วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560




하루 종일 연락했는데
 ฮา รุ จง งิล ยอน รัก แคท นึน เด
1이 없어지지 않은 상태
 อิี รี ออบ ซอ ชี จี อา นึน ซัง แท
이제서야 봤대
 อี เจ ซอ ยา พวัท แด
일이 너무 많대
 อี รี นอ มู มัน แท
믿으면 안돼
 มี ดือ มยอน อัน ดแว

เนื้อเพลง Bye Babe - 10cm & Chen (EXO)

하루 종일 연락했는데  ฮา รุ จง งิล ยอน รัก แคท นึน เด 1이 없어지지 않은 상태  อิี รี ออบ ซอ ชี จี อา นึน ซัง แท 이제서야 봤대  อี เจ ซอ ยา พวัท แด 일이 너무 많...

벌써 몇 달 짼가
 พอล ซอ มยอท ดัล แจน กา
너 만난다는 그 사람 얘길 들었어
 นอ มัน นัน ดา นึน คือ ซา รัม แย กิล ดือ รอ ซอ
아마 뭔 일이 있었나 저쨌나
 อา มา มวอน อี รี อี ซอท นา  อา...ชอ แจท นา
떠들어대던 심보가
  ตอ ดือ เร แด ดอน ชิม โบ กา
이젠 여기까지 발동해서 널
 อี เจน ยอ กี กา จี พัล ดง แฮ ซอ นอล
떠올리게 됐나봐
  ตอ อล รี เก ทแวท นา บวา

เนื้อเพลง 겨울을 걷는다 : Yoon ddan ddan (윤딴딴)

벌써 몇 달 짼가  พอล ซอ มยอท ดัล แจน กา 너 만난다는 그 사람 얘길 들었어  นอ มัน นัน ดา นึน คือ ซา รัม แย กิล ดือ รอ ซอ 아마 뭔 일이 있었나 저쨌나  อา มา มวอน อี ...

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560


바보같이 아쉬움 많은 노래가
 พา โบ กา ชี อา ชวี อุม มา นึน โน แร กา
하늘에 닿기를
 ฮา นือ แร ดัด คี รึล
눈물 속에 밤새운 내 기도가
 นุน มุล โซ เก บัม แซ อุน แน คี โด กา
마음에 닿기를
 มา อือ แม ดัด คี รึล

어렸어 내가 이럴 줄은 몰랐어
 ออ รยอ ซอ แน กา อี รอล จู รึน มล รา ซอ
당연한 거라 그땐 생각했었어
 ทัง ยอน ฮัน กอ รา คือ แตน แซง กัก แค ซอ ซอ
내게 남겨준 미소가
 แน เก นัม กยอ จุน มี โซ กา

เนื้อเพลง Beautiful : Wanna One

바보같이 아쉬움 많은 노래가  พา โบ กา ชี อา ชวี อุม มา นึน โน แร กา 하늘에 닿기를   ฮา นือ แร ดัด คี รึล 눈물 속에 밤새운 내 기도가  นุน มุล โซ เก บัม แซ อุน แน...



Uhm yeah yah

Oh gosh 난리야 Oh gosh
 Oh gosh นัน รี ยา Oh gosh
맞아 난 좀 기분파
 มา จา นัน จม คี บุน พา
헤 금방 또 사랑에 빠져
 เฮ คึม บัง โต ซา รัง เง ปา จยอ

Yeah yeah yeah yeah

새것만 좋아해요 반짝거리죠
 แซ กอท มัน โช อา แฮ โย พัน จัก กอ รี จโย
다들 그렇잖아요 맞죠
 ทา ดึล คือ รอ ชา นา โย มัท จโย

Peek A Boo 설렐 때만 사랑이니까
Peek A Boo ซอล เรล แต มัน ซา รัง งี นี กา

La la la la la

내 친구 모두 소리쳐
 แน ชิน กู โม ดู โซ รี ชยอ
넌 정말 문제야
 นอน ชอง มัล มุน เจ ยา

I’m fine fine fine fine fine fine

Peek Peek A Peek A Boo
Peek Peek A Peek A Boo

흥이 난 여우 그런 나라구
 ฮึง งี นัน ยอ อู  คือ รอน นา รา กู

Peek Peek A Peek A Boo

I said 1 2 3
Play the game again

버튼을 눌러보자 쿵푸만큼 빨리
 พอ ทือ นึล นุล รอ โบ จา คุง พู มัน คึม ปัล รี
중간에 내 맘 변해도 놀라지 말기
 ชุม กา เน แน มัม บยอน แฮ โด นล รา จี มัล กี
혹시 끌리지 않니 그럼 Excuse me
 ฮก ชี กึล รี จี อัน นี คือ รอม Excuse me
자 전화해요 밤새 또 놀러 가요 함께
 ชา ชอน ฮวา แฮ โย บัม แซ โต นล รอ กา โย ฮัม เก

Restart a game

돌진해 롤링해 블랑카
 ทล ชี แน โรล ริง แฮ พึล รัง คา

오늘 저녁도 Let’s go
 โอ นึล ชอ นยอก โด Let’s go
놀이터는 붐비고
 โน รี ทอ นึน พุม บี โก
지루해질 틈조차 없죠
 ชี รุ แฮ จิล ทึม โจ ชา ออบ จโย

Yeah yeah yeah

빙글빙글 돌아요 다들 똑같죠
 พิง กึล บิง กึล โท รา โย ทา ดึล ตก กัท จโย
오 마침내 마주친 눈빛
 โอ มา ชิม แน มา จู ชิน นุน บิท

Peek A Boo

새로워요 사랑인가요
 แซ โร วอ โย ซา รัง อิน กา โย

La la la la la

내 친구 모두 소리쳐
 แน ชิน กู โม ดู โซ รี ชยอ
넌 정말 문제야
 นอน ชอง มัล มุน เจ ยา

I’m fine fine fine fine fine fine
Ma Boo Boo Boo
Peek A Boo Boo Boo Boo

Peek Peek A Peek A Boo
Peek Peek A Peek A Boo
Peek Peek A Peek A Boo

술래는 너로 정해졌어
 ซุล แร นึน นอ โร ชอง แฮ จยอ ซอ
재밌을 거야 끼워 줄게
 แช มี ซึล กอ ยา กี วอ จุล เก

Peek Peek A Peek A Boo

저 달이 정글짐에 걸릴
 ชอ ดา รี ชอง กึล ชี มี กอล ริล
시간까지 노는 거야
 ชี กัน กา จี โน นึน กอ ยา

Peek Peek A Peek A Boo

Peek A Boo 이상해 어라 넌 좀 달라
Peek A Boo อี ซัง แฮ ออ รา นอน จม ดัล รา
이런 게임 멈추고 너를 다시 보게 돼
 อี รอน เก อิม มอม ชู โก นอ รึล ทา ชี โพ เก ดแว
무섭지 않아 난 새로운 얘기가
 มู ซอบ จี อา นา นัน แซ โร อุน แย กี กา
펼쳐질 거라는 걸 방금 느꼈으니까
 พยอล ชยอ จิล กอ รา นึน กอล พัง กึม นือ กยอ ซือ นี กา

Peek Peek A Peek A Boo
Peek Peek A Peek A Boo

흥이 난 여우 그런 나라구
 ฮึง งี นัน ยอ อู  คือ รอน นา รา กู

Peek Peek A Peek A Boo

술래는 너로 정해졌어
 ซุล แร นึน นอ โร ชอง แฮ จยอ ซอ
재밌을 거야 끼워 줄게
 แช มี ซึล กอ ยา กี วอ จุล เก

Peek Peek A Peek A Boo

저 달이 정글짐에 걸릴
 ชอ ดัง รี ชอง กึล จี เม กอล ริล
시간까지 노는 거야
 ชี กัน กา นี โน นึน กอ ยา

Peek Peek A Peek A Boo

술래는 너로 정해졌어
 ซุล แร นึน นอ โร ชอง แฮ จยอ ซอ
재밌을 거야 네가 좋아
  แช มี ซึล กอ ยา กี วอ จุล เก

Peek Peek A Peek A Boo

저 달이 정글짐에
  ชอ ดัง รี ชอง กึล จี เม กอล ริล
걸릴 시간이지만 더 놀자
 คอล ริล ชี กา นี จี มัน ดอ นล จา

Peek Peek A Peek A Boo

Peek A Boo
Peek A Boo
Peek A Boo



เนื้อเพลง Peek-A-Boo : Red Velvet
Peek-A-Boo : Red Velvet Lyrics

เครดิต เนื้อเพลงไทย โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

เนื้อเพลง Peek-A-Boo - Red Velvet

Uhm yeah yah Oh gosh 난리야 Oh gosh  Oh gosh นัน รี ยา Oh gosh 맞아 난 좀 기분파  มา จา นัน จม คี บุน พา 헤 금방 또 사랑에 빠져  เฮ คึม บัง โต ซา รั...

알아먹게 Talk 해 다리 떨지 말고
 อา รา มอก เก Talk แค ดา รี ตอล จี มัล โก
왜 아무 말이나 해 그건 어디 말이니
 แว อา มู มา รี นา แฮ คือ กอน ออ ดี มา รี นี
어버버
ออ บอ บอ

Uh 어버버버버버 어버버
Uh  ออ บอ บอ บอ บอ บอ   ออ บอ บอ
떨리는 동공 더더더덜
 ตอล รี นึน ทง กง ดอ ดอ ดอ ดอล
머리 굴리는 소리 안 나게 좀 해봐
 มอ รี คุล รี นึน โซ รี อัน นา เก จม แฮ บวา
다 티가 나 기가 차
 ดา ที กา นา  คี กา ชา

เนื้อเพลง DDD (덜덜덜) : EXID

알아먹게 Talk 해 다리 떨지 말고  อา รา มอก เก Talk แค ดา รี ตอล จี มัล โก 왜 아무 말이나 해 그건 어디 말이니  แว อา มู มา รี นา แฮ คือ กอน ออ ดี มา รี นี 어버버...

설렌다 Me Likey Me Likey Likey
ซอล เรน ดา Me Likey Me Likey Likey

Likey Me Likey Likey Likey

두근두근두근 Heart Heart
 ดู กึน ดู กึน ดู กึน Heart Heart

Me Likey Me Likey Likey Likey
Me Likey Likey Likey

두근두근두근
 ดู กึน ดู กึน ดู กึน

เนื้อเพลง LIKEY : TWICE

설렌다 Me Likey Me Likey Likey ซอล เรน ดา Me Likey Me Likey Likey Likey Me Likey Likey Likey 두근두근두근 Heart Heart  ดู กึน ดู กึน ดู กึน...


눈부신 Moonlight
 นุน บู ชิน Moonlight
또 다른 밤의 시작
 โต ทา รึน พา เม ชี จัก
하얗게 잘 다려 입은 Y-Shirt
  ฮา ยัด เค ชัล ทา รยอ อี บึน Y-Shirt
쇼윈도에 비친 내 모습 맘에 들어
 ซโย วิน โด เอ พี ชิน แน โม ซึบ มา เม ดือ รอ
예감이 좋은 걸
 เย คา มี โช อึน กอล

Now Girl I’m dy-dy-dy-dying

เนื้อเพลง Black Suit : Super Junior

눈부신 Moonlight   นุน บู ชิน Moonlight 또 다른 밤의 시작  โต ทา รึน พา เม ชี จัก 하얗게 잘 다려 입은 Y-Shirt   ฮา ยัด เค ชัล ทา รยอ อี บึน Y-Shirt ...

뚜렷했던 모습도 잊혀지나요
ตู รยอท แฮท ตอน โม ซึบ โด อิท ชยอ จี นา โย
그런 시간이 있긴 한가요 No No
คือ รอน ชี คา นี อิท กิน ฮัน กา โย No No
행복했던 그 기억도 다 지워지나요
 แฮง บก แคท ตอน คือ คี ออก โด ทา ชี วอ จี นา โย
그런 사랑이 사랑인가요 Oh No
 คือ รอน ซา รัง งี ซา รัง อิน กา โย Oh No

เนื้อเพลง One More Chance (비처럼 가지마요) : SUPER JUNIOR

뚜렷했던 모습도 잊혀지나요 ตู รยอท แฮท ตอน โม ซึบ โด อิท ชยอ จี นา โย 그런 시간이 있긴 한가요 No No คือ รอน ชี คา นี อิท กิน ฮัน กา โย No No 행복했던 그 기억도 다 ...

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560



รุ่งเช้าของวันเสาร์ เนื่องจากนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของฮีโระไม่ได้ตั้งปลุกในวันเสาร์อาทิตย์ ปกติในวันหยุดแบบนี้ฉันจะได้นอนตื่นสายยาวๆโดยไม่มีใครรบกวน แต่ก็มีเรื่องที่น่าแปลกอยู่ 2 เรื่องนั้น อย่างที่หนึ่งคืออยู่ดีๆฉันก็อยากจะตื่นให้เช้ากว่าปกติ และเรื่องที่น่าแปลกเรื่องที่สอง ในขณะที่ฉันกำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่

“ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง”

แม่ลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปเปิดประตู

“นี่ เป็นเธออีกแล้วเหรอ ฉันว่าฉันได้พูดจนชัดเจนดีแล้วนะ”

“ผมขอเวลาแค่วันนี้วันเดียวครับ แล้วผมจะพาเธอมาส่งก่อนจะเย็น”

“นี่เธอ... หวังว่าเธอคงจะไม่ลืมคำพูดของตัวเองนะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”

เสียงแม่กำลังสนทนากับใครบางคนที่หน้าบ้าน พ่อกระซิบบอกกับฉันว่า

“พ่อเข้าใจความรู้สึกของแม่ดี และเราก็หวังว่าลูกคงจะเข้าใจเราในสักวันหนึ่ง ลูกก็รู้ว่าพ่อกับแม่รักลูกขนาดไหน เราไม่อยากจะเห็นลูกต้องเสียใจหรอก”

“หมายถึงอะไรคะพ่อ หรือพ่อกับแม่คิดว่ารุ่นพี่ไม่ดีเหรอคะ”

“สายตาของพ่อดูแค่แปบเดียวก็รู้ว่าเขาเป็นคนดี แต่มันมีเหตุผลที่มากกว่านั้น ซึ่งลูกควรจะค้นพบมันด้วยตัวเอง”

พ่อหยุดพูดและรีบตักข้าวต้มต่อเมื่อเห็นว่าแม่เดินกลับเข้ามาแล้ว

“มีคนรอลูกอยู่ที่หน้าบ้าน แม่ไม่ได้เห็นดีด้วยหรอกนะ แต่ลูกต้องกลับมาก่อนจะเย็น”

แม่พูดเชิงเป็นการออกคำสั่ง ฉันชักสงสัยว่าคนๆนั้นเป็นใคร หลังจากที่ฉันเก็บจานเสร็จจึงรีบเดินออกไปดู

“รุ่นพี่... มาได้ไงคะเนี่ย”

ฉันแปลกใจมากเมื่อเห็นรุ่นพี่ยืนอยู่ที่หน้าบ้านพร้อมกับดอกไม้ช่อที่ไม่ใหญ่นัก แต่มันน่ารักมากในสายตาฉัน รุ่นพี่ยิ้มน้อยๆและส่งดอกไม้มาให้ฉัน

“ไปเที่ยวกันนะ”

ฉันรับดอกไม้จากรุ่นพี่ แม่เปิดประตูออกมาอีกครั้ง และตะโกนบอกฉัน

“ฮีโระออกจากบ้านแต่เช้าทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์ ถ้าลูกไม่ใช่คนใจดำ ลูกน่าจะตามไปดูว่าเขามีปัญหาอะไรหรือปล่าว”

แม่กลับเข้าบ้านและประตูก็ปิดลง ฮีโระไปที่ไหนตั้งแต่เช้ายังงั้นเหรอ ฉันหันมองไปทางรุ่นพี่ซึ่งกำลังมองมาที่ฉันเหมือนกัน น่าแปลกนะที่อยู่ดีๆรุ่นพี่ก็มาชวนฉันออกไปเที่ยว ฉันยังคงมองรุ่นพี่อยู่แบบนั้น เพราะยังไม่เชื่อสายตาตัวเองอยู่ดีว่าสิ่งที่ฉันเหมือนจะคิดและฝันเอาเอง ว่าในสักวันหนึ่งเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน มันจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงได้ในวันนี้

“เล่นจ้องกันซะขนาดนี้ ผมก็เขินเป็นนะ ไปกันเถอะ”

รุ่นพี่ยื่นมือมาจับมือของฉัน ฉันยิ้มและพยักหน้าให้กับรุ่นพี่เล็กน้อย ไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร สำหรับฉันคนที่ฉันได้แต่นอนแล้วก็อธิษฐานว่าคืนนี้ขอให้ฝันถึงเขา ตอนนี้เขากลับมาอยู่ต่อหน้าฉัน จับมือฉัน แล้วเราก็ได้เดินไปด้วยกัน มันเป็นอะไรที่ฉันไม่อยากจะเชื่อ และฉันคิดว่าฉันเองก็คงจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าคนที่ผ่านไปมาอาจจะคิดว่าฉันบ้า แต่ว่าฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีจริงๆ โชคดีมากๆขอบคุณมากนะคะรุ่นพี่

“ขอโทษนะ ถ้ารู้ว่าเวลาที่ฮารุยิ้มแล้วจะสวยขนาดนี้ ผมน่าจะจับมือของฮารุไว้ให้เร็วกว่านี้”

รุ่นพี่พูดออกมาพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยความรู้สึกผิด ใบหน้าของเขาดูเศร้าลงเล็กน้อย ฉันได้แต่ส่ายหัวเบาๆ ที่จริงแล้ว ฉันแทบอยากจะร้องไห้เลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะฉันเสียใจหรอกนะ แต่เป็นเพราะฉันดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ เพราะฉันไม่เคยคิดว่า รุ่นพี่จะหันมามองฉัน แค่สักครั้ง ฉันเองก็ยังไม่กล้าที่จะคิด เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือนานกว่านี้ ฉันก็รอได้ค่ะรุ่นพี่

ฉันและรุ่นพี่เดินมุ่งหน้าไปยังที่หนึ่ง ซึ่งแม้ว่าเราจะไม่พูดอะไรกันมาก แต่เพราะเมื่อวานนี้พวกเราเพิ่งทำประตูห้องพัง ฮีโระก็คงจะไปไหนไม่ได้ นอกซะจากว่าเขาจะไปที่โรงเรียน เมื่อมาถึงที่โรงเรียนพวกเราก็เห็นเงาของฮีโระที่งกๆเงิ่นๆกับบานประตูที่หลุดอยู่ โชคดีที่แค่เปลี่ยนบานพับไม่ได้เปลี่ยนทั้งประตู ฉันกับรุ่นพี่เดินไปที่ด้านหลังฮีโระที่ยังไม่รู้ตัว

“ทำอะไรเหรออยู่เหรอ”

ฉันแกล้งโผ่ลหน้าไปที่ด้านข้างฮีโระซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาตอกประตูอยู่จนเขาตกใจ

“เฮ้ย ฮารุเองเหรอ ตกใจหมดเลย มาได้ไงเนี่ย”

เขาถามขึ้นขณะที่มองตามมือที่ฉันชี้ไปทางรุ่นพี่

“พวกเรามาช่วยน่ะ เพราะยังไงซะมันก็เป็นฝีมือพวกเราไม่ใช่เหรอ”

รุ่นพี่พูดขึ้นพร้อมๆกับมองหาอุปกรณ์ที่จะมาช่วยฮีโระซ่อมประตู ฉันนั่งดูอยูห่างๆเพื่อที่จะได้ไม่เกะกะพวกเขามากนัก

“อยากจะรู้จริงๆว่าเป็นฝีมือของใคร ตอนแรกก็กะว่าคงจะเป็นลุงภารโรงที่มาปิดห้องโดยที่ไม่ได้ดูคนซะอีก”

“แล้วไม่ใช่ลุงภารโรงหรอกเหรอที่ล๊อคประตูน่ะ”

“ผมไปถามแกเมื่อเช้า แกบอกว่าแกไม่ได้เป็นคนล๊อก แถมแกยังลืมล๊อคทุกห้องด้วย” = =

แล้วใครเป็นคนทำกันนะ ฉันเริ่มสงสัยมากขึ้นทุกที แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาตัวคนทำได้ยังไง เฮ้อ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน แต่สิ่งที่ทำให้ฉันไม่อยากจะรู้ว่าใครเป็นทำ ก็เพราะไม่อยากรู้สึกว่ามีคนเกลียดฉันมากถึงขนาดที่อยากจะแกล้งฉันขนาดนี้ แต่ฉันยังคงจดจำเงาของใครบางคนที่อยู่ข้างนอกตอนที่ฉันถูกขังได้ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ความรู้สึกที่เป็นคนคุ้นเคยก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เหมือนจะรู้ว่าเป็นใคร แต่ก็พูดไม่ออก และได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้มีใครที่รู้สึกแบบนั้นกับฉันอีกเลย เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ดูน่ากลัวมากๆ

“ในระหว่างนี้ ฮารุไปหาซื้ออะไรเย็นๆก่อนดีไหม ฮีโระคงหิวน้ำแล้ว เดี๋ยวผมจะช่วยเขาที่นี่”

“รุ่นพี่ก็ไปกับฮารุด้วยสิครับ ผมซ่อมตรงนี้เอง อีกสักแปบก็เสร็จแล้ว”

“ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้”

ฉันรีบลุกออกจากที่นั่งและเดินไปที่ตู้กดน้ำ อย่างน้อยๆฉันก็ได้ช่วยซื้อน้ำให้เขาพวกเขาแทนที่จะนั่งดูเฉยๆ

“เอาน้ำอะไรให้ฮีโระกับรุ่นพี่ดีนะ”

ส้ม สตรอเบอรี่ แอปเปิ้ล กีวี่ มะนาว หรือน้ำมะพร้าวดี ถ้าเดาจากนิสัยสองคนก็เหมือนจะนิสัยคล้ายๆกัน ถ้ายังงั้น เอาเป็นฮีโระกีวี่ รุ่นพี่มะนาว แล้วของฉันก็เป็นแอปเปิ้ลดีกว่า ฉันหยอดเหรียญและกดเลือก แล้วฉันก็ได้น้ำผลไม้มาแล้วสามกระป๋อง ฉันเดินกลับเข้าไปที่โรงเรียน รุ่นพี่กับฮีโระอยู่ไม่ไกลจากที่ฉันยืนอยู่มากนัก พวกเขากำลังช่วยกันอย่างขมักขะเม้น แต่พอฉันมองจากไกลๆแบบนี้ รัศมีของพวกเขาเปล่งประกายและดูดีราวกับเป็นดารานายแบบเลยทีเดียว ถ้ามีใครบอกว่ารุ่นพี่กับฮีโระเป็นพี่น้องกัน ฉันจะต้องเชื่อแน่ๆ

“”น้ำเย็นๆมาแล้วค่ะ นี่มะนาวของรุ่นพี่ กีวี่ของฮีโระ ส่วนแอปเปิ้ลของฉันค่ะ”

ฉันจัดแจงหยิบน้ำผลไม้ออกมาแจกให้กับทั้งคู่ ตอนนี้ประตูซ่อมใกล้เสร็จแล้วสินะ ฮีโระซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลพูดขึ้นในขณะที่พัก

“รุ่นพี่กับฮารุไปกันเถอะ ที่เหลือเดียวผมจัดการเอง เหลือแค่ตอกตะปูตรงนี้อีกที่เดียว”

เขาชี้ตรงจุดที่ค้างอยู่

“เอางั้นเหรอ งั้นก็ฝากด้วยนะ ไปกันเถอะฮารุ”

รุ่นพี่ลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาให้ฉันจับและดึงฉันลุกขึ้น ฮีโระยิ้มให้ฉันพร้อมกับโบกมือในขณะที่ยังดูดน้ำผลไม้ที่ฉันซื้อให้ ที่จริงฉันก็รู้สึกตื่นเต้นนะที่จะได้ไปเที่ยวกับรุ่นพี่ แต่ว่าฉันก็ไม่อยากจะทิ้งให้ฮีโระต้องอยู่เพียงลำพัง มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ฉันหันหลังกลับไปมองฮีโระอีกครั้ง หน้าเศร้าของเขาดูไม่เหมาะกับเขาเลยแต่พอเขาเห็นว่าฉันมองอยู่ เขาก็เผยรอยยิ้มและโบกมือให้ฉันอีกครั้ง พวกเราเดินออกมาจากโรงเรียนโดยที่ฉันไม่รู้ว่าเราจะไปที่ไหนกันต่อ รุ่นพี่โบกรถเมลล์และพวกเรานั่งรถมาแถวๆตัวเมือง ซึ่งเป็นย่านที่มีผู้คนมากมาย

“ฮารุเคยเล่นเกมส์ตู้มั้ย”

รุ่นพี่ถามขึ้นในขณะที่พวกเรายืนอยู่หน้าร้านเกมส์ตู้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาที่นี่ ฉันส่ายหน้าเล็กน้อย ปกติที่ฉันเคยไปกับมุนอาก็แค่ร้านคาราโอเกะใกล้บ้านเท่านั้นเอง

“ป่ะ งั้นเราไปลองเล่นกันดูดีกว่า เห็นแบบนี้ผมเล่นเกมส์เก่งนะ”

รุ่นพี่รีบคว้ามือของฉันและมุ่งตรงเข้าไปในร้าน ตอนนี้ในร้านมีทั้งเด็กประถมและมัธยมปะปนกันไปหมด แต่ที่น่าแปลกใจคือมีเด็กนักเรียนผู้หญิงด้วย ซึ่งฉันเคยคิดว่าร้านเกมส์แบบนี้คงจะมีแต่เด็กผู้ชายมากันแน่ๆ

“น่าสนุกใช่ไหมล่ะ”

รุ่นพี่ในตอนนี้ดูสดใสมากๆ เขาจูงมือฉันไปที่ตู้ UFO ที่ฉันเคยเห็นบ่อยๆแต่เท่าที่เคยแอบมองคนอื่นเล่นมันไม่เคยมีครั้งไหนที่จะได้ตุ๊กตาเลยสักครั้ง

“นี่ๆเธอดูผู้ชายคนนั้นสิเธอ หล่อมากเลยอ่ะ”

“ไหนๆ เธอก็หลีกฉันหน่อยสิ ว้าย หล่อจริงๆด้วยอ่ะ เสียดายมีแฟนแล้ว”

“แต่แฟนก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่หรอกนะ ก็งั้นๆแหละ ฮะฮะ”

กลุ่มสาวๆที่ตอนนี้อยู่ในตู้ถ่ายรูปอัตโนมัติพูดกันอย่างสนุกสนาน สำหรับฉัน ฉันก็ไม่เคยจะแคร์กับคำพูดของพวกเขาสักเท่าไหร่หรอก เพราะแค่ฉันได้มากับรุ่นพี่ก็ถือว่าฉันโชคดีมากๆแล้วล่ะ แต่รุ่นพี่จู่ก็หยุดเดินและพาฉันไปที่ตู้ถ่ายรูปที่พวกเธออยู่แทน

“ขอบคุณครับที่เห็นพวกเราในสายตา แต่จะดีมากๆถ้าพวกคุณจะไม่พาดพิงถึงเธอ เพราะเธอเป็นคนที่พิเศษมากๆสำหรับผม”

รุ่นพี่พูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานๆให้ แม้จะเป็นคำพูดที่เหมือนจะดูดุนิดๆแต่ฉันคิดว่าพวกเธอคลั่งไคล้มากกว่าที่จะกลัวรุ่นพี่นะ

“อ่อ ขอโทษค่ะ คือพวกเราก็แค่พูดเล่นๆไม่ได้คิดอะไรจริงจัง อย่าซีเรียสเลยนะคะ เดี๋ยวหน้าหล่อๆจะดูไม่ดี”

ผู้หญิงหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นพร้อมส่งสายตาหวานให้กับรุ่นพี่ รุ่นพี่จูงมือฉันกลับมาที่ตู้ UFO ตามเดิม แต่หูเจ้ากรรมฉันก็ยังคงได้ยินเสียงพวกเธอพูดกันลอยตามมาอยู่

“หล่อ แถมหยิ่งแบบนี้ สเป็คเลยล่ะ”

“ต๊าย สำหรับฉันขอแค่ได้หน้าตาแบบนี้ นิสัยยังไงฉันก็รับได้แหละเธอ เห็นแล้วอยากจะกรี๊ดสลบจริงๆ”

จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้ต่างจากพวกเธอนักหรอก เพราะตอนที่ฉันได้เจอรุ่นพี่ตั้งแต่ครั้งแรก ฉันก็คิดว่านี่คงเป็นเทพบุตรมาเกิดซะมากกว่าจะเป็นมนุษย์ แต่ที่ฉันปลื้มต่อจากนั้นก็เห็นจะเป็นนิสัยของรุ่นพี่ที่ดีมากๆ (เหมือนกับหน้าตาของเขาเปี๊ยบเลย) ^^

“อืม ฮารุชอบตัวไหนเป็นพิเศษไหม”

“ฉัน...เลือกได้เหรอคะ”

“อื้ม เลือกได้ตามใจชอบเลย ผมอยากให้ฮารุเป็นของขวัญ”

“รุ่นพี่ใจดีกับฉันมากเกินไปหรือเปล่าคะเนี่ย บางทีฉันก็รู้สึกแปลกๆ”

ฉันพูดพลางเอามือเกาหัวเบาๆ เพราะจากคนที่เย็นชากับฉันมาก ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า เขาใจดีกับฉันสุดๆ ฉันควรจะเผื่อใจบ้างสักนิดดีไหมนะ

“ผมก็แค่อยากทำดีกับฮารุให้มากๆ เพราะถ้าหากมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ผมอาจจะไม่ได้ทำให้ฮารุอีกแล้วก็ได้”

รุ่นพี่พูดและพยายามฝืนยิ้ม มันมีความหมายอะไรแอบแฝงอยู่ในคำพูดนั้นหรือเปล่านะ รุ่นพี่ยังคงคะยั้นคะยอให้ฉันเลือกตุ๊กตาต่อไป ในตู้มีตุ๊กตาหลากหลายรูปแบบ ทั้งตุ๊กตาหมี ตุ๊กตาเด็กผู้หญิง ตุ๊กตาหน้าผลไม้ ฉันเลือกไม่ถูกจริงๆ อืม ตัวไหนดีนะ

“ฉันอยากได้ตัวที่รุ่นพี่เลือกให้ค่ะ เป็นตัวอะไรก็ได้ ถ้าได้จากรุ่นพี่ฉันก็ดีใจมากๆแล้ว”

“เอางั้นเหรอ อืม งั้นเอาเป็นตัวนี้ละกันนะ”

รุ่นพี่ชี้ไปที่ตุ๊กตาเด็กผู้ชายใส่หมวกและใส่ชุดเอี๊ยมน่ารักๆตัวหนึ่ง รุ่นพี่เริ่มหยอดเหรียญลงไป และเลื่อนให้ตรงตำแหน่ง ฉันยืนดูอย่างใจจดใจจ่อ

“ขอให้ได้ทีเถอะนะ”

รุ่นพี่พึมพำออกมา ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่ารุ่นพี่ก็มุมที่น่ารักๆแบบนี้กับเขาด้วย ตอนนี้ดูเหมือนรุ่นพี่จะพยายามอย่างมากเพื่อที่จะจับเจ้าตุ๊กตาเด็กชายมาให้ได้ เครื่องเริ่มทำงานและหยุดตรงตำแหน่งที่เลือก มันค่อยๆเลื่อนลงมาที่ตุ๊กตาและจับตุ๊กตานั้นขึ้น

“มัน ขึ้นมาแล้วค่ะรุ่นพี่”

ตอนนี้พวกเราสองคนกำลังส่งกระแสจิตอย่างรุนแรงไปที่ตุ๊กตาที่ตอนนี้รอแค่ให้มันปล่อยลงที่ช่องเท่านั้น แต่ว่า...แป่ว มันดันหลุดมือซะก่อนที่จะถึงช่องซะได้

“ว้า”

“ว้า”

พวกเราหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะใหญ่ ความรู้สึกผิดหวังนี้เราสามารถรับรู้มันได้เหมือนๆกัน

“ครั้งนี้ขอให้ได้ทีเถอะ”

รุ่นพี่ดูเหมือนคนที่กำลังจะปลุกเสกคาถาลงในเหรียญเพื่อให้ได้ตุ๊กตายังไงยังงั้น เขาหยอดเหรียญและเลื่อนมือไปที่ตำแหน่งตุ๊กตาเด็กชายอีกครั้ง

“ตรงนี้แหละ”

รุ่นพี่กดปุ่มอีกครั้งเพื่อให้เครื่องหยุดตรงตำแหน่งและจับที่ตุ๊กตา และตอนนี้มันจับขึ้นมาได้แล้ว และระยะที่จะถึงช่องก็ใกล้มากขึ้น ฉันยกมือขึ้นมากุมโดยไม่รู้ตัว รุ่นพี่เองก็จ้องมันอย่างไม่กระพริบ และสุดท้า



ปึก!!!!!!!!!!

เสียงตุ๊กตาหล่นลงมาที่ช่อง

”เย้ พวกเราทำสำเร็จแล้วฮารุ”

ฉันและรุ่นพี่กระโจนเข้าจับมือกันด้วยความดีใจ จนเมื่อรู้สึกตัวอีกทีหน้าของพวกเราก็ใกล้กันมากๆ >///<

” ไหนขอดูหน่อยสิว่าตุ๊กตาเด็กน้อยของผมน่ารักไหม”

รุ่นพี่หยิบตุ๊กตาขึ้นมาจากช่องรับตุ๊กตาและเอามาเทียบหน้ากับตัวเอง

“ดูสิว่าหน้าเหมือนผมไหม ไว้เวลาที่ฮารุมีเรื่องไม่สบายใจ ให้ตุ๊กตาเด็กชายคนนี้เป็นคนรับฟังนะ”

รุ่นพี่ยื่นตุ๊กตามาให้ฉัน ฉันรับมันไว้แม้หน้าตาจะไม่ได้หล่อเหมือนรุ่นพี่แต่หน้าตาของมันก็น่ารักน่าชังทีเดียว ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ รุ่นพี่เอื้อมมือมาจับที่หัวฉันเบาๆ

“กอดตุ๊กตาแบบนี้ ฮารุดูเหมือนเด็กเลยล่ะ น่ารักจัง”

รุ่นพี่พูดในขณะที่ทำท่าเขินไปด้วย รุ่นพี่จะรู้ตัวไหมนะว่ารุ่นพี่ก็น่ารักมากๆเหมือนกัน เราย้ายจากตู้ UFO ไปที่แท่นทุบตัวตัวตุ่นที่สลับกันโผล่ออกมาซึ่งพี่กับรุ่นพี่ช่วยกันทุบจนค้อนแทบจะหลุด พวกเราหัวเราะคิกคักกันก่อนที่จะแอบเอาค้อนอันที่เสียซ่อนไว้และย้ายไปเล่นขว้างลูกบอลให้โดนเป็ด แล้วก็ไปเล่นเกมส์เต้นที่ฉันเงอะงะที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

“เราไปถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กันก่อนกลับดีไหม”

“ดีเหมือนกันค่ะ”

ฉันตื่นเต้นมาก ในที่สุดฉันก็จะได้มีรูปของรุ่นพี่เก็บไว้ดู ไม่ต้องคอยจินตนาการอยู่ในความฝันอีกต่อไปแล้ว พวกเราเข้าไปในตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์แล้วโพสต์ท่าอยู่สามสี่ท่าซึ่งฉันคิดว่าทั้งฉันและรุ่นพี่ดูตลกๆทั้งคู่ แล้วพวกเราก็แบ่งรูปกันไว้คนละแผ่น

“ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เวลาที่เรามีความรัก มันดีอย่างนี้เอง ถ้าเวลาหยุดอยู่แค่นี้ได้ ก็คงดี”

รุ่นพี่พูดขึ้นในขณะที่เรานั่งทานข้าวกลางวันที่ร้านอาหาร

“สำหรับฉัน ฉันคิดว่ามันเหมือนความฝันและน่าดีใจมากกว่ารุ่นพี่เป็นสิบเท่าเลยล่ะค่ะ”

“พูดแบบนี้เหมือนว่าให้ผมดีใจน้อยกว่าฮารุเลยแฮะ รู้ไหมว่าผม ก็...แอบมองฮารุมานานแล้วเหมือนกันนะ”

“จริงเหรอคะ O.O ฉันคิดว่ารุ่นพี่เกลียดฉันซะอีก”

“ขอโทษนะ ผมอาจจะเป็นพวกที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย วันพรุ่งนี้ผมอาจจะกลายเป็นอีกคนที่ฮารุไม่เคยรู้จักก็ได้”

รุ่นพี่พูดราวกับว่าวันพรุ่งนี้เราจะไม่เหมือนเดิม ฉันหวังว่ามันจะเป็นแค่เรื่องตลกที่จะไม่กลายเป็นความจริง

พวกเรานั่งพูดคุยกันอย่างเนิ่นนานราวกับคนที่ไม่ได้คุยกันมาเป็นปี หลากหลายเรื่องราวที่ต่างคนต่างก็อย่างจะเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่อยากให้อีกฝ่ายได้รับรู้ และตอนนี้ฉันได้เห็นรุ่นพี่ในอีกแบบที่ฉันไม่เคยเห็น และได้รู้จักรุ่นพี่ในอีกมุมมองหนึ่งที่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตาจริงๆ รุ่นพี่บอกว่า ทุกๆที่ที่เขามอง มักจะเห็นฉันในนั้นเสมอ มันเหมือนโชคชะตาที่ทำให้เราใจตรงกันและฉันก็คิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ

>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 13 สิ่งที่อยู่ในใจ

รุ่งเช้าของวันเสาร์ เนื่องจากนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของฮีโระไม่ได้ตั้งปลุกในวันเสาร์อาทิตย์ ปกติในวันหยุดแบบนี้ฉันจะได้นอนตื่นสายยาวๆโดยไม่...

วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560



ฉันวิ่งมาถึงห้องแล้วตรงดิ่งไปที่โต๊ะ สำรวจดูใต้โต๊ะดูว่ามันอยู่ในนั่นหรือปล่าว แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีโทรศัพท์อยู่ใต้โต๊ะเลย ฉันก้มลงเพื่อมองลอดไปยังใต้โต๊ะคนอื่นๆแต่ก็ไม่เจอโทรศัพท์ บนพื้นมีเพียงความว่างเปล่า แต่แล้วในขณะที่ฉันกำลังง่วนอยู่กับการหาโทรศัพท์ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นอยู่ไม่ไกล

“ปังงงงง แกร๊ก” มันเป็นเสียงของประตูที่ถูกปิดลง ตามด้วยเสียงล๊อคกุญแจ ฉันหันกลับไปมองที่ประตูทั้งสองด้าน ปรากฏเงาของใครคนหนึ่งอยู่ข้างนอก

“ไม่นะ”

ฉันรีบวิ่งไปที่ประตูและเขย่าสุดแรง

“นี่ เธอเป็นใคร เปิดประตูเดียวนี้นะ เปิดประตู”

ฉันทั้งเขย่าและทุกประตูอยู่หลายรอบ ทุบจนรู้สึกราวกับว่ามือจะพองและร้อนพ่าวที่มือ เงาของใครคนนั้นได้หายไปจากหลังประตูแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครและทำเพื่ออะไร และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำยังไงด้วย

“มีใครอยู่ข้างนอกไหมคะ ฉันยังอยู่ในนี้ค่ะช่วยฉันด้วย มีใครอยู่ไหม”

ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงแต่ก็ไม่มีใครตอบรับ ข้างนอกคงกลับบ้านกันไปหมดแล้ว ฉันจะทำยังไงดีฉันไม่อยากอยู่ในห้องนี้ทั้งคืนหรอกนะ

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย ฉันติดอยู่ในนี้” ปัง ปัง ปัง ปัง

ฉันตะโกนสุดเสียงพร้อมกับทุบประตูอย่างเต็มแรง ตอนนี้ฉันทั้งเหนื่อยและกลัวมากๆ มือของฉันเริ่มบวมแดงขึ้น

ปัง ปัง ปัง “มี...ใคร...ได้ยิน...ฉัน...บ้างไหม... ช่วยด้วย”

ฉันทุบประตูครั้งแล้วครั้งเล่า และตะโกนซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนแทบจะหมดแรง ตอนนี้ฮีโระจะตามหาฉันไหมนะ หรือว่าเขาจะกลับบ้านไปแล้ว แต่ทำไมมีบางอย่างทำให้ฉันรู้สึกว่าฮีโระกำลังตามหาฉันอยู่นะ

“ฮีโระ ช่วยฉันด้วย” ฉันรวบรวมพลังแล้วทุบประตูอีกครั้ง ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีแล้ว ฉันกลัวความเงียบและความมืดด้วยนะ ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้จริงๆ

“ช่วย... ด้วย”

ตอนนี้ฉันกลัวจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ตะโกนจนเสียงไม่มีแล้ว แถมมือก็เจ็บมากด้วย แต่ฉัน... ก็อยากออกไปจากที่นี่

ทันใดนั้น..

“คูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับ คูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับคูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับ” ครืด ครืด

เสียงที่เปรียบดังสวรรค์มาโปรดก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่คอยปลุกให้ฉันตื่นในทุกเช้า ฉันรีบลุกตามหาต้นเสียง มันอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะของฉัน ครืด ครืด เสียงสั้นและเสียงเรียกเข้านั้นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันรีบค้นใต้โต๊ะด้วยการดึงหนังสือของมาทีละเล่ม “คูรูรุ คูรูรุ มีคนโทรมา ช่วยรับโทรศัพท์ทีครับ”ครืด ครืด

“เจอแล้ว” โทรศัพท์ที่ฮีโระให้ฉัน ทำให้น้ำตาแห่งความกลัวและความดีใจไหลออกมาพร้อมกัน ฉันรีบกดรับโทรศัพท์ทันที

ติ๊ด “ฮารุตอนนี้อยู่ที่ไหนอ่ะ ผมรอตั้งนานไม่เห็นฮารุกลับมาเลย ผมเป็นห่วงนะ เรากลับบ้านกันเถอะ ฮารุ ฮารุ ได้ยินผมไหม เกิดอะไรขึ้น ตอบผมสิ”

“ฮีโระ ช่วยฉันด้วย”

ฉันกลั้นน้ำตาและพยายามพูดออกมาอย่างแผ่วเบา หลังจากที่ฉันบอกฮีโระ เขาก็รีบบอกฉัน

“ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวผมจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ”

แล้วฉันก็ได้ยินเสียงวิ่งและเสียงหอบเข้ามาในโทรศัพท์โดยที่ยังไม่ได้วางสาย เขาตั้งใจจะไม่วางสายเพื่อไม่ให้ฉันกลัวสินะ “ขอบคุณนะฮีโระ” ฉันนั่งลงข้างล่างใกล้ๆกับโต๊ะของตัวเอง ในมือตอนนี้กุมโทรศัพท์มือถือที่ฮีโระให้ไว้แน่น ก่อนที่จะปาดน้ำตาที่ไหลออกมานั้นออก สักพักก็มีเสียงใครบางคนอยู่ข้างนอก

“ฮารุ เป็นอะไรไหม ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ที่นี่แล้ว รอแปบเดียวผมจะพยายามเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้แหละ”

ปัง ปัง ปัง ประตูถูกทุบและเขย่าอยู่หลายครั้ง แต่มันก็ไม่ถูกเปิดออก

“ฮีโระ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

เสียงใครอีกคนซึ่งอยู่ข้างนอกถามฮีโระขึ้น

“ฮารุติดอยู่ข้างใน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องบ้าๆนี่”

“ไหนขอลองดูหน่อย”

เสียงนี้ เสียงของรุ่นพี่นี่นา เขามาที่นี่ได้ยังไง ตอนนี้พวกเขากำลังช่วยกันพยายามพังประตูอยู่

“ฮารุ ได้ยินไหม ตอบผมหน่อย”

เสียงรุ่นพี่ตะโกนออกมา

“ค่ะ รุ่นพี่ ฉันไม่เป็นไร”

ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร เพราะฮีโระกับรุ่นพี่อยู่ที่นี่แล้ว เสียงเขย่าประตูยังคงดังอยู่อย่างนั้น

“ผมว่าเบาๆคงเอาไม่อยู่แล้วล่ะ ผมชักรำคาญไอ้ประตูบ้านี่เต็มทนละ โธ่เว้ย!!!”

ปัง ปัง ปัง ฮีโระดูเหมือนจะเริ่มโมโหมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีแล้ว แต่ประตูก็ยังเปิดไม่ได้ ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมเข้ามาเรื่อยๆ ฉันไม่สามารกลุกขึ้นจากที่ตรงนี้ได้เลย

“รุ่นพี่ ผมว่าไม่ไหวแล้วล่ะ หลีกไปก่อนครับ”

เสียงฮีโระผุดขึ้น เหมือนเขาจะเปลี่ยนมาทำอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่การทุบ

“ปึ๊ง... ปึ๊ง....”

“โธ่เว้ย ทำไมมันไม่ยอมเปิดสักทีวะ”

เขาสบทขึ้นมาจนฉันสะดุ้งขึ้น ฉันไม่เคยเห็นฮีโระเป็นแบบนี้มาก่อน เสียงกระแทกประตูยังคงดังต่อไป

“เลือดนี่ ฮีโระ นี่มือนายกำลังเป็นแผลนะเนี่ย มาเดี๋ยวฉันช่วยอีกแรง มานับแล้วออกแรงพร้อมๆกันนะ”

“OKนะ 1 2 3” โครม!!!

เสียงประตูที่หลุดออก แสงสว่างที่ด้านนอกส่องเข้ามาในห้องที่มืดมิดที่ฉันอยู่ เงาของคนสองคนที่ยืนหอบอยู่ตรงนั้น และเมื่อประตูเปิดออก หนึ่งคนในนั้นเดินเข้ามาหาฉัน ตอนนี้ฉันพยายามปาดน้ำตาออกอีกครั้งแต่ฉันก็ไม่สามารถมองลอดผ่านน้ำตาพวกนั้นได้ มีใครบางคนเดินเข้ามาและนั่งลงข้างๆฉัน มือสองข้างกุมไหล่ฉัน

“ไม่เป็นไรนะฮารุ”

ภายในอ้อมกอดที่อบอุ่นนั้น ฉันรู้แต่เพียงว่าเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นมาก ฝ่ามือนั้นกำลังลูบผมฉันปลอบเพื่อปลอบใจ

“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่นี่แล้วฮารุ เธอไม่เป็นไรนะ”

น้ำตาที่ไหลออกมาจนเหือดแห้งของฉันที่ตอนนี้ทำให้ฉันเริ่มมองเห็นเงาของใครบางคนที่หน้าประตูอย่างลางๆ คนๆนั้นกำลังหันหลังเดินออกไปช้าๆ


เปาะ แปะ เปาะ แปะ~~

ท่ามกลางสายฝนที่ค่อยๆโปรยปรายลงมาทีละน้อย ฉันกับรุ่นพี่กำลังเดินอยู่บนทางเดิน ตอนนี้สองข้างทางมีแสงไฟข้างถนนและไฟจากรถที่ผ่านไปมาเป็นครั้งคราว สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย หากแต่เป็นเพียงละอองฝนบางๆทีมองผ่านๆมันก็ดูสวยงามดีเมื่อสะท้อนกับแสงไฟ

“ฮารุ ไม่เป็นไรนะ”

“ค่ะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณรุ่นพี่มากๆนะคะ”

ตอนนี้บนทางเดินมีเพียงฉันและรุ่นพี่เพียงสองคน เพราะหลังจากที่ประตูถูกเปิดออก ฮีโระก็หายไป เขาไม่คิดจะอยู่เจอฉันสักหน่อยเลยหรือไงนะ

“แล้วรุ่นพี่รู้ได้ยังไงคะว่าฉันติดที่ห้องนั้น”

“ก็เพราะรอฮารุที่โรงยิมนานแล้วแต่ไม่เจอ หลังซ้อมเสร็จก็เลยคิดว่าจะลองออกมาตามหาดู แต่ก็เจอฮีโระเหมือนกำลังตกใจมาก ก็เลยคิดอยู่ว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ก็เลยลองวิ่งตามฮีโระมา”

จริงๆแล้วฉันต้องขอบคุณโทรศัพท์ของฮีโระที่ช่วยฉันไว้ ไม่อย่างนั้น ฉันคงไม่รู้ว่าเย็นนี้ฉันจะเป็นยังไง

“เรื่องฮีโระน่ะ ถามอะไรได้ไหม”

“มีอะไรเกิดขึ้นกับฮีโระเหรอคะ”

“อ๋อ ป่าวหรอก เพียงแค่อยากรู้ว่า... ฮารุกับฮีโระกำลังคบกันหรือเปล่า... ก็เท่านั้นเองอ่ะนะ”

รุ่นพี่หยุดเดินในขณะที่มือยังคงกางร่มสีเหลืองคันเดิม เขายิ้มเจือนๆ ดูเหมือนว่ารุ่นพี่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

“เพราะถ้าฮารุคบกับฮีโระอยู่ ผมก็คงไม่อยากได้ยินคำตอบนั้นแล้วล่ะ”

รุ่นพี่ฝืนยิ้มออกมาอีกครั้ง แต่ท่าทางเขากลับดูเศร้าลงไปทันที

“เอ่อ มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ สำหรับฉัน ฮีโระเป็นแค่เพื่อนที่ดีของฉันจริงๆค่ะ เขาดีต่อฉันมากๆ เราไม่ได้คบกันอย่างที่รุ่นพี่คิดหรอกนะคะ”

ฉันรีบบอกกับรุ่นพี่ก่อนที่จะถูกเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิม

“จริงเหรอ”

“จริงสิคะ สัญญาได้เลย”

ฉันยกนิ้วนางขึ้นมาเหมือนเป็นการสัญญา ทำให้รุ่นพี่ดูสบายใจขึ้นเยอะ

“โล่งอกไปที” ^^

ไม่ว่าจะดูมุมไหน รุ่นพี่ก็มักจะดูดีอยู่เสมอ ยิ่งได้อยู่ใกล้กันแบบนี้มากเท่าไหร่ ฉันยิ่งรับรู้ได้ถึงความดีและสิ่งที่รุ่นพี่เป็น แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันจะชอบรุ่นพี่เพราะอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ารุ่นพี่เป็นยิ่งกว่านั้นและฉันก็รู้สึกชอบรุ่นมากกว่าใครๆ

“ที่จริงผมมีเรื่องสารภาพด้วย วันก่อนผมบังเอิญไปเจอฮารุที่กำแพงแห่งความหวังน่ะ ขอโทษน่ะที่แอบไปดูข้อความที่ฮารุเขียนไว้”

“รุ่นพี่... เห็นมันด้วยเหรอคะ คือ ฉันขอโทษค่ะ ฉันแค่...”

“ไม่หรอก จริงๆแล้วผมดีใจมาก ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่...ทุกๆครั้งที่ผมหันไปก็มักจะเจอแต่ฮารุเสมอ จนผมทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงด้วย มันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้จักกันด้วยซ้ำ และผมคิดว่าบางทีเราอาจจะคิดตรงกัน”

ตอนนี้ฉันเริ่มหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่า ช่วงเวลาของฉันที่เอาแต่เฝ้าแอบมองรุ่นพี่นั้นรุ่นพี่จะคิดเหมือนกับฉัน ภายนอกเขาดูเหมือนหมางเมินกับฉันมากๆ แต่จริงๆแล้วนั่นกลับเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่รุ่นพี่ก็มองเห็นฉัน

“ผมจะไม่รอคำตอบอีกต่อไป แต่ถ้าฮารุเชื่อใจผม จับมือผมแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยกันนะ”

รุ่นพี่ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ฉัน เป็นความจริงที่เหมือนกับฝัน ที่ที่ฉันเดินอยู่ตรงนี้มีรุ่นพี่อยู่ข้างๆเราจับมือกันกลับบ้าน ในวันที่ฝนตกมีรุ่นพี่คอยกางร่มให้แบบนี้ ดีจัง

“ค่ะ”

ฉันยื่นมือที่สั่นเทาจับมือของรุ่นพี่ เป็นมือที่ใหญ่และอบอุ่นมากๆ เราเดินมาจนถึงที่หน้าบ้าน แม่ของฉันกำลังยืนรออยู่ เมื่อแม่เห็นฉันจึงได้รีบวิ่งออกมาหา

“ฮารุ วันนี้ทำไมกลับช้าแบบนี้ล่ะลูก ไปทำอะไรมา”

แม่รีบเข้ามากอดและซักถามฉันด้วยความเป็นห่วง รุ่นพี่ทักทายคุณแม่ทันทีที่เจอ

“แล้วนี่ใครเหรอ แม่คิดว่าลูกมากับฮีโระซะอีก”

“ผมเป็นรุ่นพี่ของฮารุครับ ขอโทษที่พาฮารุมาส่งช้า”

“เธอไม่ควรพาฮารุของเรากลับมาช้าป่านนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอจะรับผิดชอบได้เหรอ ฮารุเข้าบ้าน”

“แต่แม่คะ...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”

จู่ๆ แม่ก็เกิดโมโหขึ้นเมื่อเจอรุ่นพี่ และบอกให้ฉันรีบเข้าบ้าน ฉันหันหลังไปดูรุ่นพี่ก่อนที่จะโดนแม่ดึงเข้าบ้านไปซะก่อน ขอโทษนะคะรุ่นพี่ที่ทำให้ถูกเข้าใจผิด รุ่นพี่ยิ้มให้ฉันแบบเจือนๆคงรู้สึกแย่มากแน่ๆ ฉันทำให้รุ่นพี่ต้องเสียใจในวันแรกที่เราได้จับมือกันซะแล้ว ขอโทษจริงๆค่ะ

“ฮารุ ทำไมต้องกลับมากับผู้ชายสองต่อสองดึกๆดื่นๆ แถมเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักมักจี่ด้วย”

“ไม่นะคะแม่ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นิดหน่อยน่ะค่ะ และรุ่นพี่ก็มาช่วยไว้ มันไม่ใช่ความผิดของรุ่นพี่นะคะ และหนูก็รู้จักเขามานานแล้ว”

“ฮารุฟังแม่นะ ไม่ว่ายังไงต่อไปอย่าไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนนั้นอีก ลูกรู้ไหมว่าแม่กับพ่อเป็นห่วงลูกมาก แล้วถ้าเกิดฮีโระเห็นเข้า เขาจะเสียใจขนาดไหน”

“แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะแม่”

“เข้าห้อง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วออกมากินข้าว เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก แม่ถือว่าแม่พูดจบไปแล้วและลูกก็ต้องเชื่อฟังแม่ด้วย”

แม่ไม่ยอมฟังในสิ่งที่ฉันพูดบ้างเลย รุ่นพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย และฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับฮีโระทำไมเรื่องบ้าๆแบบนี้ต้องเกิดขึ้นด้วยนะ

โต๊ะอาหารเย็นนี้ดูจะเย็นชืดกว่ามื้อที่ผ่านๆมา ฉัน พ่อและแม่ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องฮีโระหรือรุ่นพี่เลย และฉันเองก็อยู่ในช่วงที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ฉันอยากให้แม่เปิดใจรับรุ่นพี่มากกว่านี้แล้วแม่จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ดีมากๆอีกคนหนึ่ง ข้าวคำสุดท้ายถูกตักเข้าปากแล้ว ฉันเก็บถ้วยของตัวเองเอาไปล้างแล้วเดินเข้าห้อง

“สักวันหนึ่งลูกจะรู้ว่าทำไมแม่ถึงห้ามไม่ให้ลูกคบกับเขา”

หลังจากนั้นแม่ไม่ได้พูดอะไรกับฉันต่อ อะไรที่ฉันจะได้รู้ต่อจากนี้เหรอ หรือว่ารุ่นพี่เป็นคนไม่ดียังเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเชื่อใจรุ่นพี่ว่ารุ่นพี่จะไม่ทำแบบนั้น ฉันเดินเข้าห้องพร้อมกับปิดล๊อคประตูทันที ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะแสดงออกว่าฉันโกรธกับแม่ แต่ตอนนี้มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยากจริงๆ

ฉันล้มตัวลงบนที่นอน และแล้วก็เพิ่งนึกถึงฮีโระได้ ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ ตั้งแต่เกิดเรื่องฉันก็ยังไม่ได้คุยกับเขาเลย ฉันเปิดผ้าม่านที่หน้าต่างออก และมองออกไปที่บ้านของฮีโระ แสงไฟในห้องของเขาเปิดทิ้งไว้แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน ฉันตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ที่เขาให้ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเขา แต่กลับเจอ 1 ข้อความที่ไม่รู้ว่าส่งมาตอนไหน

“Hero Massege: สุดท้ายก็สมหวังซะทีนะ ยินดีด้วยฮารุ” ^^

คนใจร้าย อุตส่าห์มาช่วยฉันแต่กลับไม่ยอมให้ฉันได้เจอเลย ฉันไม่เคยได้พูดแม้กระทั่งคำว่าขอบคุณด้วยซ้ำ แต่เขากลับอวยพรให้ฉัน ฉันเหลือบมองไปที่แสงไฟผ่านม่านห้องฮีโระไม่มีแม้กระทั่งความเคลื่อนไหวของเขาที่นั่น เขาไปอยู่ที่ไหนกันนะ

“Haru Massege: ขอโทษที่ฉันคอยสร้างแต่ปัญหาและขอบคุณที่ฮีโระยังคอยช่วยฉันมาตลอด เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉันจริงๆ”

ฉันปิดผ้าม่านลงหลังจากส่งข้อความเสร็จ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันก็ต้องทำให้แม่เข้าใจรุ่นพี่ให้ได้ ฉันอุตส่าห์แอบมองรุ่นพี่มาตั้งนาน ได้โปรดขอให้รุ่นพี่อย่าได้เข้าใจผิดเลยนะคะ ฉันคิดว่าถ้าแม่ได้รู้จักรุ่นพี่เหมือนที่ฉันได้รู้จัก แม่จะไม่พูดแบบนั้นกับรุ่นพี่แน่นอน ฉันปิดไฟและล้มตัวนอนลงบนเตียง ถ้าไม่คิดเรื่องที่แม่เข้าใจผิดรุ่นพี่ผิด และเรื่องที่ฉันถูกขังในห้องเรียนนั้น ซึ่งฉันก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องแบบนั้น แต่วันนี้ก็เป็นวันที่ดีมากๆสำหรับฉันเลยล่ะ

“ติ๊ด ติ๊ด” จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง มีรูปเตือนว่าฉันได้รับ 1 ข้อความใหม่

“สวยจัง นี่มันหิ่งห้อยนี่นา”

ข้อความที่ฉันได้รับจากฮีโระเป็นรูปภาพหิ่งห้อยระยิบระยับที่บินอยู่ท่ามกลางความมืด ท้ายรูปภาพมีข้อความแนบมาด้วย

“ของขวัญแห่งความยินดี ลองเปิดผ้าม่านดูสิ” ฉันลุกขึ้นจากเตียงโดยที่ยังไม่ได้เปิดไฟ เมื่อฉันเอื้อมมือไปเปิดผ้าม่านที่ริมหน้าต่างอีกครั้ง ข้างนอกปรากฏเป็นแสงระยิบระยับอยู่ริมหน้าต่างเป็นภาพที่สวยงามมากๆ เหล่าหิ่งห้อยที่เพิ่งหนีออกมาจากที่หลบฝนกำลังบินร่ายรำท่ามกลางความมืด

“นี่มันสวยยิ่งกว่าในรูปซะอีกนะเนี่ย”

ฉันเหลือบไปเห็นม่านที่ห้องของฮีโระเปิดทิ้งไว้ เขากลับมาแล้วสินะ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ



>>> The secret of memory : วันวานกับความทรงจำ <<<

................................................................................................................................................................................
นิยายรักหวานแหวว โดย : Pk.Sunfany
Facebook Fan : https://www.facebook.com/sunksong

The secret of memory : ตอนที่ 12 เงาของคน 2 คน

ฉันวิ่งมาถึงห้องแล้วตรงดิ่งไปที่โต๊ะ สำรวจดูใต้โต๊ะดูว่ามันอยู่ในนั่นหรือปล่าว แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีโทรศัพท์อยู่ใต้โต๊ะเลย ฉันก้มลงเพื่อ...

ค้นหา เพลงเกาหลี

 

เนื้อเพลง เพลงเกาหลี KPOP ร้องง่าย อ่านสบายตา © 2015 - Designed by Templateism.com, Plugins By MyBloggerLab.com