วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560

ฉับ ฉับ! ฉับ ฉับ! เสียงรองเท้าของฉันกระทบกับน้ำที่เริ่มนองบนสนามหญ้าหน้าบ้านที่ฮีโระเช่าอยู่ ฉันวิ่งออกมาจากบ้านโดยที่ไม่ได้พกร่มมาด้วย แม้ว่าบ้านของเราจะใกล้กันแต่ฝนที่ตกในตอนนี้ก็พอจะทำให้ฉันเปียกได้ ฉันวิ่งเข้าไปหลบฝนที่หลังคาหน้าบ้านของฮีโระ

และ แน่นอนฉันก็ไม่เคยได้เข้ามาในบ้านของคุณลุงสักครั้ง ฉันเริ่มกวาดตามองไปรอบๆ ข้างหน้าบ้านมีสนามหญ้าเขียวๆ มีชิงช้าสีขาวอยู่หน้าบานชิดรั้วด้านซ้าย ใกล้ๆกันนั้นมีพื้นไม้ยกระดับสูงขึ้นมานิดหน่อยมีโต๊ะกับเก้าอี้เอนคู่วางอยู่ด้วย เพราะคุณลุงชอบปลูกต้นไม้ที่นี่จึงมีดอกไม้และต้นไม้นานาชนิด หากตอนนี้ฝนไม่ตก ฉันคิดว่าบรรยากาศที่นี่คงจะดีกว่านี้มาก


เงาของใครบางคนผ่านสายฝนเดินเข้ามาผ่านรั้วหน้าบ้าน ใกล้เข้ามาและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ฮีโระกำลังถือร่มคันเดิมเดินเข้ามา

“ไปไหนมาเหรอ”
ฉันมองตามฮีโระที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน เขาคงไม่รู้หรอกว่าฉันนั่งยองๆหลบอยู่ที่ข้างเสาหน้าบ้าน

ฮีโระหันมามองด้วยท่าทีเฉยชา

“ก็แค่... ออกไปสูดอากาศละมั้ง”

เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าบ้านและปิดประตูดังปัง

ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านของเขา นี่เขายังไม่หายโกรธเรื่องโทรศัพท์อีกเหรอ ทั้งๆที่ฉันอุตส่าห์ได้มันคืนมาแล้วแท้ๆ ฉันกำมือถือของฮีโระไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยื่นออกไปสัมผัสกับสายฝนชุมฉ่ำ ถ้าฉันรออยู่ตรงนี้ฮีโระจะหายโกรธฉันไหมนะ

เปาะ แปะ... เปาะ แปะ...
สายฝนซาลงบ้างเล็กน้อย ตอนนี้เหลือเพียงละอองฝนเป็นฝอยเล็กๆกระจายลงมา

“ฮัดชิ้ววว” - - หวังว่าฉันคงไม่ได้จะเป็นหวัดหรอกนะ
อยู่ดีๆลมเย็นๆก็พัดเข้ามา ทำให้ฉันซึ่งยืนอยู่หน้าบ้านฮีโระตัวสั่นขึ้นมาทันที ฉันเหลือบมองไปที่ประตู ไม่มีท่าทีว่าฮีโระจะออกมาแต่น้อย

แอ๊ด… เสียงประตูเปิดออกมาเบาๆ ฮีโระคงยอมคุยกับฉันแล้วสินะ ฉันค่อยๆหันกลับไปที่ประตู

ควับ.. ผ้าขนหนูสีขาวตกลงมาใส่หัวฉันก่อนที่ฉันจะทันได้หันไปเจอฮีโระ

“มายืนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”

ฮีโระออกมายืนอยู่ข้างๆฉัน ฉันหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมเบาๆ

“ก็เห็นว่ามีคนไปตามหาฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้เจอเขา ฉันก็เลยต้องไปตามหาเขาเองน่ะสิ”

“ผม... ไม่ได้ไปตามหาใครสักหน่อยก็แค่...ออกไปเดินเล่น ก็เท่านั้นเอง”

เขาเมินหน้าจากฉัน พร้อมกับยื่นร่มให้

“ตัวเปียกหมดแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายได้ กลับเข้าบ้านเถอะ”

ฮีโระยื่นร่มให้ฉันและหันกลับจะเข้าบ้าน

“ฉันจะกลับแน่ แต่ฮีโระต้องบอกมาก่อนว่าวันนี้ฮีโระเป็นอะไร ทำไมถึงต้องทำเมินเฉยกับฉันด้วย”

ฉันพูดขึ้นก่อนที่ฮีโระจะเข้าบ้าน เขานิ่งเงียบอยู่ที่หน้าประตู เพราะฉันเป็นห่วงและไม่อยากให้เราต้องเป็นแบบนี้ต่อไป เขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉันและฉันไม่อยากให้เราเข้าใจผิดกันแบบนี้

“ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากเลย”

ฮีโระถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะหันกลับมาจับหัวฉันเบาๆ รอยยิ้มของเขาในตอนนี้
มันดูเหนื่อยล้าไม่เหมือนฮีโระคนเดิม

“ฉันมีอะไรจะให้ฮีโระดู” ฉันยื่นบางอย่างให้เขาดู ฮีโระดูตกใจเล็กน้อย

“ถ้าคืนให้ผมอีก ผมจะทำให้มันพังไปเลยคอยดูสิ”

ฮีโระพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันเชื่อว่าเขาคงทำจริงแน่ถ้าหากว่าฉันยังดื้อดึงไม่ยอมรับมันไว้

ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเขาคงอยากให้ฉันเก็บไว้จริงๆ มือถือเครื่องนี้ยังไงฉันก็คงต้องรับมันไว้สินะ

“คราวนี้ฮีโระจะทิ้งมันอีกไม่ได้แล้วล่ะ เพราะมันเป็นของฉันแล้ว ฉันจะดูแลมันเอง”

เขาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ฉันรู้ว่าเขาต้องดีใจมากแน่ๆที่ฉันรับมันไว้

“ผมคิดว่า ฮารุคงจะไม่สนใจและคงให้มุนอาไปแล้วซะอีก”

เขาเห็นตอนนั้น ตอนที่มุนอาขอโทรศัพท์เครื่องนี้จากฉัน

“ขอโทษนะที่ทำให้เธอไม่สบายใจ เลิกโกรธฉันได้แล้วนะ เด็กดี”

ฉันเขย่งขาแล้วเอื้อมเอามือไปลูบหัวเขา แม้ว่า...เขาจะสูงกว่าฉันเยอะ = =

“คงต้องดื่มนมให้สูงกว่านี้นะ ถึงจะลูบหัวผมได้”

เขาหัวเราะออกมาเมื่อเห็นฉันพยายามกระโดดเพื่อจะแตะหัวของเขา ฮีโระคนเดิมกลับมาแล้วสินะ

..............................................................................................................................................................................................................

สี่ทุ่มของวันนี้ในขณะที่ฉันกำลังจะเข้านอน มีข้อความเข้ามาในมือถือที่ฮีโระให้

“Hero message: The Begining นอนหลับฝันดีนะฮารุ ^^”

..............................................................................................................................................................................................................

รุ่งเช้าของอีกวัน ฉันรีบออกมาจากบ้านก่อนเวลา และตอนนี้ฉันก็ยืนอยู่ที่หน้าบ้านของฮีโระเรียบร้อย

“โอ๊ะ ทำไมวันนี้ถึงได้ออกมาเช้าได้ล่ะ”

ฮีโระเดินออกมาจากบ้าน ดูเหมือนเขาแปลกใจมากๆที่คนตื่นสายอย่างฉันสามารถตื่นเช้าได้

“ก็เพราะว่าถ้าฉันมาช้า ฉันอาจจะโดนทิ้งให้เดินไปโรงเรียนคนเดียวอีกนะสิ”

ฮีโระยิ้มออกมาอย่างร่าเริง

“ฮ๊า วันนี้ท้องฟ้าดูสดใสกว่าเมื่อวานจังเลยนะ สวัสดีครับท้องฟ้าและแสงแดด” ^O^

ฮีโระกางเขนของเขาออกและเงยหน้าสูดอากาศของเช้าอันบริสุทธิ์เข้าไปอย่างเต็มปอด เหมือนวันแรกที่ฉันรู้จักเขา เขากลับมาเป็นคนเดิมแล้วจริงๆ

ที่หน้าโรงเรียนรุ่นพี่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน เป็นปกติที่เขามักจะมองไม่เห็นฉัน แต่ฉันก็สังเกตได้ว่าที่กระเป๋าสะพายของรุ่นพี่มีพวงกุญแจรูปร่มแขวนอยู่ด้วย แค่นั้นฉันยิ้มออกมาได้แล้ว ฉันก้มหัวให้กับรุ่นพี่เป็นการทักทาย ก่อนที่ฉันจะทันได้เดินเข้าห้องเรียน แชวอนที่อยู่ห้องข้างก็เดินเข้ามาหาฉันอีก

“ฉันว่าฉันเตือนเธอแล้วนะฮารุ อย่าทำตัวเหมือนว่าเธอสนิทกับรุ่นพี่นัก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยนะจะบอกให้”

“ใช่ ยัยหน้าจืด ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ”

ฉันได้แต่ยืนฟังพวกแชวอนบ่นๆ พวกเธอก็คงจะชอบรุ่นพี่เหมือนที่ฉันชอบ
แต่ทุกครั้งพวกเธอก็ไม่เคยที่จะทำร้ายฉันสักนิด

“นี่ ยัยพวกขี้หวง เลิกมาป้วนเปี้ยนใกล้เพื่อนฉันได้แล้ว อย่างน้อยฉันก็คนหนึ่งละที่ไม่กลัวพวกเธอ”

มุนอาพุ่งออกมาจากห้องเมื่อเห็นว่าพวกของแชวอนกำลังล้อมหน้าล้อมหลังฉันอยู่ ในขณะที่ฮีโระซึ่งมากับฉันไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่แชวอนเดินเข้ามาหาฉัน เขาเดินเข้าห้องไปก่อนที่พวกแชวอนจะมาพูดกับฉันด้วยซ้ำ

“เธอก็อีกคน อย่ามายุ่งเรื่องของพวกฉัน นี่เป็นเรื่องของฉันกับยัยหน้าจืด ไม่เกี่ยวเธอ หลีกไป”

แชวอนผลักไหล่ของมุนอา แล้วพวกเธอก็เดินจากไปและทิ้งคำพูดไว้เพียงว่า

“ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็แค่อย่ามาใกล้รุ่นพี่ของพวกเรา พวกน่ารำคาญ”

“นี่ ยัยบ้า พวกเธอนั่นแหละที่น่าเกียจและน่าขยะแขยงที่สุด”

“มุนอา ไม่เอาน่า พอเถอะน่า”

ฉันรีบคว้าแขนมุนอาก่อนที่เธอจะวิ่งตามไปเอาเรื่องกับพวกแชวอน เธอดูเดือดร้อนเป็นฟืนเป็นไฟยิ่งกว่าฉันซะอีก

“เธอก็อย่าไปยอมพวกนั้นสิ มีอะไรก็ต้องบอกฉันนะ ฉันจะจัดการพวกนั้นให้สาสมเลยทีเดียว”

“ขอบใจนะ”

ฉันเข้าไปกอดมุนอา เธอตบไหล่ฉันเบาๆ ฉันกลับมานั่งโต๊ะของฉัน แต่มุนอากลับเดินไปโต๊ะของฮีโระ

“ทำไมฮีโระถึงไม่ช่วยฮารุตอนพวกแชวอนมาหาละ”

“ศัตรูที่แท้จริงนะ ไม่ได้อยู่ในที่สว่างหรอก คนที่อยู่ในที่มืดต่างหากละที่น่ากลัว”

ฮีโระพูดเสร็จก็มองหน้ามุนอา มุนอาเลี่ยงไปนั่งที่โต๊ะของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะเสียใจที่ฮีโระพูดแบบนั้น แต่ว่ามันก็น่าแปลกอยู่หรอก ปกติแล้วเขามักเป็นคนแรกที่จะเข้ามาคอยดูแลฉัน แต่วันนี้เขาดูเฉยๆไป ทำไมฉันถึงต้องรู้สึกเหมือนเสียใจด้วยนะ



วันนี้หลังจากเรียนคาบเช้าเสร็จพวกเราสามคนเดินไปกินมื้อเที่ยงที่โรงอาหารด้วยกันเหมือนเดิม ก่อนที่พวกเราจะกินอิ่ม รุ่นพี่ก็เดินเข้ามาเรียกฮีโระให้ไปกับเขา สักพักพวกเขาก็กลับมาพร้อมกับไอศกรีมหลากหลายรส มีทั้งรสตรอเบอรี่ ช๊อคโกแลต บานาน่า และรสนม

“รสไหนดีล่ะ”

รุ่นพี่กำลังคุยกับฉันอยู่อย่างนั้นเหรอ ฉันได้แต่นิ่งและยังไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าฉันตอนนี้คือรุ่นพี่จริงๆหรือเปล่า หรือว่าฉันเห็นภาพที่ฉันสร้างขึ้นมาเองกันแน่ รุ่นพี่ยื่นไอศครีมมาที่ฉันอีกครั้ง พร้อมกับมองไปที่พวงกุญแจร่มที่ห้อยไว้ที่กระเป๋าสะพาย เหมือนจะบอกกับฉันว่าเป็นการขอบคุณสำหรับพวงกุญแจ ฉันเรียกสติของตัวเองคืนมาอีกครั้ง และแอบเอามือหยิกแขนตัวเองแรงๆหนึ่งที ไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย

“มุนอาเอารสไหนดี”

ฮีโระหันไปถามมุนอา ทำให้ฉันสะดุ้งอีกครั้งและให้หันมองพวกเขา มันคือความจริง แล้วหน้าของฉันก็เริ่มแดงขึ้น

“ฉันอยากให้ฮีโระเลือกให้มากกว่า”

“งั้นผมเลือกให้เป็นบานาน่าดีกว่านะ คิดว่าเธอคงชอบ ส่วนผมเอารสช๊อคโกแลตละกัน”

“เอ่อ อื้มก็ดีนะ บานาน่าก็ได้ ฮะ ฮะ”

คู่นี้ดูเหมือนจะไปด้วยกันได้ดีนะ ก็ดีแล้วล่ะนะที่มุนอาจะได้มีความสุข ถึงแม้ที่ผ่านมาฉันจะเห็นเธอคลั่งรุ่นพี่หลายๆคน แต่ฉันยังไม่เห็นเธอจะจริงจังเท่าครั้งนี้และฮีโระก็เป็นคนดีด้วย

“ตกลงเอาไง สตรอเบอรี่ไหม”

“เอ่อ คะ ค่ะ...”

รุ่นพี่ยื่นไอศกรีมรสตรอเบอรี่มาให้ฉัน ฉันที่ก้ำๆกึ่งๆไม่กล้าสบตารุ่นพี่ เพราะแค่ตอนนี้ฉันก็รู้เหมือนหายใจไม่ออกและหน้าของฉันก็ร้อนมากด้วย จึงได้ยื่นมือรับไอศกรีมจากรุ่นพี่มา แม้ว่าฉันจะไม่ชอบไอศครีมรสนี้ก็ตาม แต่แล้ว...

“เธอไม่ชอบรสสตรอเบอรี่ เอารสนมให้เธอไปดีกว่าครับ”

ฮีโระหยิบไอศกรีมรสนมจากมืออีกด้านของรุ่นพี่ให้ฉันแทนรสสตรอเบอรี่ที่เขายื่นให้

“เพราะว่าเวลาเธอเขิน เพื่อนๆชอบล้อเธอว่า ยัยแก้มสตอเบอรี่น่ะ”

จู่ๆ ฮีโระก็พูดประโยคที่ทำให้ฉันแปลกใจออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย เขารู้เหตุผลที่ฉันไม่ชอบสตอเบอรี่ได้ยังไงกันนะ

“ทำไมเธอถึงรู้ล่ะ?”

ฉันถามเขาทั้งที่ความแปลกใจยังไม่หาย ก่อนที่ฉันจะทันได้รู้คำตอบ รุ่นพี่ที่ได้แต่เงียบสักพักก็พูดขึ้น

“พวกเธอดูสนิทกันจังเลยนะ”

“ไม่มีใครจะสนิทกับเธอมากกว่าพวกผมอีกแล้วล่ะครับ”

“แล้วก็ฉันด้วยค่ะ”

มุนอาพูดเสริม ฮีโระยิ้มกรุ้มกริ่มให้รุ่นพี่ ถ้าฉันมองแค่ผิวเผิน คงคิดว่าพวกเขาทะเลาะกัน

“ตอนเย็นไปโรงยิมสิ”

รุ่นพี่พูดขึ้นลอยๆ เราทั้งคู่ต่างก็ไม่กล้าจะสบตากันตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวาน จากเมื่อวานนี้ที่ฉันคิดว่าเราคงจะไม่ได้พูดคุย อยู่ใกล้ หรือแม้แต่จะเห็นรุ่นพี่จากไกลๆอีกแล้ว จากที่ฉันเคยคิดว่ารุ่นพี่คงจะเกลียดฉันเข้าจริงๆหลังจากที่เขาไล่ฉันไปเมื่อวาน ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น เพราะพวงกุญแจร่มสีเหลืองนั่นหรือเปล่านะ แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร ฉันก็อยากจะขอบคุณมากๆที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้อยู่ใกล้รุ่นพี่มากขึ้นกว่าเดิม

“ก็ดีเหมือนกันนะคะ ตอนเย็นฉันจะได้ไปด้วย ได้ไหมคะรุ่นพี่ฮารุ”

จู่ๆ ซอลฟาก็โผล่มาจากด้านหลัง ทำให้พวกเราทั้งหมดต้องหันกลับไปมองเธอด้วยความแปลกใจ รุ่นพี่เองก็ดูจะแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อย สถานการณ์ดูจะเปลี่ยนไป แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าซอลฟามาได้อย่างไร แต่พวกเราก็ยังเออ ออ กันว่าจะไปดูรุ่นพี่เล่นบาส

“งั้นก็ไปกันทั้งหมดนี่เลยสิ”

รุ่นพี่บอก พลันสายตาของฉันก็แอบมองเห็นว่าซอลฟายืนยิ้มให้กับรุ่นพี่ ทำไมเธอจะต้องอยากไปดูรุ่นพี่ซ้อมบาสเหมือนกับฉันด้วยนะ ฉันเริ่มตั้งคำถามมากมาย หรือว่าความหึงหวงเริ่มเข้าครอบงำฉันมากเกินไป จนไม่อยากจะให้ใครๆมาใกล้รุ่นพี่ซะแล้ว

“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอนั่งด้วยคนเลยละกันนะคะ วันนั้นเจอรุ่นพี่ฮารุไปแล้ว ขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อซอลฟาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักรุ่นพี่ทุกคนนะ”

ซอลฟายิ้มหวานให้กับทุกคนราวกับว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร อาจจะเพราะเธอเป็นนักดนตรีที่เข้ากับคนง่ายและไม่ถือตัว จึงสามารถพูดคุยกับใครๆได้อย่างง่ายดาย มุนอาทำท่าอึดอัดมากขึ้นเพราะดูเหมือนเธอจะไม่ชอบซอลฟาตั้งแต่ครั้งก่อนแล้ว ในขณะที่พวกเราพูดคุยกันอยู่นั้นสายตาพิฆาตรของพวกแชวอนก็แผ่รังสีมาถึงพวกเราจนฉันและมุนอาสัมผัสได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกว่าอย่างน้อยๆฉันก็ได้เข้าใกล้รุ่นพี่ได้มากขึ้นแล้ว

“แชวอน เธอกับเพื่อนจะไปดูด้วยกันก็ได้นี่”

รุ่นพี่หันกลับไปยิ้มและบอกพวกแชวอนเหมือนจะรู้ว่าพวกเธอก็อยากให้รุ่นพี่มองเห็นเธอเหมือนกัน ดีจังเลยนะ ตรงนี้แหละที่ทำให้ฉันชื่นชอบรุ่นพี่ตลอดมา พวกแชวอนตอบรับแบบเขินกับรุ่นพี่ดูพวกเธอจะดีใจมาก แทนที่ฉันจะรู้สึกอึดอัดแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันดีจังเลย

“งั้นตอนเย็นเจอกันนะ”

รุ่นพี่บอกก่อนที่จะลุกออกไป

“รุ่นพี่เนี่ยไม่น่าจะใจดีกับพวกนั้นให้มากเลย น่าจะใจดีกับฮารุแค่คนเดียวก็พอละ”

มุนอาทำหน้าเบื่อหน่ายกับความใจดีของรุ่นพี่จนทำให้ฉันตลกออกมา ส่วนพวกแชวอนหลังจากรุ่นพี่ไปแล้วพวกเธอยังคงทำหน้าที่แสนจะบ่งบอกว่ารำคาญฉันเหมือนเช่นเคย

“รุ่นพี่น่ะ ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะค่ะ ใจดีกับทุกคน และรายรอบตัวเขาก็มีแต่คนชอบ โอ๊ะ... แต่อย่าซีเรียสไปเลยค่ะ ให้ฉันร้องเพลงให้ฟังสักเพลงก่อนจะเข้าเรียนภาคบ่ายกันดีมั้ยคะ”

ซอลฟาพูดพร้อมกับดึงเอากีต้าร์ออกมาจากกระเป๋า ฮีโระทำท่าทางสนใจและชมซอลฟาไม่ขาดปากว่าเธอดูเท่ห์มากเวลาที่เล่นกีต้าร์และร้องเพลงแบบนี้ ส่วนมุนอานั้นแทบจะไม่มองหน้าซอลฟาตั้งแต่เธอมานั่งโต๊ะด้วยซ้ำ ฉันเองก็เริ่มรู้สึกแปลกๆกับเธอเหมือนกัน แต่ก็บอกไม่ถูกว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันนะ ฉันไม่อยากจะรู้สึกอคติกับเธอตั้งแต่เพิ่งรู้จักกันแบบนั้น และมันก็คงจะไม่ดี ถ้าหากว่าฉันคิดไม่ดีกับเธอ ฉันพยายามปัดเอาความรู้สึกเหล่านั้นออกไป และพยายามเปิดใจให้กว้างมากขึ้น เพราะที่สิ่งที่คิดก็อาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้

ตกเย็นหลังเลิกเรียน ตามสัญญาที่บอกไว้กับรุ่นพี่ว่าจะไปดูรุ่นพี่เล่นบาส ฉันเก็บของและเตรียมพร้อมที่จะไปที่โรงยิม

“แหมๆ วันนี้ดูอารมณ์ดีเลยนะ ไหนๆดีซิยิ้มซะจนปากกว้างไปถึงใบหูแล้วนะเนี่ย”

ฮีโระเอามือมาดึงแก้มทั้งสองข้างของฉัน ถ้าเป็นตอนที่รู้จักกันใหม่ๆฉันคงจะรู้สึกแปลกไม่น้อย แต่ตอนนี้นิสัยแบบนี้ของเขากลายเป็นธรรมดาสำหรับฉันไปแล้ว จะว่าไปฉันเองก็คงดูมีความสุขจนเวอร์ไปจริงๆนะแหละ เพราะถึงแม้จะโดนฮีโระแซวอย่างนั้นฉันก็ยังอยากยิ้มแบบนี้ต่อไป

“จะสนิทกันมากเกินไปแล้วนะ ฮีโระ มุนอาก็อยู่นี่ทั้งคนนะ”

มุนอาทำท่าค้อนเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะงอน ฮีโระก็ยกมือขึ้นจับหัวเธอเบาๆ

“ที่จริงผมก็สนิทกับมุนอาเหมือนกันน่า อย่าน้อยใจเลย”

เย็นนี้มุนอาบอกว่ามีธุระที่บ้านก็เลยไม่ได้ไปโรงยิมด้วย เธอก็ขอแยกกลับบ้านก่อน ทิ้งให้ฉันกับฮีโระไปกันเพียงสองคน

ส่วนซอลฟาบอกว่าเธอจะไปรออยู่ที่โรงยิม แต่ก่อนที่จะเข้าโรงยิมฉันก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมหนังสือที่ต้องทำการบ้านส่งวันพรุ่งนี้ไว้ที่ใต้โต๊ะฉันจึงบอกให้ฮีโระไปที่โรงยิมก่อน และวิ่งกลับไปที่ห้อง เมื่อมาถึงห้องเรียน สิ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจมากที่สุดคือ บนกระดานมีคนเขียนเมจเสจบางอย่างทิ้งไว้

“ถ้าเธอไม่ได้คิดจริงจัง เลิกยุ่งกับเขาซะ” นี่คงไม่ได้ต้องการจะบอกฉันใช่ไหม หรือว่าข้อความนี้จะเป็นข้อความเตือนฉัน หมายถึงฉันกับรุ่นพี่ยังงั้นเหรอ ฉันมองข้อความอย่างละเอียดอีกครั้ง ถ้าหากต้องการจะบอกฉันจริงๆ ฉันก็อยากจะบอกเธอว่าฉันจริงจังจริงๆนะ และฉันก็ไม่สามารถเลิกยุ่งกับเขาได้ เพราะว่าฉันแอบเฝ้ามองเขามานานเป็นปีแล้วยังไงล่ะ”

ฉันหยิบแปลงลบกระดานมาลบข้อความก่อนทีจะมีคนมาเห็น และนั่นยิ่งทำให้ฉันเข้มแข็งและอยากทำอะไรให้กับรุ่นพี่เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันจริงจังกับรุ่นพี่จริงๆ

“ว่าจะไม่อะไรด้วยแล้วเชียว หาเรื่องจนได้สินะ” เสียงใครบางคนเอ่ยขึ้นมาเบาๆท่ามกลางความว่างเปล่าที่หน้าประตู



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

..............................................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 8 น้อยใจ

ฉับ ฉับ! ฉับ ฉับ! เสียงรองเท้าของฉันกระทบกับน้ำที่เริ่มนองบนสนามหญ้าหน้าบ้านที่ฮีโระเช่าอยู่ ฉันวิ่งออกมาจากบ้านโดยที่ไม่ได้พกร่มมาด้วย แม้...

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com