตั้งใจมาแอบฟัง แต่เพราะบังเอิญได้ยินเข้า ฉันไม่อยากให้พวกเธอเข้าใจรุ่นพี่ผิดไปนะ”

“เธอจะมาแก้ต่างให้รุ่นพี่ทำไม อ๋อ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ได้รับความสนใจจากรุ่นพี่สินะ ถึงกล้าพูดแบบนี้ได้ เอาสิ พวกเธอจะไปทำอะไร จะรักกันแค่ไหนก็ไปเลย เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันอยู่ในสายตาของรุ่นพี่ได้เหมือนเธอแล้วนี่”

แชวอนพูดออกมาด้วยอารมณ์เศร้าๆ ฉันรู้สึกเจ็บปวดและเข้าใจความรู้สึกของเธอเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ช่วงเวลาที่ฉันทำได้เพียงแค่แอบมองรุ่นพี่โดยที่ทำอะไรไม่ได้ มันก็เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมากๆแบบนี้เหมือนกัน

“และทางที่ดีอย่ามาให้พวกฉันเห็นหน้าอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

เพื่อนของแชวอนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาผลักไหล่ฉัน มันทำให้ฉันนึกถึงมุนอาที่คอยปกป้องฉันแบบนี้ เธอเองก็คงไม่อยากให้แชวอนต้องเจ็บปวดใจเหมือนกันสินะ

กลุ่มแชวอนเดินออกจากห้องน้ำไปแล้ว ฉันเดินกลับไปหาฮีโระที่โรงอาหาร แต่ฮีโระก็ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะแล้ว

“เอ้านี่ กินไอศกรีมแก้กลุ้มใจสักหน่อยนะ”

ฮีโระโผ่ลมาจากด้านหลังและยื่นไอศกรีมรสนมมาให้ฉัน

“นึกว่าจะหนีไปไหนคนเดียวอีกแล้วซะอีก ว่าแต่...สีหน้าของฉันมันแสดงออกมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

ฉันถามฮีโระด้วยความแปลกใจ

“ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกนะว่าคนอื่นจะรู้สึกเหมือนผมไหม แต่ผมดูออกนะว่าฮารุกำลังรู้สึกอะไรอยู่”

เขาพูดในขณะที่ตักไอศกรีมกินเรื่อยๆ

“ไม่กินเหรอ งั้นผมกินนะ”

ฮีโระเอื้อมมือมาเอาช้อนมาตักไอศกรีมที่ถ้วยของฉันไปหนึ่งคำ

“ไอศกรีมรสนมนี่ก็อร่อยเหมือนกันนะ ขอผมชิมอีกคำนึงสิ”

ฉันเลื่อนถ้วยไอศกรีมของฉันเพื่อหนีจากมือลิงของฮีโระ

“ว้าว ฮารุปฏิเสธคนอื่นเป็นแล้วด้วย เย้ เย้ ฮ่า” ^O^

ฮีโระเอาแต่พูดไปและหัวเราะไป ส่วนฉันก็ต้องรีบจัดการไอศกรีมรสนมของฉันก่อนที่จะโดนฮีโระชิมซะจนหมดซะก่อน

“รีบกินจนเลอะปากหมดแล้ว”

มือเรียวยาวของฮีโระยื่นเข้ามาแตะที่มุมปากของฉัน ฉันมองไปที่เขา O.O ซึ่งตอนนี้หน้าของเขาแดงมาก =O.O=

“ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็แสดงออกซะหน้าแดงไม่เห็นต้องเขินเลยนี่นา ก็เราเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่เหรอ”

ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับฮีโระเพื่อดูหน้าแดงๆของเขา แต่แล้วก็ถูกนิ้วยาวๆของเขาจิ้มที่หน้าผากและดันให้ฉันออกห่างจากเขา ก่อนที่เขาจะหันไปทางอื่น

“โอ๊ะ รุ่นพี่มาพอดี งั้นเดี๋ยวผมไปห้องน้ำก่อนละกันนะ รีบๆตอบรับเขาก่อนที่เขาจะไปหาคน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”

ฮีโระเข้ามากระซิบที่หูฉันเบาๆก่อนที่รุ่นพี่จะมาหาฉัน

“มุนอาไปไหนล่ะ”

“อ๋อ พอดีเธอไม่สบายนะค่ะ เราเลยมากันแค่สองคน”

ฉันตอบไป ทั้งๆที่ก็ยังไม่กล้าสบตารุ่นพี่อยู่ดี “ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย” คำพูดนั้นหวนกลับมาหาอีกครั้ง แค่คิดก็อดเขินไม่ได้แล้ว

“ดูฮารุกับฮีโระดูสนิทกันจังเลยนะ บางครั้งก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ทั้งสองกำลังคบกันอยู่หรือเปล่า”

ดูเหมือนรุ่นพี่จะแอบเห็นตอนที่ฉันและฮีโระแหย่เล่นกันจนเข้าใจผิดซะแล้วสิ

“ไม่ใช่นะคะ พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆค่ะ แล้วฮีโระก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉันมากๆ อีกไม่นานเขาก็ต้องกลับไปที่โรงเรียนของเขาแล้ว ฉันเลยอยากจะทำดีกับเขาเยอะๆนะค่ะ อีกอย่างฮีโระก็คอยช่วยฉันในหลายๆเรื่องด้วย”

ทั้งเรื่องที่เขาคอยเป็นกำลังใจให้ฉันและพาฉันไปที่กำแพง ทั้งโทรศัพท์มือถือที่อุตส่าห์ซื้อให้ฉันซึ่งเขาเองก็ไม่เคยโทรหาฉันสักครั้งและทำเพียงแค่ส่งข้อความมาให้ฉันสู้เพื่อที่จะได้สมหวังกับรุ่นพี่ นอกจากมุนอาแล้วเขาเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ดีๆกับฉันมากๆ

“เฮ้อ ค่อยยังชั่ว เห็นฮารุปฏิเสธแบบนี้ ผมก็สบายใจหน่อย งั้นตอนเย็นเจอกันที่โรงยิมนะ”

“ค่ะ” ^^

ฉันส่งยิ้มให้รุ่นพี่ก่อนที่รุ่นพี่จะไป

“พอรุ่นพี่มาก็ยิ้มซะหวานยิ่งกว่าน้ำตาลอีกนะเนี่ย เฮ้อ ผมละอยากจะเป็นรุ่นพี่ซะจริงๆ เกิดมาหน้าตาดี เรียนก็ดี แถมเล่นกีฬาก็เก่ง สาวๆชอบเพี๊ยบ น่าอิจฉาชะมัด”

ฮีโระพูดในขณะที่ยืนมองด้านหลังของรุ่นพี่ที่เดินไกลออกไป

“ไม่ต้องอิจฉารุ่นพี่หรอก เพราะรุ่นพี่ก็เป็นในแบบรุ่นพี่ และฮีโระก็เป็นในแบบของฮีโระ ฉันชอบที่ฮีโระเป็นแบบนี้มากกว่า”

“ไม่ต้องมาปลอบใจผมหรอกน่า ไปเรียนกันได้แล้ว”

เขาพูดก่อนที่จะเดินดุ่มๆไปก่อนที่ฉันจะเดินตามทัน ในคาบบ่ายเป็นวิชาที่น่าเบื่อมากๆสำหรับฉัน ปกติฉันจะเป็นคนนั่งตรงกลาง ฮีโระนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของฉันติดหน้าต่าง ส่วนโต๊ะมุนอาจะอยู่ด้านขวาของฉัน พวกเรานั่งอยู่แถวสุดท้ายของห้องพอดี แต่วันนี้มุนอาไม่มาฉันเลยไม่มีใครมาแอบคุยกันด้วย ปกติวิชาไหนที่เราขี้เกียจเรียนฉันกับมุนอาเรามักจะใช้กระดาษหนึ่งแผ่นเขียนถามตอบกันแบบแอบๆในขณะที่อาจารย์สอนโดยไม่ให้อาจารย์รู้ แต่ตอนนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อมากจริงๆจนแทบจะหลับ จู่ๆโทรศัพท์ที่ฮีโระให้ก็สั่นขึ้นเบาๆเพราะฉันเอาไว้ที่ใต้โต๊ะจึงไม่มีใครเห็น ฉันค่อยๆเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีหนึ่งข้อความเข้ามา ฉันแอบหันไปดูฮีโระที่ตอนนี้มองไปที่กระดานทำเหมือนว่ากำลังตั้งใจเรียนในขณะที่ใต้โต๊ะมีโทรศัพท์มือถือที่เหมือนกันอยู่อีกเครื่องนึง ฉันเห็นเค้ายิ้มออกมาน้อยๆ

Hero Message: “เรามาเล่นเกมส์ ใช่หรือไม่ใช่ กันดีมั้ย”

Haru Message: “จะดีเหรอ อจ.กำลังมองอยู่นะ”

Hero Message: “งั้นถามแค่คำถามเดียวละกัน”

Haru Message: ...

Hero Message: “คนที่ฮารุชอบเพียงคนเดียวคือรุ่นพี่ใช่หรือไม่”

Haru Message: “ทำไมต้องถามแบบนี้ด้วย ฮีโระก็รู้แล้วนี่นา”

Hero Message: ตอบมาเถอะน่า เร็ว!!!

Haru Message: “ใช่ ฉัน...ชอบรุ่นพี่เพียงคนเดียว จริงๆ” >////<

โอ๊ยทำไมต้องให้ฉันมาเล่นตอบคำถามพวกนี้ด้วยเนี่ย

Haru Message: งั้นขอฉันถามข้อนึง

Hero Message: ได้สิ

Haru Message: ฮีโระชอบมุนอา ใช่หรือไม่

ถ้าฮีโระตอบมาว่าใช่ละก็ มุนอาจะต้องดีใจมากๆแน่ ฉันตั้งหน้าตั้งตารอข้อความเข้า มีข้อความตอบกลับมาแล้ว แต่ก่อนที่ฉันจะได้อ่านมัน

“ฮารุ นั่นเธอทำอะไรอยู่น่ะ”

อาจารย์เดินเข้ามาใกล้ฉัน ฉันจึงรีบเก็บโทรศัพท์ยัดไว้ในหนังสือใต้โต๊ะ

“ปล่าวค่ะ ไม่ได้ทำอะไรค่ะอาจารย์”

“แน่ใจนะว่าไม่ได้ทำ ถ้ายังงั้นออกมาตอบคำถามข้อนี้สิ”

แย่แล้ว ฉันไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนแม้แต่น้อย วิชาคณิตเป็นวิชาที่ฉันไม่ชอบที่สุดซะด้วย ฉันจะทำยังไงดี

“ผมขอทำแทนได้ไหมครับอาจารย์”

ฮีโระยกมือขึ้นและบอกอาจารย์ว่าเขาจะแก้โจทย์ข้อนี้แทน เท่าที่เคยเรียนๆด้วยกันมา ฮีโระก็ค่อนข้างจะแก้โจทย์ได้ดีกว่าฉันนะ เขาอาจจะทำมันได้ก็ได้

“แต่ครูกำลังบอกให้ฮารุเป็นคนทำนะ ถ้าอย่างนั้นถ้าเธอแก้โจทย์ไม่ถูก เธอสองคนต้องถูกทำโทษให้เก็บกวาดขยะและใบไม้เย็นนี้นะ”

“ครับ งั้นผมจะลองแก้โจทย์ข้อนี้ดูครับ”

ฮีโระเดินออกจากโต๊ะไปที่หน้ากระดาน เขาแก้มันอย่างง่ายๆ ฉันคิดว่ามันอาจจะถูกก็ได้ ฉันภาวนาให้มันเป็นแบบนั้น เพราะตอนเย็นฉันมีนัดกับรุ่นพี่ที่โรงยิม ฉันไม่ได้อยากจะไปทำความสะอาดตอนเย็นหรอกนะ ขอร้องละ

ฮีโระได้ตอบคำถามของเสร็จแล้วและกำลังรอคำตอบของอาจารย์อยู่

“เธอ กลับไปนั่งที่โต๊ะได้ฮีโระ”

แสดงว่าฮีโระตอบคำถามถูกอย่างนั้นสินะ เย้ ถ้างั้นเราสองคนก็ไม่ต้องโดนทำโทษแล้วล่ะสิ ฉันส่งยิ้มให้กับฮีโระที่ทำหน้างงๆกลับมาที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ดีใจอย่างเต็มที่

“เธอกับฮารุเตรียมทำความสะอาดเก็บกวาดใบไม้แทนลุงภารโรงได้เลย เพราะคำตอบมันผิด ทำให้สะอาดนะครูจะให้ลุงเขาไปตรวจ ถ้าไม่สะอาดเตรียมตัวโดนหักคะแนนได้เลย โทษฐานแอบคุยกันตอนครูกำลังสอน”

=[]= หา เย็นนี้แทนที่ฉันจะได้ไปหารุ่นพี่ กลับต้องมาทำความสะอาดแทนเหรอเนี่ยเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด

สองชั่วโมงผ่านไป วิชาคณิตศาสตร์จบลง ฉันเก็บหนังสือคณิตกลับไว้ที่ใต้โต๊ะเหมือนเดิม และพอถึงตอนเย็นฉันจึงไปหยิบไม้กวาดจากห้องเก็บอุปกรณ์มาอย่างคนไร้เรี่ยวแรง สรุปแล้วฉันต้องมากวาดใบไม้แทนการได้ไปดูรุ่นพี่ซ้อมแทน

“ขอโทษนะฮารุ เป็นเพราะผมฮารุเลยต้องมากวาดใบไม้แบบนี้”

ฮีโระเอ่ยขอโทษแบบเบาๆ เขาก็คงไม่ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้หรอก

“ไม่เป็นไรหรอกแล้วก็ไม่ใช่ความผิดของฮีโระด้วย เพราะฉันแก้โจทย์ปัญหาคณิตข้อนั้นไม่ได้ต่างหาก”

“แต่ก็เป็นเพราะผมที่เอาแต่ชวนฮารุเล่นโทรศัพท์ก็เลยเป็นแบบนี้นี่นา”

ใช่ เพราะโทรศัพท์ ว่าแต่... แล้วฉันเอาโทรศัพท์ไปไว้ที่ไหนอีกละเนี่ย เพิ่งนึกขึ้นได้ฉันก็เริ่มค้นกระเป๋าและสำรวจดู ทุกทีฉันจะเก็บมันใส่ไว้นะกระเป๋ากระโปรงนี่นา มิน่าละ ก็ว่าทำไมรู้สึกเบาโหวง ฉันคงไม่ได้ทำหายหรือตกหล่นหรอกนะ ช่วงนี้ยิ่งขี้ลืมและเบลอๆอยู่ด้วย ฉันลองใช้ไม้กวาดเขี่ยใบไม้แถวๆนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ทำหล่นแถวนี้ แต่ก็ไม่มี!!! ฉันคิดว่าฉันคงไม่สามารถจะบอกฮีโระได้ เพราะถ้าหากฉันบอกว่าฉันทำหาย เขาอาจจะรู้สึกเสียใจมากอีกก็ได้

“เดี๋ยวฉันมานะฮีโระ”

“อ้าว มีอะไรเหรอฮารุ”

“ไม่มีอะไร ฮีโระกวาดรอไปก่อนนะเดี๋ยวอาจารย์มาตรวจ แปบเดียว เดี๋ยวฉันมา”

ฉันวางไม้กวาดลงและรีบตรงดิ่งไปที่ห้องเรียน ถ้าจำไม่ผิด ครั้งล่าสุดที่ฉันจำได้คือ ตอนที่แอบเล่นในห้องเรียนนี่นา ใช่แล้ว มันต้องอยู่ที่ใต้โต๊ะแน่นอน



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ


>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 11 สารภาพรัก

วันศุกร์วันมาถึงอีกครั้ง ตอนเช้าระหว่างที่เดินเข้าโรงเรียน รอยยิ้มที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงได้มากขนาดนี้รออยู่ที่หน้าโรงเ...

วันนี้ผมไม่ว่างไปโรงยิมกับฮารุนะ ให้มุนอาไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้

“เอ่อ คือพอดีวันนี้ฉันก็ไม่ว่างเหมือนกันน่ะ ที่บ้านจะมีงานเลี้ยงนิดหน่อย ฮารุไปคนเดียวได้ไหม”

“อ้อ ได้สิ”

ทั้งฮีโระและมุนอา ต่างก็มีธุนะต้องไปทำ และแล้ววันนี้ฉันก็ได้ไปดูรุ่นพี่ซ้อมบาสที่โรงยิมคนเดียว จริงๆแล้วฉันน่าจะดีใจมากกว่าที่รุ่นพี่อยากให้ฉันไป แต่ว่าตอนนี้ทำไมในหัวของฉันกลับคิดแต่เรื่องของฮีโระมากมายกันนะ ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ฉันจะพบเขา รุ่นพี่เป็นเพียงคนเดียวที่ฉันเฝ้ามองและคิดถึง ไม่ ไม่ ไม่ ยังไงซะรุ่นพี่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เราชอบ สำหรับฮีโระเพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉันและเป็นเพราะอีกไม่นานเขาก็ต้องไปจากที่นี่ฉันถึงได้คิดถึงเขาต่างหากล่ะ

“ฮารุ เป็นอะไรรึปล่าว โกรธพวกเราที่ไม่ไปด้วยเหรอ”

“เอ๋ ปะ ปล่าวนะ ไม่ได้โกรธสักหน่อย”

“มัวแต่เหม่อลอยแบบนี้จะไหวหรือเปล่าเนี่ย”

ฮีโระพูดขึ้น

“เอาน่า ฉันไม่เป็นไร พวกเธอกลับกันเถอะมีธุระนี่นา ฮีโระอย่าลืมไปส่งมุนอาด้วยนะ”

“ได้ครับคุณผู้หญิง ผมจะทำตามคำสั่งทุกอย่างเลย”

ฉันร่ำำลากับฮารุและมุนอาแล้ว เดินไปที่โรงยิมเพียงลำพัง ที่โรงยิมรุ่นพี่กับเพื่อนๆกำลังเริ่มซ้อมบาสกัน ข้างบนสแตนนี้นอกจากฉันแล้วยังมีแชวอนและเพื่อนๆของเธอที่ปกติก็มักจะมาที่นี่ประจำอยู่แล้ว พวกเธอไม่วายที่จะส่งสายตาแห่งความไม่พอใจมาที่ฉันอยู่เสมอ และอีกมุมหนึ่งของสนามฉันเห็นซอลฟานั่งอยู่ เมื่อเธอเห็นฉันจึงลุกขึ้นและเดินมาหาฉัน

“วันนี้มาคนเดียวเหรอคะ รุ่นพี่ฮีโระกับรุ่นพี่มุนอาละคะ”

ซอลฟาลุกมานั่งข้างๆฉัน

“พวกเขาไม่ว่างกันน่ะ แล้วซอลฟาล่ะวันนี้ไม่มีซ้อมเหรอ”

“ซ้อมทุกวันค่ะ แต่วันนี้อยากเห็นหน้ารุ่นพี่ฮารุก่อนแล้วค่อยไป”

เธอพูดแล้วหันมายิ้มให้ฉัน

“อยากเจอหน้าฉันเนี่ยนะ”

“อื้ม ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ฉันอยากจะมีพี่สาวแบบพี่ มีเพื่อนๆที่คอยเข้าใจ และที่สำคัญรุ่นพี่ก็มีรุ่นพี่ฮีโระคอยดูแลตลอดเวลาด้วย ฉันว่าพี่ฮีโระต้องชอบพี่แน่ๆเลยล่ะค่ะ พี่ดูไม่ออกเหรอ”

“ฮะๆ ฮีโระเนี่ยนะ ไม่หรอกน่า พวกเราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ว่าแต่ซอลฟาคงไม่ค่อยมีเพื่อนสินะ”

“ใครๆต่างก็พากันคิดว่าฉันเป็นคนหยิ่ง ดูเป็นคุณหนู และคงไม่น่าคบสักเท่าไหร่ ฉันก็เลยมีแค่กีต้าร์ตัวนี้เป็นเพื่อนเท่านั้นแหละค่ะ แต่จริงๆแล้วฉันก็แอบเป็นขาลุยนะคะ เอาจริงๆฉันก็ไม่ได้หวานแหววและสำอางค์ขนาดนั้น ออกจะแมนด้วยซ้ำ ฮึ๊บ”

ซอลฟาทำท่าเบ่งกล้ามจากแขนเล็กๆขาวๆของเธอ ยังไงซะเธอก็ดูเป็นลูกหนู แต่ต่างออกไปตรงที่ตอนนี้เธอดูเข้าหาง่ายและเป็นคนที่น่าคบคนหนึ่ง

หลังจากที่ถึงเวลาพัก รุ่นพี่วิ่งขึ้นมาที่บนสแตนที่ฉันและซอลฟานั่งอยู่ ตอนนี้รุ่นพี่มีเหงื่อท่วมตัวและดูเหมือนจะเหนื่อยมากๆ ซอลฟาหันไปยิ้มและกล่าวทักทายกับรุ่นพี่ แต่ไม่รู้เพราะว่าไม่ทันได้สังเกตหรืออะไร รุ่นพี่ไม่ได้ทักทายตอบกับซอลฟาแม้แต่น้อย

“อ่าว สองคนนั้นไม่มาเหรอ แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า วันนี้ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”

รุ่นพี่มานั่งข้างๆฉันและถามฉันด้วยความเป็นห่วง แต่ฉันทำได้เพียงสายหน้าเบาๆและหลบสายตาที่ต้องการคำตอบนั้น เพราะตอนนี้ฉันเองก็รู้สึกสับสนมากมาย มีบางอย่างที่ฉันรู้สึกว่ามันค้างคาอยู่ในใจเกี่ยวกับฮีโระแต่ฉันนึกมันไม่ออกจริงๆ

“สองคนนั้นไม่อยู่ เดี๋ยวฉันดูแลรุ่นพี่ฮารุเองก็ได้ค่ะ”

ซอลฟาพูดอะไรมาด้วยหน้าตาน่ารัก แต่รุ่นพี่ก็ยังคงทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด

“มีอะไรก็บอกกันบ้างก็ได้นะ เห็นฮารุเป็นแบบนี้เหมือนผมจะช่วยอะไรฮารุไม่ได้เลย”

“ไม่นะคะ นี่ไม่ใช่ความผิดของรุ่นพี่ ฉันแค่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ แต่ว่า... ฉันก็ไม่อยากจะเห็นรุ่นพี่ต้องเศร้าเพราะฉันหรอกนะคะ ฉันอยากเห็นรุ่นพี่ที่มีแต่รอยยิ้มเหมือนเคยค่ะ” ^^

ฉันพูดกับรุ่นพี่และยิ้มออกมา ใช่แล้วล่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของฉัน ฉันไม่ควรจะแสดงมันออกมาให้รุ่นพี่ได้รับรู้และไม่สบายใจไปกับฉัน

“เอ่อ รุ่นพี่ฮารุคะ ฉันต้องกลับแล้วไว้เจอกันใหม่นะคะ”

ซอลฟาตัดบทด้วยการบอกลาโดยที่ไม่ได้ยิ้มออกมาเหมือนเคย เธอเก็บกระเป๋ากีต้าร์แล้วรีบเดินออกไปโดยไม่ร่ำลารุ่นพี่ด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าเธอคงจะงอนรุ่นพี่เอาซะแล้ว

“ฉันคิดว่าซอลฟาน่าจะงอนรุ่นพี่แล้วนะคะ ทำไมถึงไม่คุยกับเธอบ้าง”

ฉันถามด้วยความสงสัย นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เห็นว่ารุ่นพี่เมินกับเธอ

“วันนี้หลังซ้อมเสร็จแล้วจะเดินไปส่งกลับบ้าน ห้ามปฏิเสธด้วย”

รุ่นพี่เปลี่ยนเรื่องพูดและลุกไปซ้อมต่อ ฉันจึงทำได้แต่พยักหน้ารับ แม้ว่าจะสงสัยมากแต่ฉันก็ไม่ควรจะคิดมากนี่นา คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง รุ่นพี่ก็คงมีเหตุผลของรุ่นพี่นั่นแหละ เพียงแต่ว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกสงสารซอลฟาขึ้นมานะ มีความรู้สึกแปลกๆบางอย่างเกิดขึ้น นี่ฉันคิดอะไรหลายเรื่องมากเกินไปหรือเปล่านะ ต้องมีสติๆ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่จะได้กลับบ้านพร้อมกับรุ่นพี่ก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่จะได้กลับบ้านกับรุ่นพี่ ฉันนั่งดูการซ้อมจนเสร็จรุ่นพี่ก็รีบเก็บของและวิ่งขึ้นมาหาฉัน เราเดินออกจากโรงยิมและเดินกลับบ้านด้วยกัน แม้ว่าทางกลับบ้านของรุ่นพี่จะอยู่คนละทางกันกับฉัน แต่รุ่นพี่ก็ยังยืนยันที่จะมาส่งให้ได้

“เอ่อ ฮารุ รู้มั้ย สิ่งสำคัญของการเป็นนักกีฬาของ....ผม คืออะไร”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินรุ่นพี่เรียกชื่อของฉัน และเขาก็เรียกตัวเองว่าผมด้วย รุ่นพี่พูดออกมาในขณะที่หน้าของเขาก็เหมือนจะแดงนิดหน่อย และหัวใจของฉันก็พองโตเช่นกัน

“ไม่รู้สิคะ คืออะไรเหรอ”

ฉันตอบเพราะความไม่รู้จริงๆ

“การแข่งขันซึ่งผมต้องชนะให้ได้ นั่นคือเป้าหมายของผมทั้งในการเล่นกีฬาและชีวิตจริง ดูเหมือนน่ากลัวใช่ไหมล่ะ”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของรุ่นพี่มากกว่าที่จะเป็นความน่ากลัว”

รุ่นพี่มองฉันและยิ้มออกมาอย่างเขินๆ

เฮ้อ... รู้สึกเหมือนพักนี้ตัวเองแปลกๆไปยังไงก็ไม่รู้แฮะ”

รุ่นพี่พูดพร้อมกับเกาหัวตัวเองเบาๆ

“แปลก... ตรงไหนเหรอคะ”

ฉันหันไปถามรุ่นพี่ ตอนนี้รุ่นพี่ได้แต่หลบตาฉัน

“จู่ๆก็รู้สึกว่า อยากจะทำอะไรบางอย่างให้ใครสักคน ทั้งๆที่เคยคิดมาตลอดว่า...จะไม่มีวันชอบเธอ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้และเวลานี้ผมอยากให้ผมมีคนๆนั้นยืนอยู่ข้างผมแบบนี้ตลอดไป เอ่อ... น่าตลกใช่ไหม”

จู่ๆขาของฉันก็ก้าวไม่ออกซะอย่างนั้น ฉันหยุดเดินอย่างอัตโนมัติ คำพูดของรุ่นพี่ทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก เหมือนคนที่ไม่ได้หายใจไปชั่วขณะ ฉันทำได้เพียงแค่หลบสายตาของรุ่นพี่ที่หันมามองฉัน พร้อมกับคำพูดที่ทำให้ฉันอึ้งอีกครั้ง

“ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”

( “ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”)

(“ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”)

(“ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”)

................................................................................................................................................................................

เสียงของรุ่นพี่ยังคงดังก้องอยู่ในความคิดของฉัน ฉันไม่แน่ใจฉันฟังผิดหรือมันเป็นความจริง เพราะตั้งแต่วินาทีนั้น ฉันก็รู้สึกเหมือนล่องลอยและไม่รู้ตัว จนมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง เป็นวินาทีที่ฉันไม่สามารถให้คำตอบอะไรกับรุ่นพี่ได้

“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากได้ยินข่าวดีเร็วๆนี้นะ แล้วเจอกัน”

ประโยคสุดท้ายที่รุ่นพี่บอกกับฉันก่อนที่จะทำท่าเขินๆและวิ่งกลับไป ทิ้งให้ฉันยืนงุนงงกับคำพูดของรุ่นพี่จนถึงตอนนี้ นี่ฉันคงไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย ฉันลองหยิกตัวเองดู

“โอ๊ย... เจ็บจัง นี่ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย”

กว่าที่ฉันจะรู้สึกตัวก็เกิดรอยช้ำเล็กๆจากการบิดแขนตัวเองซะแล้ว จู่ๆรอยยิ้มที่ไม่ได้พบพานมานานก็เกิดขึ้นกับฉัน ไม่สิ ฉันคิดว่าฉันน่าจะยิ้มตั้งแต่ตอนที่รุ่นพี่บอกกับฉันแล้ว แต่ว่าฉันอาจจะไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง

ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่นอนกอดหมอนและกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างนั้น ความดีใจมันแสดงออกมายากจริงๆ ตอนนี้หัวใจของฉันยังคงเต้นแรงราวกับว่ามันจะทะลุออกมาข้างนอกยังไงยังงั้น แต่ก่อนที่ฉันจะดิ้นให้ความสุขของฉันกระจายเต็มพื้นที่ ฉันรู้สึกถึงพลังความเย็นบางอย่างกำลังมาเยือนใกล้ๆฉัน

“ฮึก!!!!!!! นั่น นั่น ใครอ๊ะ????”

ฉันตกใจอย่างสุดขีดเลยเขวี้ยงหมอนที่กอดไว้ไปที่หน้าต่างซึ่งมีเงาของใครคนนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ใครคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมที่มีฮุทอยู่ด้านนอกหน้าต่างที่ตอนนี้สลัวๆเพราะค่ำแล้ว เขาค่อยๆขยับมือของเขาและเปิดหมวกฮูทออก

“ฮี... ฮีโระ ” *O*

“ใช่ ผมเอง” ^^:

ฉันรีบลุกจากเตียงและเปิดหน้าต่างออก

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เอ่อ คงไม่ได้เห็นฉันทำอะไรแปลกๆใช่มั้ย”

“อื้ม ผมก็ไม่เห็นว่าฮารุจะทำอะไรแปลกๆนะ นอกจากนอนกอดหมอนดิ้นไปดิ้นมา ฮ่า”

ฮีโระหัวเราะซะทำเอาฉันไม่รู้จะทำหน้ายังไง ไหนบอกว่าไม่เห็นอะไรไงเล่า แล้วเขาก็ชวนฉันออกไปนั่งดูดาวข้างนอก เพราะเขาบอกว่าเขาได้ข่าวว่าวันนี้จะมีฝนดาวตกในรอบสิบปี

ฮีโระชวนฉันมานั่งดูดาวที่สนามหน้าบ้านของเขา ฉันเดินไปนั่งชิงช้าสีขาวที่ฉันเคยเห็นเมื่อคราวก่อน มันมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเล็กน้อยเพราะมันค่อนข้างอายุมากแล้ว ฮีโระเดินมานั่งชิงช้าอีกตัวข้างๆฉัน เวลาที่ฉันได้อยู่กับฮีโระมันเป็นช่วงเวลาที่ฉันสบายใจที่สุดเท่าที่ฉันรู้สึกมา ตอนนี้ฉันเพิ่งคิดและตระหนักได้ว่าฉันไม่ได้สับสนว่าฉันชอบฮีโระหรือปล่าว แต่ฉันคิดว่ามันเป็นความห่วงใยในฐานะเพื่อนระหว่างฉันกับฮีโระมากกว่า และฉันก็คาดหวังเพียงสิ่งเดียวว่าฮีโระจะเป็นเพื่อนที่ดีของฉันตลอดไป

“เล่นจ้องหน้ากันแบบนี้ ผมก็เขินนะ แอบคิดอะไรไม่ดีกับผมหรือเปล่าเนี่ย”

“เอ่อ เปล่านะ เพียงแต่ว่า...”

“เพียงแต่ว่าอะไรเหรอ???”

ฉันจะบอกเขาไปดีมั้ยว่าบางครั้งฉันก็แอบคิดว่าเขาชอบฉัน และบางทีฉันก็สับสนตัวเอง ทั้งๆที่ตลอดมาฉันแน่ใจว่าคนที่ฉันชอบมีเพียงรุ่นพี่คนเดียวเท่านั้น และมาจนถึงวันนี้ “ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย” คำพูดของรุ่นพี่ก็ทำให้ฉันแน่ใจตัวเองว่า ยังไงคนที่ฉันชอบก็คือรุ่นพี่แน่นอน

“คือว่า ฉันของถามอะไรฮีโระได้มั้ย”

“ได้สิ ผมจะตอบฮารุทุกข้อเลย”

“คือ... ฉันก็แค่คิดนะ แต่ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้อง ฉัน... ฉันอยากรู้ว่า... ฮีโระชอบฉันหรือปล่าว”

“ห๊ะ...... ”

ฉันพูดมันออกไปแล้ว ความคิดที่อัดอั้นอยู่ในใจฉันมาเนิ่นนาน ยิ่งตอนที่อยู่โรงยิมที่ซอลฟาพูดขึ้นมาก็ยิ่งทำให้ฉันเอาเก็บไปคิดมากขึ้น เพราะฉะนั้นฉันต้องถามให้มันกระจ่างแล้วฉันจะได้ไม่ต้องเอาเก็บมาคิดมากอีก แต่คนที่ช๊อคกับคำถามฉันสุดๆคงหนีไม่พ้นฮีโระที่ตอนนี้แปลกใจกับคำถามของฉัน (ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ)

“เอ่อ...คือ... จะว่าไงดีนะ....”

“จริงๆแล้ว ฮีโระไม่ได้ชอบฉันหรอกใช่มั้ยล่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะฉันไม่โกรธหรอก ใช่มั้ยๆ”

“เอ่อ... จะบ้าเหรอ ก็ใช่น่ะสิ ผม...ผมจะไปชอบฮารุได้ยังไงกัน ถ้าผมไม่เพี้ยนละก็นะ ผมคงไม่ไปชอบผู้หญิงที่มีคนอื่นในใจแล้วแบบฮารุหรอก อีกอย่างผมก็มีคนที่ผมชอบและเขาก็ชอบผมอยู่แล้วด้วย”

“นั่นน่ะสิเน้าะ อีกอย่างเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆๆๆด้วยนี่นาเน๊าะ”

ฉันพูดขึ้นมาอย่างโล่งอก สุดท้ายฉันก็ไขคำตอบให้กับความอัดอั้นใจที่ฉันคิดขึ้นมาเองได้แล้ว ฉันนี่คิดเองเออเองจริงๆด้วย

“เอ๊ะ หรือว่าคนที่ฮีโระชอบและคนที่ชอบฮีโระคือ มุนอาเหรอ ใช่หรือปล่าว”

ฉันรีบถามเพราะความอยากรู้ ต้องใช่แน่ๆตอบสิว่าใช่

“นั่นๆ ฝนดาวตกนี่ อธิษฐานเร็ว”

ฮีโระรีบตะโกนบอกฉัน ก่อนที่ฉันจะได้ถามเขาต่อ กลับกลายเป็นว่าฉันลืมถามเขาซะสนิทและเอาแต่คิดว่าฉันจะอธิษฐานอะไรดีนะ

“ขอให้ครอบครัวของฉัน มุนอา ฮีโระ และรุ่นพี่ ขอให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแบบนี้ตลอดไปด้วยเถอะ”

ฉันหลับตาอธิษฐานออกมาเบาๆ และเมื่อฉันลืมตาขึ้น บนท้องฟ้ายังมีในดาวตกเกิดขึ้นเรื่อยๆเป็นภาพที่สวยงามมากๆ

“ดีกว่านอนกอดหมอนกลิ้งอยู่บนเตียงเยอะเลยใช่มั้ยล่ะ”

“ฮีโระเนี่ย”

ฉันใช้กำปั้นสีไหล่ของฮีโระๆเบาๆด้วยความเขิน ก่อนที่จะเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้นให้เขาฟัง เขานั่งฟังฉันอย่างตั้งใจและยินดีกับฉันแถมยังบอกให้ฉันรีบๆตอบรับก่อนที่รุ่นพี่จะเปลี่ยนใจอีกด้วย หลังจากฝนดาวตกเริ่มน้อยลงแล้วฮีโระก็เดินมาส่งฉันที่บ้าน

“งั้นพุร่งนี้เจอกันนะ ถ้าตื่นสายผมไม่รอแน่”

ฮีโระขู่ฉันก่อนที่จะเดินหันหลังจากไปพร้อมกับโบกมือให้ฉัน ฉันปิดประตูลงและกลับมาที่ห้องด้วยความสบายใจ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าการคิดไปเองมันจะทำให้คนเราอึดอัดถึงขนาดนี้ ถ้าหากว่าฉันเข้าใจตัวเองและเข้าใจฮีโระมากกว่านี้ละก็ก่อนหน้านี้ฉันก็คงไม่ต้องมาอึดอัดแบบนี้ ฉันลุกไปปิดหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้เมื่อตอนที่ฮีโระมาเรียก ท่ามกลางแสงพระจันทร์ที่ส่องลงมาอย่างเลือนลาง ฉันแอบเห็นเงาของฮีโระผ่านความมืดมิดนั้น ทำไมเขายังไม่เข้าบ้านกันนะ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 10 คำอธิฐานใต้แสงดาว

“ วันนี้ผมไม่ว่างไปโรงยิมกับฮารุนะ ให้มุนอาไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้ ” “เอ่อ คือพอดีวันนี้ฉันก็ไม่ว่างเหมือนกันน่ะ ที่บ้านจะมีงานเลี้ยงนิดหน่อย ...
เมื่อวานหลังจากที่ฉันหาหนังสือการบ้านแล้ว ฉันก็เจอฮีโระระหว่างทางเข้า เขารีบถามฉันใหญ่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่ฉันก็บอกเขาไปเพียงแค่ว่าไม่มีอะไร หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปที่โรงยิมพร้อมกัน ซอลฟาที่นั่งรออยู่แล้วกำลังกวักมือเรียกให้พวกเราให้ไปนั่งที่นั่น

“รุ่นพี่ฮารุ ชอบมาดูรุ่นพี่ชินเล่นบาสบ่อยๆใช่มั้ยละคะ”

ซอลฟาถามฉันในขณะที่กำลังนั่งดูรุ่นพี่

“เอ่อ ที่จริงฉันก็แค่ชอบบาสด้วย ฮะๆ”

อาจจะเป็นคำตอบที่พอไถๆถูไปได้ละมั้ง ถึงแม้ว่าฉันจะชอบรุ่นพี่มากๆแต่ว่าฉันก็ไม่ได้อยากให้ใครมารับรู้ แล้วฉันก็รู้สึกแปลกๆกับเธอเกินกว่าจะที่ฉันจะบอกความจริงออกไปได้

“รักใครชอบใคร ก็บอกเขาไปเถอะค่ะ ความรักจะสมบูรณ์ต้องเกิดจากความเข้าใจจากคนสองคนนะคะ”

ซอลฟาพูดด้วยใบหน้าที่ดูสดใส และดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจความรักมากกว่าฉันซะอีก

“เธอเอง ก็คงกำลังมีความรักเหมือนกันสินะ”

“จะว่ามีก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เพราะฉันทุ่มเททุกอย่างให้กับการร้องเพลงและเล่นกีต้าร์เท่านั้น และถึงแม้ว่าอยากจะมีความรักมากแค่ไหน บางทีมันก็อาจจะเป็นไปไม่ได้”

ซอลฟาพูด และถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่าความรักสำหรับเธอคงจะเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้สินะ

“บางที สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ ถ้าเกิดว่าเราได้ลองทำมันสักครั้ง”

ฉันบอกซอลฟาอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าฉันเองจะสามารถทำอย่างนั้นได้หรือปล่าว แต่แค่ตอนนี้ฉันสามารถเข้าใกล้รุ่นพี่ได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว

“อืม... ดูๆไปแล้ว ฉันน่าจะฮึดเหมือนรุ่นพี่บ้างแล้วล่ะค่ะ เพราะแม้ว่าจะเป็นโอกาสแค่น้อยนิด แต่นั่นก็อาจจะเป็นโอกาสที่เข้ามาหาเราก็ได้ จริงไหมคะรุ่นพี่ฮีโระ”

“แค่ก แค่ก”

จู่ๆฮีโระที่กำลังกินน้ำอยู่ ก็เกิดสำลักน้ำขึ้นมา

“พูดอะไรของเธอ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

ซอลฟาหัวเราะออกมาที่เห็นฮีโระตกใจสำลักน้ำ ยิ่งดูใกล้ๆและได้พูดคุยกับเธอมากขึ้น ก็ทำให้รู้ว่าเธอเป็นคนที่น่ารัก ฉันเคยคิดว่าเธอน่าจะหยิ่ง หรือน่าจะไม่สนใจใคร แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่เข้าคนง่าย และดูเป็นมิตรมากๆ เธออาจจะไม่เป็นอย่างที่ฉันอคติก็ได้ พวกเรานั่งคุยกันได้สักพัก ซอลฟาก็ขอตัวไปซ้อมดนตรี เพราะอีกไม่นานเธอจะต้องไปแสดงในงานอะไรสักอย่าง ฉันและฮีโระหลังจากที่ดูรุ่นพี่ซ้อมบาสเสร็จ แต่ว่าน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเพราะหลังจากซ้อมเสร็จชมรมบาสก็มีประชุมกันต่อ

“น่าเสียดายนะที่รุ่นพี่ไม่ได้มาส่งที่บ้าน”

ฮีโระพูดแซวฉันขึ้นเมื่อเดินกลับได้สักพัก

“ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะ”

“แต่ก็เอาเถอะนะ อย่างน้อยระยะห่างระหว่างรุ่นพี่กับฮารุน้อยลงเรื่อยๆแล้ว ทุกๆอย่างจะดีขึ้นในไม่ช้านะ สู้ๆ”

ฮีโระหันมาฟึดฟัดให้ฉันสู้ บางทีฉันก็รู้สึกเหมือนว่าได้เคยรู้จักกับฮีโระมาเนิ่นนาน ทำไมเราถึงคุ้นเคยกันได้เร็วขนาดนี้ เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่ฉันยังคงนั่งทบทวนทุกวันๆ แต่ก่อนที่ฉันจะทันได้คิดเรื่องพวกนี้ต่อ ฮีโระก็พูดบางอย่างขึ้น

“มาวิ่งแข่งกันเถอะ ใครวิ่งช้าขอให้ผีหลอก หนึ่ง สอง ไป๊”

หลังจากพูดจบ ฮีโระก็วิ่งนำโด่งออกไป และอย่างที่คาดคิดฉันจะไปวิ่งแข่งกับคนที่ทั้งสูง แถมยังขายาวขนาดนั้นได้ยังไงกัน

“ฮีโระ รอฉันด้วยยยยยย”

หลังจากนั้นเวลาสี่ทุ่มก็มีข้อความจากฮีโระเข้ามา “Hero message: ทุกอย่างจะดีขึ้น Fighting”

................................................................................................................................................................................

รุ่งเช้าวันนี้ชั้นตื่นสายอีกแล้ว ฉันแต่งตัวแล้วรีบพุ่งออกมาจากบ้าน แต่โชคดีที่วันนี้ฮีโระมารอฉันที่หน้าบ้าน ทำไมฉันต้องกลัวด้วยนะว่าฮีโระจะไปโรงเรียนก่อนฉันและทิ้งให้ฉันเดินไปโรงเรียนคนเดียว ทั้งๆที่เมื่อก่อนฉันก็ไปโรงเรียนคนเดียวตลอด หรือเพราะความเคยชิน พอวันไหนที่ต้องเดินคนเดียวก็เลยเหงา

ในช่วงบ่ายของวันนี้พวกเรามีเรียนรวมวิชาพละซึ่งฉันไม่ชอบเอามากๆ แต่ก็จำเป็นต้องเรียน ฉันและมุนอาไปที่ล็อคเกอร์ใส่ของเพื่อเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน แต่เมื่อฉันเปิดล๊อคเกอร์ก็ต้องใจหายวาบ ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีใครสามารถเปิดล็อคเกอร์ของฉันได้

“มีอะไรเหรอฮารุ ของหายหรืออะไร”

มุนอาเดินมาหาฉันในขณะที่ฉันกำลังยืนจ้องล็อคเกอร์ของตัวเอง กระดาษแผ่นเล็กๆนับร้อยๆแผ่นร่วงหล่นจากล๊อคเกอร์ ทุกแผ่นล้วนเป็นคำสาปแช่งจากคนๆนั้น คนที่บอกให้ฉันเลิกยุ่งกับเขา แม้ก่อนหน้านี้ฉันจะไม่ค่อยใส่ใจกับการกระทำต่างๆ แต่พอมาถึงวันนี้ ฉันเริ่มรู้สึกหนาวเย็นและคิดว่าความน่ากลัวคงเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ

“นี่มัน... บ้าไปแล้ว ไม่เป็นไรนะฮารุ”

มุนอารีบเก็บและขยำกระดาษพวกนั้นทิ้งก่อนที่คนอื่นๆจะมาเห็นมันเข้า เธอเข้ามาเขย่าตัวฉันในขณะที่ใช้ความคิดอย่างมากว่าคนที่ทำแบบนี้ได้คือใคร ฉันเริ่มอยากรู้ตัวตนของคนที่ทำแบบนี้มากขึ้นซะแล้วล่ะ

...คาบพละ...

“มีอะไรรึปล่าว สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะฮารุ”

ฮีโระซึ่งกำลังวิ่งมาหาฉันในขณะที่เรากำลังวอร์มร่างกายกันอยู่

“ปล่าว ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่วันนี้อาจารย์จะให้เล่นบาสนี่นา ฮีโระไปวอร์มเถอะ”

“อ้อ อื้ม งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ”

“เอาละนักเรียนวอร์มร่างกายให้พร้อมนะ คาบพละวันนี้เราจะมีการแข่งขันบาสชายกัน นักเรียนหญิงเป็นกองเชียร์ ก่อนอื่นเราจะมาแบ่งเป็นสองทีม ยืนเรียงแถวตามลำดับความสูง นับ 1 และ 2 สลับกันไป ใครได้หนึ่งแยกแถวออกมา”

หลังจากที่เราได้แบ่งทีมกันเรียบร้อย ฉันกับฮีโระนับ 1 เราจึงได้อยู่ทีมเดียวกัน ส่วนมุนอานับ 2 เธอจึงได้อยู่อีกทีมหนึ่ง แต่ฉันคิดว่าเธอคงอยากนับได้เลข 1 มากกว่า เพราะเธอเอาแต่เอะอะว่าทำไมเธอถึงไม่นับลงเลข 1

ทีมนับ 1 ตอนนี้ถูกแบ่งชายหญิงเพื่อแยกหน้าที่กัน นร.หญิงกำลังนัดแนะกันเกี่ยวกับการเชียร์ ส่วนนร.ชายกำลังคัดตัวคนที่จะแข่งขันและแน่นอนว่าด้วยความสูงและรูปร่างที่เหมาะกับการเล่นกีฬาของฮีโระ เขาถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน

“คิดว่าผมเป็นรุ่นพี่สักชั่วขณะหนึ่งก็ได้นะ ฮารุจะได้มีแรงที่อยากจะเชียร์ผมบ้าง” ^^:

ฮีโระวิ่งมาหาฉันขณะที่วอร์มเสร็จก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มเล็กน้อย

“ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือเป็นฮีโระฉันเต็มใจจะเชียร์อยู่แล้วล่ะน่า แถมด้วยคนที่อยู่ทีมนับ 2 ก็อยากจะเชียร์ฮีโระด้วยนะ”

ฉันหันหน้าไปทางสแตนด์ของทีมนับ 2 ซึ่งมีมุนอาอยู่ที่นั่น และชัดเจนว่าสายตาของเธอนั้นคงตามติดแต่ฮีโระอย่างแน่นอน

“ยังไงผมก็จะพยายามไม่ให้น้อยหน้ารุ่นพี่ละกัน”

พูดจบฮีโระก็วิ่งเข้าไปในสนามขณะนี้ กรรมการกำลังเป่านกหวีดให้นักกีฬามารวมตัวกันที่สนามประจำตำแหน่งของตนเอง

น่าแปลกสนามที่มีผู้เล่นถึง แต่คนที่โดดเด่นมากที่สุดคือฮีโระ ฉันเพิ่งมองเห็นเป็นครั้งแรกว่าเขาเป็นคนที่ดูดีมากเมื่อได้เล่นกีฬา ไม่ใช่เพราะความสนใจส่วนตัวเหมือนมุนอา แต่ฉันคิดว่าในเวลานี้เขาดูดีและดูเด่นไม่แพ้รุ่นพี่เลยทีเดียว ทั้งความคล่องแคล่วและไหวพริบ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฮีโระจะเล่นบาสเก่งมากขนาดนี้ เขาแตกต่างจากฮีโระที่ฉันรู้จัก ไม่มีรอยยิ้มที่ขี้เล่นอยู่ในนั้น แต่กลับกลายเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจเล่นอย่างมาก ฮีโระหันมายิ้มให้ฉันในขณะที่เขาได้ลูก จู่ๆสายตาและหัวใจของฉันก็จดจ่ออยู่กับฮีโระโดยที่ไม่รู้ตัว ตึกตัก ตึกตัก ทำไมนะบางขณะฉันแทบหยุดหายใจเมื่อฮีโระได้ลูก ทำไมฉันต้องแอบลุ้นอยู่ในใจลึกๆว่าอยากให้เขาทำแต้ม มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เป็นภาพซ้อนของรุ่นพี่เหมือนครั้งอื่นๆแต่ตอนนี้ฉันเห็นฮีโระที่เป็นฮีโระ เขาเป็นคนที่โดดเด่นและน่าสนใจกว่าคนอื่นๆในสนาม ฉันหวังว่านี่จะเป็นเพราะฉันลุ้นกับการแข่งของทีมตัวเองมากเกินไปเท่านั้น ฮีโระเป็นเพื่อนของฉันและเป็นคนมุนอาชอบ ส่วนคนที่ฉันชอบเพียงคนเดียวคือรุ่นพี่ ได้โปรดอย่าสับสนไปมากกว่านี้เลยนะ

ปี๊ดดดดด~~

การแข่งขันได้จบลงแล้ว และผลที่ออกมาก็คาดเดาได้อย่างง่ายดาย ทีมนับ 1 เอาชนะไปได้ ตอนนี้ฮีโระกลายเป็นคนที่รับความสนใจอย่างมาก เพราะออร่าของเขาเปล่งประกายมากเหลือเกินขณะที่แข่ง

“ครูไม่คิดว่าเธอจะเล่นบาสได้ดีขนาดนี้นะฮีโระ เสียดายที่เธอเป็นแค่นักเรียนแลกเปลี่ยน ถ้าเธอย้ายมาประจำที่นี่ครูจะดันให้เธอกลายเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและคงดันไปให้ไกลกว่านี้”

“ผมไม่ได้สนใจขนาดนั้นหรอกครับอาจารย์ ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมชอบและทำเพื่อคนที่ชอบมัน”

ฮีโระพูดขณะหันมามองที่ที่ฉันและมุนอายืนอยู่

“นั่นฮีโระคงไม่ได้หมายถึงฉันหรอกใช่มั้ย ฮารุ”

มุนอาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากฉันพูดขึ้น ฉันได้เพียงแต่ยิ้มน้อยๆเพราะตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฮีโระพูดหมายถึงใคร แต่เมื่อฉันได้ยินประโยคที่บอกว่านักเรียนแลกเปลี่ยนมันทำให้ฉันใจหายมาก ฉันลืมไปซะสนิทว่าฮีโระไม่ใช่นักเรียนของที่นี่ เขามาเพียงแต่เทอมเดียว

“ฮีโระนายสุดยอดมากเลย ฉันไม่คิดว่านายจะเก่งมากขนาดนี้นะเนี่ย”

“ฉันก็เพิ่งเห็นประกายออร่าที่ออกมาจากนายก็ตอนที่นายลงสนามนี่ล่ะ เฮ๊อ ทำยังไงดีล่ะ นายทำเอาพวกเราแทบคลั่งเลยนะ”

พวกเพื่อนๆทั้งชายและหญิงกำลังรุมล้อมฮีโระพวกเขาต่างชื่นและทึ่งกับความสามารถของฮีโระมากๆ ฮีโระปลีกออกมาจากเพื่อนๆเหล่านั้นและมุ่งตรงมาหาฉันและมุนอา

“แล้วฮารุล่ะจะไม่ชมผมหน่อยเหรอ ผมพยายามเต็มที่เลยนะ ฮารุมองเห็นหรือปล่าว”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บวกกับการเต๊ะท่าเหมือนกับว่าเขาเป็นนักบาสที่เก่งที่สุดในโลกของฮีโระทำเอาฉันอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ผมเก่งขนาดนี้ ฮารุยังจะหัวเราะอีกเหรอ”

เขาเอามือมาจับที่หัวของฉันและขยี้ผมของฉันเบาๆ จนฉันต้องยอมยกนิ้วและบอกเขาว่าฉันในเห็นในความสามารถที่ซ่อนในตัวเขาอย่างชัดเจน และบอกเขาว่าตอนที่เล่นบาส ฉันรู้สึกเหมือนเขามีแสงสว่างออกมารอบๆตัว แถมยังติดปีกบินได้อย่างคล่องแคล่วซะด้วย

“อย่าลืมว่าฉันก็ยังยืนอยู่ที่นี่ด้วยทั้งคนนะ ทำไมพวกเธอเห็นฉันแค่เป็นตอไม้แบบนี้ล่ะ สนใจฉันบ้างสิ”

มุนอาดูสีหน้าไม่ค่อยดีจริงๆ ฉันก็ลืมตัวว่าไม่ควรหยอกล้อกับฮีโระให้เธอต้องน้อยใจ

“เอ่อ ขอโทษนะมุนอา ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

ฉันรีบเอ่ยขอโทษกับเธฮทันทีเพราะรู้ว่าเธอคงน้อยใจอย่างมาก

“มุนอานับ 2 แต่ก็แอบเผลอใจมาเชียร์ผมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ เป็นเด็กดีจังเลยนะ”

“เห็นด้วยเหรอว่าฉันสนใจเชียร์แต่ฮีโระด้วย นึกว่าไม่เห็นซะอีก ถ้าไม่เห็นละก็ฉันจะต้องรู้สึกน้อยใจมากแน่ๆ”

“โอ๋ๆ อย่าน้อยใจเลยนะเด็กน้อย”

ฮีโระใช้สองมือจับที่หัวของมุนอาจนผมของเธอยุ่งเล็กน้อย ทั้งสองคนดูสนิทกัน มุนอาสามารถพูดและแสดงความรู้สึกของเธอออกมาได้อย่างตรงๆและหวังว่ามันจะตรงใจของฮีโระด้วย

“ผมฉันยุ่งหมดเลย ฮีโระแกล้งฉันเหรอ”

“ปล่าวนะ ไหนดูสิ เอ... ผมมุนอาฟูเองนะจะมาโทษผมไม่ได้ล่ะ”

ฮีโระหยอกมุนอาเล่นจนเธอชักจะหมั่นไส้และวิ่งไล่ตีฮีโระ ดูไปดูมาพวกเขาเล่นกันเหมือนยังเป็นเด็กประถมยังไงยังงั้น ระหว่างที่วิ่งหนี ฮีโระวิ่งมาคว้ามือฉันและบอกให้ฉันวิ่งหนีมุนอากัน ระหว่างที่ฉันถูกฮีโระกระชากให้วิ่งนั้น รุ่นพี่ชินซึ่งกำลังจะเดินไปเรียนที่อีกตึกหนึ่งก็เดินสวนมาเจอพอดี

“แล้วเล่นอะไรกันอยู่ ดูท่าทางจะสนุกเชียว”

รุ่นพี่ถามขึ้นในขณะที่สายตาก็มองมาที่ฮีโระซึ่งจับข้อมือของฉันไว้อยู่ ฮีโระเองก็คงเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาจับข้อมือของฉันไว้จึงค่อยๆปล่อยมือจากฉัน

“วันนี้พวกเรามีเรียนพละน่ะค่ะรุ่นพี่ สนุกมากๆเลย”

มุนอาซึ่งอยู่ด้านหลังของฉันและฮีโระพูดขึ้น

“เหรอ งั้นวันนี้ตอนเย็นไปโรงยิมกันไหม”

“เอ่อ ค่ะ ฉันจะไปค่ะ”

ฉันตอบรุ่นพี่ไปด้วยความมั่นใจ เมื่อก่อนตอนที่ฉันได้แต่แอบมองรุ่นพี่ ฉันไม่สามารถพูดมันออกมาได้ แต่ครั้งนี้ฉันอยากจะทำมันให้ดีที่สุด อยากพูดและทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ ฉันจะพยายาม

“ถ้างั้นเจอกันที่โรงยิมนะ”

รุ่นพี่อมยิ้มแล้วเดินจากไป ส่วนฮีโระก็ขอตัวไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า มุนอากระซิบบอกฉันเบาๆ

“ฉันว่างานนี้มีลุ้นแล้วล่ะ”

“เอ๋ มีลุ้นอะไรเหรอ”

“ก็ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะเริ่มสนใจฮารุแล้วน่ะสิ”

สนใจฉันเนี่ยนะ มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เราเพิ่งได้คุยกันเมื่อไม่กี่ครั้งนี้เอง

“เพราะฉันเห็นความผิดปกติทางสายตาของรุ่นพี่ได้ เขาต้องแอบหึงฮารุกับฮีโระอย่างแน่นอนเลย”

ว่าแล้วก็หน้าแดงเหมือน “ยัยสตอเบอรี่” ซะงั้น -^^-


The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

..............................................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 9 เผลอ

เมื่อวาน หลังจากที่ฉันหาหนังสือการบ้านแล้ว ฉันก็เจอฮีโระระหว่างทางเข้า เขารีบถามฉันใหญ่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่ฉันก็บอกเขาไปเพียงแค่ว่...

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com