“วันนี้ผมไม่ว่างไปโรงยิมกับฮารุนะ ให้มุนอาไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้”
“เอ่อ คือพอดีวันนี้ฉันก็ไม่ว่างเหมือนกันน่ะ ที่บ้านจะมีงานเลี้ยงนิดหน่อย ฮารุไปคนเดียวได้ไหม”
“อ้อ ได้สิ”
ทั้งฮีโระและมุนอา ต่างก็มีธุนะต้องไปทำ และแล้ววันนี้ฉันก็ได้ไปดูรุ่นพี่ซ้อมบาสที่โรงยิมคนเดียว จริงๆแล้วฉันน่าจะดีใจมากกว่าที่รุ่นพี่อยากให้ฉันไป แต่ว่าตอนนี้ทำไมในหัวของฉันกลับคิดแต่เรื่องของฮีโระมากมายกันนะ ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ฉันจะพบเขา รุ่นพี่เป็นเพียงคนเดียวที่ฉันเฝ้ามองและคิดถึง ไม่ ไม่ ไม่ ยังไงซะรุ่นพี่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เราชอบ สำหรับฮีโระเพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉันและเป็นเพราะอีกไม่นานเขาก็ต้องไปจากที่นี่ฉันถึงได้คิดถึงเขาต่างหากล่ะ
“ฮารุ เป็นอะไรรึปล่าว โกรธพวกเราที่ไม่ไปด้วยเหรอ”
“เอ๋ ปะ ปล่าวนะ ไม่ได้โกรธสักหน่อย”
“มัวแต่เหม่อลอยแบบนี้จะไหวหรือเปล่าเนี่ย”
ฮีโระพูดขึ้น
“เอาน่า ฉันไม่เป็นไร พวกเธอกลับกันเถอะมีธุระนี่นา ฮีโระอย่าลืมไปส่งมุนอาด้วยนะ”
“ได้ครับคุณผู้หญิง ผมจะทำตามคำสั่งทุกอย่างเลย”
ฉันร่ำำลากับฮารุและมุนอาแล้ว เดินไปที่โรงยิมเพียงลำพัง ที่โรงยิมรุ่นพี่กับเพื่อนๆกำลังเริ่มซ้อมบาสกัน ข้างบนสแตนนี้นอกจากฉันแล้วยังมีแชวอนและเพื่อนๆของเธอที่ปกติก็มักจะมาที่นี่ประจำอยู่แล้ว พวกเธอไม่วายที่จะส่งสายตาแห่งความไม่พอใจมาที่ฉันอยู่เสมอ และอีกมุมหนึ่งของสนามฉันเห็นซอลฟานั่งอยู่ เมื่อเธอเห็นฉันจึงลุกขึ้นและเดินมาหาฉัน
“วันนี้มาคนเดียวเหรอคะ รุ่นพี่ฮีโระกับรุ่นพี่มุนอาละคะ”
ซอลฟาลุกมานั่งข้างๆฉัน
“พวกเขาไม่ว่างกันน่ะ แล้วซอลฟาล่ะวันนี้ไม่มีซ้อมเหรอ”
“ซ้อมทุกวันค่ะ แต่วันนี้อยากเห็นหน้ารุ่นพี่ฮารุก่อนแล้วค่อยไป”
เธอพูดแล้วหันมายิ้มให้ฉัน
“อยากเจอหน้าฉันเนี่ยนะ”
“อื้ม ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ฉันอยากจะมีพี่สาวแบบพี่ มีเพื่อนๆที่คอยเข้าใจ และที่สำคัญรุ่นพี่ก็มีรุ่นพี่ฮีโระคอยดูแลตลอดเวลาด้วย ฉันว่าพี่ฮีโระต้องชอบพี่แน่ๆเลยล่ะค่ะ พี่ดูไม่ออกเหรอ”
“ฮะๆ ฮีโระเนี่ยนะ ไม่หรอกน่า พวกเราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ว่าแต่ซอลฟาคงไม่ค่อยมีเพื่อนสินะ”
“ใครๆต่างก็พากันคิดว่าฉันเป็นคนหยิ่ง ดูเป็นคุณหนู และคงไม่น่าคบสักเท่าไหร่ ฉันก็เลยมีแค่กีต้าร์ตัวนี้เป็นเพื่อนเท่านั้นแหละค่ะ แต่จริงๆแล้วฉันก็แอบเป็นขาลุยนะคะ เอาจริงๆฉันก็ไม่ได้หวานแหววและสำอางค์ขนาดนั้น ออกจะแมนด้วยซ้ำ ฮึ๊บ”
ซอลฟาทำท่าเบ่งกล้ามจากแขนเล็กๆขาวๆของเธอ ยังไงซะเธอก็ดูเป็นลูกหนู แต่ต่างออกไปตรงที่ตอนนี้เธอดูเข้าหาง่ายและเป็นคนที่น่าคบคนหนึ่ง
หลังจากที่ถึงเวลาพัก รุ่นพี่วิ่งขึ้นมาที่บนสแตนที่ฉันและซอลฟานั่งอยู่ ตอนนี้รุ่นพี่มีเหงื่อท่วมตัวและดูเหมือนจะเหนื่อยมากๆ ซอลฟาหันไปยิ้มและกล่าวทักทายกับรุ่นพี่ แต่ไม่รู้เพราะว่าไม่ทันได้สังเกตหรืออะไร รุ่นพี่ไม่ได้ทักทายตอบกับซอลฟาแม้แต่น้อย
“อ่าว สองคนนั้นไม่มาเหรอ แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า วันนี้ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
รุ่นพี่มานั่งข้างๆฉันและถามฉันด้วยความเป็นห่วง แต่ฉันทำได้เพียงสายหน้าเบาๆและหลบสายตาที่ต้องการคำตอบนั้น เพราะตอนนี้ฉันเองก็รู้สึกสับสนมากมาย มีบางอย่างที่ฉันรู้สึกว่ามันค้างคาอยู่ในใจเกี่ยวกับฮีโระแต่ฉันนึกมันไม่ออกจริงๆ
“สองคนนั้นไม่อยู่ เดี๋ยวฉันดูแลรุ่นพี่ฮารุเองก็ได้ค่ะ”
ซอลฟาพูดอะไรมาด้วยหน้าตาน่ารัก แต่รุ่นพี่ก็ยังคงทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด
“มีอะไรก็บอกกันบ้างก็ได้นะ เห็นฮารุเป็นแบบนี้เหมือนผมจะช่วยอะไรฮารุไม่ได้เลย”
“ไม่นะคะ นี่ไม่ใช่ความผิดของรุ่นพี่ ฉันแค่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ แต่ว่า... ฉันก็ไม่อยากจะเห็นรุ่นพี่ต้องเศร้าเพราะฉันหรอกนะคะ ฉันอยากเห็นรุ่นพี่ที่มีแต่รอยยิ้มเหมือนเคยค่ะ” ^^
ฉันพูดกับรุ่นพี่และยิ้มออกมา ใช่แล้วล่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของฉัน ฉันไม่ควรจะแสดงมันออกมาให้รุ่นพี่ได้รับรู้และไม่สบายใจไปกับฉัน
“เอ่อ รุ่นพี่ฮารุคะ ฉันต้องกลับแล้วไว้เจอกันใหม่นะคะ”
ซอลฟาตัดบทด้วยการบอกลาโดยที่ไม่ได้ยิ้มออกมาเหมือนเคย เธอเก็บกระเป๋ากีต้าร์แล้วรีบเดินออกไปโดยไม่ร่ำลารุ่นพี่ด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าเธอคงจะงอนรุ่นพี่เอาซะแล้ว
“ฉันคิดว่าซอลฟาน่าจะงอนรุ่นพี่แล้วนะคะ ทำไมถึงไม่คุยกับเธอบ้าง”
ฉันถามด้วยความสงสัย นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เห็นว่ารุ่นพี่เมินกับเธอ
“วันนี้หลังซ้อมเสร็จแล้วจะเดินไปส่งกลับบ้าน ห้ามปฏิเสธด้วย”
รุ่นพี่เปลี่ยนเรื่องพูดและลุกไปซ้อมต่อ ฉันจึงทำได้แต่พยักหน้ารับ แม้ว่าจะสงสัยมากแต่ฉันก็ไม่ควรจะคิดมากนี่นา คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง รุ่นพี่ก็คงมีเหตุผลของรุ่นพี่นั่นแหละ เพียงแต่ว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกสงสารซอลฟาขึ้นมานะ มีความรู้สึกแปลกๆบางอย่างเกิดขึ้น นี่ฉันคิดอะไรหลายเรื่องมากเกินไปหรือเปล่านะ ต้องมีสติๆ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่จะได้กลับบ้านพร้อมกับรุ่นพี่ก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่จะได้กลับบ้านกับรุ่นพี่ ฉันนั่งดูการซ้อมจนเสร็จรุ่นพี่ก็รีบเก็บของและวิ่งขึ้นมาหาฉัน เราเดินออกจากโรงยิมและเดินกลับบ้านด้วยกัน แม้ว่าทางกลับบ้านของรุ่นพี่จะอยู่คนละทางกันกับฉัน แต่รุ่นพี่ก็ยังยืนยันที่จะมาส่งให้ได้
“เอ่อ ฮารุ รู้มั้ย สิ่งสำคัญของการเป็นนักกีฬาของ....ผม คืออะไร”
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินรุ่นพี่เรียกชื่อของฉัน และเขาก็เรียกตัวเองว่าผมด้วย รุ่นพี่พูดออกมาในขณะที่หน้าของเขาก็เหมือนจะแดงนิดหน่อย และหัวใจของฉันก็พองโตเช่นกัน
“ไม่รู้สิคะ คืออะไรเหรอ”
ฉันตอบเพราะความไม่รู้จริงๆ
“การแข่งขันซึ่งผมต้องชนะให้ได้ นั่นคือเป้าหมายของผมทั้งในการเล่นกีฬาและชีวิตจริง ดูเหมือนน่ากลัวใช่ไหมล่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของรุ่นพี่มากกว่าที่จะเป็นความน่ากลัว”
รุ่นพี่มองฉันและยิ้มออกมาอย่างเขินๆ
เฮ้อ... รู้สึกเหมือนพักนี้ตัวเองแปลกๆไปยังไงก็ไม่รู้แฮะ”
รุ่นพี่พูดพร้อมกับเกาหัวตัวเองเบาๆ
“แปลก... ตรงไหนเหรอคะ”
ฉันหันไปถามรุ่นพี่ ตอนนี้รุ่นพี่ได้แต่หลบตาฉัน
“จู่ๆก็รู้สึกว่า อยากจะทำอะไรบางอย่างให้ใครสักคน ทั้งๆที่เคยคิดมาตลอดว่า...จะไม่มีวันชอบเธอ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้และเวลานี้ผมอยากให้ผมมีคนๆนั้นยืนอยู่ข้างผมแบบนี้ตลอดไป เอ่อ... น่าตลกใช่ไหม”
จู่ๆขาของฉันก็ก้าวไม่ออกซะอย่างนั้น ฉันหยุดเดินอย่างอัตโนมัติ คำพูดของรุ่นพี่ทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก เหมือนคนที่ไม่ได้หายใจไปชั่วขณะ ฉันทำได้เพียงแค่หลบสายตาของรุ่นพี่ที่หันมามองฉัน พร้อมกับคำพูดที่ทำให้ฉันอึ้งอีกครั้ง
“ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”
( “ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”)
(“ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”)
(“ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย”)
................................................................................................................................................................................
เสียงของรุ่นพี่ยังคงดังก้องอยู่ในความคิดของฉัน ฉันไม่แน่ใจฉันฟังผิดหรือมันเป็นความจริง เพราะตั้งแต่วินาทีนั้น ฉันก็รู้สึกเหมือนล่องลอยและไม่รู้ตัว จนมาถึงหน้าบ้านของตัวเอง เป็นวินาทีที่ฉันไม่สามารถให้คำตอบอะไรกับรุ่นพี่ได้
“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากได้ยินข่าวดีเร็วๆนี้นะ แล้วเจอกัน”
ประโยคสุดท้ายที่รุ่นพี่บอกกับฉันก่อนที่จะทำท่าเขินๆและวิ่งกลับไป ทิ้งให้ฉันยืนงุนงงกับคำพูดของรุ่นพี่จนถึงตอนนี้ นี่ฉันคงไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย ฉันลองหยิกตัวเองดู
“โอ๊ย... เจ็บจัง นี่ฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย”
กว่าที่ฉันจะรู้สึกตัวก็เกิดรอยช้ำเล็กๆจากการบิดแขนตัวเองซะแล้ว จู่ๆรอยยิ้มที่ไม่ได้พบพานมานานก็เกิดขึ้นกับฉัน ไม่สิ ฉันคิดว่าฉันน่าจะยิ้มตั้งแต่ตอนที่รุ่นพี่บอกกับฉันแล้ว แต่ว่าฉันอาจจะไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่นอนกอดหมอนและกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างนั้น ความดีใจมันแสดงออกมายากจริงๆ ตอนนี้หัวใจของฉันยังคงเต้นแรงราวกับว่ามันจะทะลุออกมาข้างนอกยังไงยังงั้น แต่ก่อนที่ฉันจะดิ้นให้ความสุขของฉันกระจายเต็มพื้นที่ ฉันรู้สึกถึงพลังความเย็นบางอย่างกำลังมาเยือนใกล้ๆฉัน
“ฮึก!!!!!!! นั่น นั่น ใครอ๊ะ????”
ฉันตกใจอย่างสุดขีดเลยเขวี้ยงหมอนที่กอดไว้ไปที่หน้าต่างซึ่งมีเงาของใครคนนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ใครคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมที่มีฮุทอยู่ด้านนอกหน้าต่างที่ตอนนี้สลัวๆเพราะค่ำแล้ว เขาค่อยๆขยับมือของเขาและเปิดหมวกฮูทออก
“ฮี... ฮีโระ ” *O*
“ใช่ ผมเอง” ^^:
ฉันรีบลุกจากเตียงและเปิดหน้าต่างออก
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เอ่อ คงไม่ได้เห็นฉันทำอะไรแปลกๆใช่มั้ย”
“อื้ม ผมก็ไม่เห็นว่าฮารุจะทำอะไรแปลกๆนะ นอกจากนอนกอดหมอนดิ้นไปดิ้นมา ฮ่า”
ฮีโระหัวเราะซะทำเอาฉันไม่รู้จะทำหน้ายังไง ไหนบอกว่าไม่เห็นอะไรไงเล่า แล้วเขาก็ชวนฉันออกไปนั่งดูดาวข้างนอก เพราะเขาบอกว่าเขาได้ข่าวว่าวันนี้จะมีฝนดาวตกในรอบสิบปี
ฮีโระชวนฉันมานั่งดูดาวที่สนามหน้าบ้านของเขา ฉันเดินไปนั่งชิงช้าสีขาวที่ฉันเคยเห็นเมื่อคราวก่อน มันมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเล็กน้อยเพราะมันค่อนข้างอายุมากแล้ว ฮีโระเดินมานั่งชิงช้าอีกตัวข้างๆฉัน เวลาที่ฉันได้อยู่กับฮีโระมันเป็นช่วงเวลาที่ฉันสบายใจที่สุดเท่าที่ฉันรู้สึกมา ตอนนี้ฉันเพิ่งคิดและตระหนักได้ว่าฉันไม่ได้สับสนว่าฉันชอบฮีโระหรือปล่าว แต่ฉันคิดว่ามันเป็นความห่วงใยในฐานะเพื่อนระหว่างฉันกับฮีโระมากกว่า และฉันก็คาดหวังเพียงสิ่งเดียวว่าฮีโระจะเป็นเพื่อนที่ดีของฉันตลอดไป
“เล่นจ้องหน้ากันแบบนี้ ผมก็เขินนะ แอบคิดอะไรไม่ดีกับผมหรือเปล่าเนี่ย”
“เอ่อ เปล่านะ เพียงแต่ว่า...”
“เพียงแต่ว่าอะไรเหรอ???”
ฉันจะบอกเขาไปดีมั้ยว่าบางครั้งฉันก็แอบคิดว่าเขาชอบฉัน และบางทีฉันก็สับสนตัวเอง ทั้งๆที่ตลอดมาฉันแน่ใจว่าคนที่ฉันชอบมีเพียงรุ่นพี่คนเดียวเท่านั้น และมาจนถึงวันนี้ “ถ้าฮารุยังไม่ได้ชอบใคร เราลองมาคบกันดูมั้ย” คำพูดของรุ่นพี่ก็ทำให้ฉันแน่ใจตัวเองว่า ยังไงคนที่ฉันชอบก็คือรุ่นพี่แน่นอน
“คือว่า ฉันของถามอะไรฮีโระได้มั้ย”
“ได้สิ ผมจะตอบฮารุทุกข้อเลย”
“คือ... ฉันก็แค่คิดนะ แต่ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้อง ฉัน... ฉันอยากรู้ว่า... ฮีโระชอบฉันหรือปล่าว”
“ห๊ะ...... ”
ฉันพูดมันออกไปแล้ว ความคิดที่อัดอั้นอยู่ในใจฉันมาเนิ่นนาน ยิ่งตอนที่อยู่โรงยิมที่ซอลฟาพูดขึ้นมาก็ยิ่งทำให้ฉันเอาเก็บไปคิดมากขึ้น เพราะฉะนั้นฉันต้องถามให้มันกระจ่างแล้วฉันจะได้ไม่ต้องเอาเก็บมาคิดมากอีก แต่คนที่ช๊อคกับคำถามฉันสุดๆคงหนีไม่พ้นฮีโระที่ตอนนี้แปลกใจกับคำถามของฉัน (ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ)
“เอ่อ...คือ... จะว่าไงดีนะ....”
“จริงๆแล้ว ฮีโระไม่ได้ชอบฉันหรอกใช่มั้ยล่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะฉันไม่โกรธหรอก ใช่มั้ยๆ”
“เอ่อ... จะบ้าเหรอ ก็ใช่น่ะสิ ผม...ผมจะไปชอบฮารุได้ยังไงกัน ถ้าผมไม่เพี้ยนละก็นะ ผมคงไม่ไปชอบผู้หญิงที่มีคนอื่นในใจแล้วแบบฮารุหรอก อีกอย่างผมก็มีคนที่ผมชอบและเขาก็ชอบผมอยู่แล้วด้วย”
“นั่นน่ะสิเน้าะ อีกอย่างเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากๆๆๆด้วยนี่นาเน๊าะ”
ฉันพูดขึ้นมาอย่างโล่งอก สุดท้ายฉันก็ไขคำตอบให้กับความอัดอั้นใจที่ฉันคิดขึ้นมาเองได้แล้ว ฉันนี่คิดเองเออเองจริงๆด้วย
“เอ๊ะ หรือว่าคนที่ฮีโระชอบและคนที่ชอบฮีโระคือ มุนอาเหรอ ใช่หรือปล่าว”
ฉันรีบถามเพราะความอยากรู้ ต้องใช่แน่ๆตอบสิว่าใช่
“นั่นๆ ฝนดาวตกนี่ อธิษฐานเร็ว”
ฮีโระรีบตะโกนบอกฉัน ก่อนที่ฉันจะได้ถามเขาต่อ กลับกลายเป็นว่าฉันลืมถามเขาซะสนิทและเอาแต่คิดว่าฉันจะอธิษฐานอะไรดีนะ
“ขอให้ครอบครัวของฉัน มุนอา ฮีโระ และรุ่นพี่ ขอให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแบบนี้ตลอดไปด้วยเถอะ”
ฉันหลับตาอธิษฐานออกมาเบาๆ และเมื่อฉันลืมตาขึ้น บนท้องฟ้ายังมีในดาวตกเกิดขึ้นเรื่อยๆเป็นภาพที่สวยงามมากๆ
“ดีกว่านอนกอดหมอนกลิ้งอยู่บนเตียงเยอะเลยใช่มั้ยล่ะ”
“ฮีโระเนี่ย”
ฉันใช้กำปั้นสีไหล่ของฮีโระๆเบาๆด้วยความเขิน ก่อนที่จะเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้นให้เขาฟัง เขานั่งฟังฉันอย่างตั้งใจและยินดีกับฉันแถมยังบอกให้ฉันรีบๆตอบรับก่อนที่รุ่นพี่จะเปลี่ยนใจอีกด้วย หลังจากฝนดาวตกเริ่มน้อยลงแล้วฮีโระก็เดินมาส่งฉันที่บ้าน
“งั้นพุร่งนี้เจอกันนะ ถ้าตื่นสายผมไม่รอแน่”
ฮีโระขู่ฉันก่อนที่จะเดินหันหลังจากไปพร้อมกับโบกมือให้ฉัน ฉันปิดประตูลงและกลับมาที่ห้องด้วยความสบายใจ ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าการคิดไปเองมันจะทำให้คนเราอึดอัดถึงขนาดนี้ ถ้าหากว่าฉันเข้าใจตัวเองและเข้าใจฮีโระมากกว่านี้ละก็ก่อนหน้านี้ฉันก็คงไม่ต้องมาอึดอัดแบบนี้ ฉันลุกไปปิดหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้เมื่อตอนที่ฮีโระมาเรียก ท่ามกลางแสงพระจันทร์ที่ส่องลงมาอย่างเลือนลาง ฉันแอบเห็นเงาของฮีโระผ่านความมืดมิดนั้น ทำไมเขายังไม่เข้าบ้านกันนะ
The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ
The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ
- บทนำ
- ตอนที่ 1 เสื้อกันฝนสีแดง
- ตอนที่ 2 ความบังเอิญ
- ตอนที่ 3 เพื่อนสนิท?
- ตอนที่ 4 คนที่รู้ความลับ
- ตอนที่ 5 คำอธิฐาน
- ตอนที่ 6 รูปแห่งความทรงจำ
- ตอนที่ 7 ร่มสีเหลือง
- ตอนที่ 8 น้อยใจ
- ตอนที่ 9 เผลอ
- ตอนที่ 10 คำอธิฐานใต้แสงดาว 👈
- ตอนที่ 11 สารภาพรัก
- ตอนที่ 12 เงาของคน 2 คน
- ตอนที่ 13 สิ่งที่อยู่ในใจ
- ตอนที่ 14 คนรู้จัก ที่... ไม่เคยรู้จัก
- ตอนที่ 15 ความเชื่อใจ
- ตอนที่ 16 ความเจ็บปวดที่... เนิ่นนาน
- ตอนที่ 17 ยิ่งฝืน.. ก็ยิ่งเหนื่อย
- ตอนที่ 18 เธอคนนั้น
- ตอนที่ 19 เพื่อ...
- ตอนที่ 20 ความจริงแล้ว...
- ตอนที่ 21 เวลาที่เหลือน้อย
- ตอนที่ 22 ตั๋วหนัง ยางลบ และความทรงจำ 1
- ตอนที่ 23 ตั๋วหนัง ยางลบ และความทรงจำ 2
- ตอนที่ 24 วันแห่งความสุข
- ตอนที่ 25 เรื่องที่ยังไม่เคยรู้
- ตอนที่ 26 ความลับที่ถูกเปิดเผย
- ตอนที่ 27 Special Hero 1
- ตอนที่ 28 Special Hero 2
- ตอนที่ 29 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ Part 1
- ตอนที่ 30 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ Part 2
- ตอนที่ 31 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ Part 3
- ตอนที่ 32 Hero Diary Secret : ไดอารี่ของฮีโระ END
>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<
................................................................................................................................................................................The secret of memory : ตอนที่ 10 คำอธิฐานใต้แสงดาว
“ วันนี้ผมไม่ว่างไปโรงยิมกับฮารุนะ ให้มุนอาไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้ ” “เอ่อ คือพอดีวันนี้ฉันก็ไม่ว่างเหมือนกันน่ะ ที่บ้านจะมีงานเลี้ยงนิดหน่อย ...